โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เหมือนตกนรกทั้งเป็น! เซลส์สาวถูกหลอกทำงานจอร์เจีย บังคับรีดไข่สืบพันธุ์

แนวหน้า

เผยแพร่ 02 ก.พ. เวลา 17.00 น.

ปทุมธานี 3 หญิงไทยถูกหลอกบังคับขายไข่สืบพันธุ์ ให้รีดไข่ทุกเดือนเหมือนไม่ใช่คน

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิปวีราหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักูด อ.ธัญุบรี จ.ปทุมธานี "ปวีณา" ประสาน ขอความช่วยเหลือ พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ และทีมงานตำรวจสากลไทย ได้ประสานตำรวจสากลระหว่างประเทศ นำกำลังตำรวจสากลประมาณ 30 นาย ช่วยเหลือเหยื่อหญิงไทย 3 คนที่ร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ สามารถนำออกมาจากบ้านของจีนเทาในประเทศจอร์เจีย ซึ่งทำธุรกิจค้ามนุษย์ขายไข่สืบพันธุ์ส่งไปประเทศที่ 3 เพื่อทำเป็นเด็กหลอดแก้ว และขายอวัยวะต่างๆ

โดยตำรวจสากลระหว่างประเทศนำทั้ง 3 คนส่งบ้านพักชั่วคราว และมูลนิธิปวีณาฯ จัดส่งตัวเครื่องบินให้กลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพในวันที่ 30 ม.ค.67 ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ ได้ไปรับวันที่เดินทางกลับถึงไทย โดยประสานตม. และผกก.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้หญิงไทยทั้งหมดอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ที่เซฟเฮ้าส์เพราะถูกข่มขู่จนหวาดกลัวมาก และยังมีหญิงไทยที่รอความช่วยเหลืออีกกว่า 100 คน จึงจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนภัยหญิงไทย ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีหน่วยงานไหนจะมายื่นมือขอความช่วยเหลือ

ที่มูลนิธิปวีณาฯ : วันที่ 3 ก.พ.68 เวลา 10.00 น. 4 สาวไทยร้อง “ปวีณา” ช่วยด้วย ความยากจนจึงหางานทำในเฟซบุ๊กกลับถูกชักชวนไปอุ้มบุญอ้างให้รายได้ดี 4-6 แสนบาท ที่ประเทศจอร์เจียไม่ผิดกฏหมายจึงสนใจเดินทางไปโดยมีจีนเทาเป็นหัวหน้าควบคุมในประเทศไทยและมีคนไทยร่วมขบวนการอยู่ด้วย

ปวีณา เตือนภัยสาวไทยระวังถูกหลอกไปอุ้มบุญที่ประเทศจอร์เจีย โดยขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มจีนเทาร่วมมือกับคนไทยหลอกเหยื่อสาวๆ อ้างไปทำที่ประเทศจอร์เจียถูกกฎหมาย มีพ่อแม่ต่างชาติที่มีลูกยากจะให้อุ้มบุญดูแลอย่างดี กินอยู่สบาย รายได้หลายแสนบาท เหยื่อหลงเชื่อเดินทางไปตกระกำลำบาก ถูกบังคับขายไข่สืบพันธุ์ ให้รีดไข่ทุกเดือนเหมือนไม่ใช่คน "ปวีณา" ขอให้รัฐบาลไทยประสานรัฐบาลจีนตรวจสอบทลายเส้นทางค้ามนุษย์ โดยมีจีนเทาแฝงบัญชาการอยู่ในประเทศไทย ขอเตือนหญิงไทยอย่าหลงเชื่อเพราะหากไปแล้วอาจจะไม่ได้มีโอกาสกลับบ้านตลอดชีวิต โดยเหยื่อพร้อมให้ข้อมูลเพื่อเตือนภัยหญิงไทยก่อนจะถูกหลอก

