โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ควรบีบริดสีดวงทวาร ทำให้ริดสีดวงแตกไปเลยดีไหม?

HonestDocs

อัพเดต 06 มิ.ย. 2566 เวลา 08.20 น. • เผยแพร่ 06 มิ.ย. 2566 เวลา 08.20 น. • HonestDocs
หากเป็นริดสีดวง ควรทำอย่างไร? หากริดสีดวงแตก หรือมีเลือดออก ต้องทำอย่างไร? หากริดสีดวงไม่แตก เราควรบีบริดสีดวงไหม? อ่านวิธีรักษาริดสีดวงอย่างถูกวิธีที่นี่

ถ้าพูดถึงโรคใกล้ตัวเกี่ยวกับระบบขับถ่ายที่ใครๆ ก็มีโอกาสเป็นได้ คงจะหนีไม่พ้น "โรคริดสีดวงทวาร" หนึ่งในโรคที่สร้างความเจ็บปวดและรบกวนการชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น หลายๆ คนเมื่อเผชิญกับโรคนี้ก็มักจะเกิดความอาย ไม่กล้าไปพบแพทย์ และมักจะหาวิธีการรักษาริดสีดวงทวารด้วยตัวเอง บางคนเชื่อว่า การบีบริดสีดวงทวารด้วยตัวเอง จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้

แต่ความจริงการบีบริดสีดวงทวารด้วยตนเองให้แตกไม่ใช่เรื่องดี และอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

ริดสีดวงทวารเกิดจากอะไร?

โรคริดสีดวงทวารคือ ภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณปลายลำไส้ใหญ่และบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง ทำให้เกิดเลือดออกขณะขับถ่าย

สาเหตุการเกิดโรคริดสีดวงทวารนั้นยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่า ความดันในช่องท้อง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “การเบ่ง” นั่นเอง รวมทั้งสาเหตุต่อไปนี้ที่อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดริดสีดวงทวาร

  • การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ
  • พฤติกรรมการถ่ายอุจจาระที่ไม่สม่ำเสมอ
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • อายุ
  • พันธุกรรม

ชนิดของริดสีดวงทวาร

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้

  • โรคริดสีดวงทวารชนิดภายใน คือ ริดสีดวงทวารที่ไม่สามารถเห็นได้จากภายนอก ซึ่งจะอยู่เหนือบริเวณรูทวารขึ้นไปประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร โดยริดสีดวงชนิดนี้มักจะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่จะมีอาการเลือดออกให้เห็นขณะขับถ่าย
  • โรคริดสีดวงทวารภายนอก คือ ริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากทวารหนัก โดยจะสามารถมองเห็นและสัมผัสได้จากภายนอก เนื่องจากการเกิดของริดสีดวงชนิดนี้จะอยู่ในบริเวณที่มีเส้นประสาท ดังนั้นนอกเหนือจากอาการเลือดออกแล้ว ยังจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดอีกด้วย

การบีบริดสีดวงทวาร หรือทำให้ริดสีดวงแตกคือ ทางออกจริงหรือ?

การเกิดริดสีดวงทวารภายนอกอาจมีลักษณะเป็นแผลนูนออกมารอบปากทวารหนัก ซึ่งการบีบ หรือการกด ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุของโรค เนื่องจากจะก่อให้เกิดแรงดันในหลอดเลือดซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดแตกได้

ในบางกรณี เมื่อบีบ หรือกดหัวริดสีดวงแล้วผู้ป่วยยังอาจมีภาวะเลือดออกเป็นจำนวนมาก และยากที่จะหยุดเลือดด้วยตัวเองได้

นอกเหนือจากนี้การบีบริดสีดวงทวารด้วยตัวเองยังอาจทำให้เกิดแผลเปิด ซึ่งมีโอกาสสูงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากการอุจจาระแต่ละครั้งนั้น รอบๆ ทวารหนักล้วนเต็มไปด้วยแบคทีเรีย การมีแผลเปิดจึงเหมือนการเปิดทางให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง

ข้อควรรู้เบื้องต้นเมื่อเกิดอาการเลือดออกจากริดสีดวงทวาร หรือริดสีดวงแตก

บางกรณี แม้ไม่ได้บีบ หรือเค้นใดๆ ริดสีดวงทวารก็อาจแตกเองได้ ส่วนมากเริ่มจากอาการท้องผูก ซึ่งทำให้ผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวารต้องเข้าห้องน้ำนาน หรือมีการเบ่งในระหว่างขับถ่าย จนเกิดแรงดันมากถึงขั้นทำให้ริดสีดวงแตกในที่สุด

หากมีอาการเลือดออกจากโรคริดสีดวง ควรบรรเทาอาการด้วยวิธีนอนลงบนพื้นระนาบ จากนั้นให้นำหมอนมาหนุนใต้บริเวณริดสีดวงทวารและยกให้สูงกว่าระดับหัวใจ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการเกาบริเวณแผลด้วย

อย่างไรก็ดี ควรรีบพบแพทย์ทันที หากพบว่า มีอาการดังต่อไปนี้

  • มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก
  • มีอาการวิงเวียน
  • เลือดไม่หยุดไหล
  • มีอาการปวดบริเวณแผลอย่างรุนแรง