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังรับเรื่องได้ประสาน พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ ก่อนจะพาน.ส.นา 1 ใน 4 ผู้เสียหายที่เดินทางกลับมาก่อนซึ่งมาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ไปให้ข้อมูล โดยท่านผู้การทำงานอย่างรวดเร็วมีการประสานตำรวจสากลระหว่างประเทศและนำกำลังเข้าช่วยเหลือสาวไทยกลับมาได้ 3 ราย ในวันที่ 30 ม.ค.68 ขณะที่สาวไทยอีกจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ก็อยากจะเดินทางกลับด้วยเช่นกัน สำหรับกรณีนี้ถือว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์ที่ทำโดยกลุ่มจีนเทา และมีคนไทยร่วมขบวนการ จึงอยากขอวอนให้รัฐบาลไทยประสานรัฐบาลจีนตรวจสอบทลายเส้นทางค้ามนุษย์ โดยมีจีนเทาแฝงบัญชาการอยู่ในประเทศไทย ให้รัฐบาลจีนเข้ามาทำการตรวจสอบขบวนการค้ามนุษย์ของจีนเทาและปราบปรามให้สิ้นซาก เพราะถือเป็นภัยมหันต์ มีการรีดรังไข่ในตัวผู้หญิงเพื่อหวังนำไข่ไปขายต่อเพื่อทำเด็กหลอดแก้ว โดยทำเป็นธุรกิจค้ามนุษย์ส่งขายประเทศที่ 3 ซึ่งทารกที่คลอดออกมาอาจจะถูกเก็บสเต็มเซลล์เพื่อนำไปรักษาโรคหรือเพื่อประโยชน์ของคนบางคน และทารกที่เกิดมาอาจจะต้องเสียชีวิตในที่สุด

"ทั้งนี้ขอเตือนภัยสาวไทยที่คิดจะหางานทำหรือไปทำงานในต่างประเทศควรจะตรวจสอบให้ดีอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ อย่าไป เพราะไปแล้วอาจไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน เพราะงานสบายรายได้ดีไม่มีอยู่จริง หลายคนต้องไปตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ถูกกักขัง ทรมาน ทำร้ายร่างกาย บังคับเสพยาค้าประเวณี บางคนถึงกับเอาชีวิตไม่รอด จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ปี 2567 ปัญหาล่อลวง/ค้าประเวณี/ค้ามนุษย์ สูงถึง 257 ราย แยกเป็น แจ้งเบาะแสค้าประเวณีในประเทศ จำนวน 53 ราย และขอความช่วยเหลือค้าประเวณี/ค้ามนุษย์ ต่างประเทศ 204 ราย กรณีถูกหลอกค้ามนุษยต่างประเทศ มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือกลับมาแล้ว 152 ราย ซึ่งการช่วยเหลืออาจจะช่วยไม่ได้ทุกคน เพราะฉะนั้นควรจะตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างให้ดีก่อนตัดสินใจเดินทางเพราะอาจตกเป็นเหยื่อได้."

ทั้งนี้ สืบ เนื่องจาก น.ส.นา (นามสมมุติ) ไถ่ตัว 70,000 บาท กลับมาก่อน ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ วันที่ 27 ก.ย.67 แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นเซลล์ขายของแต่รายได้ไม่พอรายจ่ายเพราะว่ามีลูก 1 คน จึงอยากหาอาชีพเสริมช่วยสามีใช้หนี้ ช่วงเดือนก.ค.67 ตนได้หางานในโซเชียลโดยค้นหาคำว่า "หางานทำในบ้าน หางานต่างประเทศ" จนได้พบเพจเฟซบุ๊กหนึ่งที่อ้างว่า "มีงานสำหรับผู้หญิง รายได้ 4-6 แสนบาท" ตนจึงติดต่อไป แอดมินบอกว่าเป็นงานอุ้มบุญที่ถูกกฎหมายในประเทศจอร์เจีย ซึ่งมีทางพ่อแม่ชาวต่างชาติที่มีลูกยากจะมาเซ็นสัญญาให้อุ้มบุญ จะดูแลอย่างดีมีที่กินอยู่อย่างสบาย รายได้ 4-6 แสนบาท พร้อมกับจะออกค่าใช้จ่ายในการทำพลาสปอร์ตและจ่ายค่าเดินทางให้ทั้งหมด ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินเรื่องประมาณ 1 เดือน