การรักษาแผลเบื้องต้นที่เกิดจากริดสีดวงทวารแตก

การรักษาแผลเปิดที่เกิดจากโรคริดสีดวงทวาร สามารถดูแลรักษาเช่นเดียวกับแผลเปิดชนิดอื่นๆ ได้แก่ รักษาความสะอาดบริเวณแผลให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรทำความสะอาดหลังการขับถ่าย หรือการใช้ห้องน้ำทุกครั้ง

ทั้งนี้สามารถปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือผ้าพันแผลบริเวณแผล เพื่อป้องกันแผลจากสิ่งสกปรก

นอกเหนือจากการดูแลรักษาแผลข้างต้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดว่า แผลมีการติดเชื้อหรือไม่ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการต่างๆ ดังนี้

  • แผลมีอาการบวม
  • มีอาการปวดบริเวณแผลอย่างรุนแรง
  • แผลเป็นหนอง
  • มีกลิ่นเหม็นจากบริเวณแผล
  • มีไข้
  • มีอาการหนาวสั่น

การรักษาโรคริดสีดวงทวารอย่างถูกวิธี

โดยทั่วไปแล้ว โรคริดสีดวงทวารไม่ใช่โรคที่เป็นอันตราย แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธี โดยทางเลือกในการรักษาของโรคริดสีดวงทวาร สามารถรักษาได้ดังต่อไปนี้

การรักษาริดสีดวงทวารเบื้องต้นด้วยตัวเอง

ผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร สามารถรักษาอาการเบื้องต้น ได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • แช่น้ำอุ่นประมาณ 15 นาที ทั้งก่อนและหลังถ่ายอุจจาระ
  • การใช้ยาเหน็บริดสีดวง
  • เน้นการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารมากๆ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช
  • หลีกเลี่ยงการเบ่งขณะถ่ายอุจจาระ
  • ทำความสะอาดทุกครั้งหลังการขับถ่าย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสและการเกาบริเวณริดสีดวงทวาร

การรักษาทางการแพทย์

ถึงแม้ว่าบางครั้งโรคริดสีดวงทวารสามารถหายได้เอง แต่โดยส่วนมากอาจต้องใช้เวลาและทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ทั้งยังกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ตรงจุดมากกว่า โดยมีแนวทางการรักษาดังต่อไปนี้

  • การรักษาด้วยยา ส่วนมากใช้เป็นการรักษาแบบประคับประคอง
  • การฉีดยา ในบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร ซึ่งจะช่วยให้เส้นเลือดแข็งและหดลง
  • การรัดยาง การรัดยางเป็นการรักษาที่ไม่เจ็บ แต่ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกหน่วงเหมือนปวดท้องถ่ายประมาณ 1-3 วัน หลังจากรัดแล้วยางจะหลุดไปเอง แผลตรงที่รัดยางจะหดกลับไป ทำให้ผู้ป่วยไม่เสียเลือด และไม่จำเป็นต้องเย็บแผล
  • การผ่าตัด โดยใช้เลเซอร์ อินฟาเรด กระแสไฟฟ้า หรือความเย็น อย่างใดอย่างหนึ่ง ในบางกรณีที่มีอาการรุนแรง อาจจำเป็นที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดมาตรฐาน ซึ่งจำเป็นต้องมีการเย็บแผลและพักฟื้นหลังผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี การรักษาโรคริดสีดวงทวารในแต่ละรูปแบบจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา

การป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า โรคริดสีดวงทวารเกิดจากแรงดันในลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ซึ่งแรงดันที่มากเกินไปนี้จะทำให้หลอดเลือดดำโป่งพอง

ดังนั้นจึงควรป้องกันไม่ให้เกิดโรคริดสีดวงทวารจะดีที่สุด เริ่มด้วยการระมัดระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ได้แก่

  • พยายามรับประทานทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น มะละกอ กล้วย บล็อคโคลี เพื่อป้องกันไม่ให้อุจจาระแข็ง
  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้อุจจาระสามารถขับออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการเบ่ง หรือนั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน
  • อย่ากลั้นอุจจาระ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือพยายามเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

การบีบริดสีดวงทวาร ทำให้แตกออก ไม่ใช่การรักษาโรคที่ต้นเหตุ และไม่ใช่การรักษาที่ถูกวิธี เพราะนอกจากจะไม่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ หรือทำให้เกิดภาวะเลือดออกรุนแรงได้

ดังนั้นวิธีการรักษาเบื้องต้นด้วยการนั่งแช่น้ำอุ่นอย่างถูกวิธีเป็นประจำจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด หรือหากสามารถเข้าการรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ก็จะดีไม่น้อย

ที่สำคัญคือ การป้องกันไม่ให้เกิดโรคริดสีดวงทวารด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่าย

เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ห่างไกลจากโรคริดสีดวงทวารแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิว รัดยางริดสีดวง ที่ โรงพยาบาลยันฮี | HDmall
รีวิว ตรวจหาริดสีดวงทวาร ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 | HDmall

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจและรักษาริดสีดวงทวาร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

👨‍⚕️⚕️👩‍⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id

💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @hdcoth หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้

📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ

เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง

ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...