จากนั้นทางแอดมินก็ให้ตนไปทำพาสปอร์ตและนัดเดินทางในวันที่ 30 ส.ค.67 โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา เมื่อถึงวันนัดหมายพบว่ามีสาวไทยที่ร่วมเดินทางไปด้วยอีก 10 คน และมีผู้นำพาเป็นสาวไทย 1 คน รวมทั้งหมด 12 คน ซึ่งแต่ละคนไม่รู้จักกัน จากนั้นผู้นำพาได้ให้เงินติดตัวคนละ 500 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 15,000 บาท บอกว่าเอาไว้โชว์เวลาที่เจ้าหน้าที่ ตม.ตรวจ เครื่องบินไปลงที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องไปลงที่ประเทศอาร์มีเนีย ผู้นำพาได้ให้ทุกคนนอนค้างที่โรงแรม 3 คืนและพาไปที่ต่างๆ เพื่อถ่ายรูป วันที่ 4 ได้เดินทางโดยรถไฟเข้าประเทศจอร์เจีย ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าชั่วโมง

เมื่อไปถึงจอร์เจียผู้นำพาได้ให้สาวไทยทั้งหมดเข้าพักในโรงแรม 1 คืนและยืดพลาสปอร์ตทุกคน ก่อนจะพาไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งมีเนื้อที่ขนาดใหญ่และในบริเวณมีบ้านอยู่ 4 หลัง วันต่อมาตนถูกนำตัวไปที่บ้านหลังที่ 1 ซึ่งเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดพบสาวไทยอยู่รวมกันกว่า 60 คน บางคนสภาพร่างกายทรุดโทรมนั่งร้องไห้บอกว่าอยากกลับบ้าน วันต่อมาตนถูกย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ 2 ที่มีสาวไทยอยู่ 10 กว่าคน ตนสังเกตเห็นว่าที่บ้านทั้ง 4 หลังมีแต่สาวไทยรวมแล้วประมาณ 100 รายได้ และบริเวณดังกล่าวจะมีคนจีนเข้าออกตลอดเวลา ตนได้สอบถามกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ในนั้นจนทราบว่า หญิงสาวเหล่านั้นถูกหลอกมาให้อุ้มบุญ แต่ก็ไม่มีพ่อแม่ต่างชาติคนไหนมาให้เซ็นสัญญาจ้าง ทุกคนจึงถูกบังคับให้ขายไข่ คนที่ยอมก็จะถูกรีดไข่ทุกเดือนเหมือนไม่ใช่คน สภาพร่างกายย่ำแย่ คนที่ไม่ยอม อยากกลับบ้าน ก็ถูกเรียกค่าไถ่ตัวอ้างว่า เป็นค่าเดินทางและค่ากินอยู่ 50,000-70,000 บาท

เหยื่อหญิงสาวหลายคนบอกว่าต้องทนอยู่เพราะไม่มีเงินไถ่ตัวและถูกข่มขู่ว่า หากกลับประเทศไทยก็จะถูกจับกุมดำเนินคดี ทุกคนจึงกลัวมาก หญิงสาวที่อยู่ในบ้านทั้ง 4 หลัง จะมีคนจีนเข้าออกพาไปเก็บไข่หมุนเวียนกันอยู่ตลอด สำหรับคนที่จะถูกรีดไข่จะมีการถูกฉีดยากระตุ้นการตกไข่ก่อนเพื่อให้ไข่ตกหลายใบและเมื่อไข่พร้อมปฏิสนธิก็จะถูกนำตัวมาวางยาสลบและใช้เครื่องมือดูดไข่ออกไป โดยไม่รู้ชะตากรรมของทารกเหล่านั้นที่จะต้องเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จะเป็นเช่นใด? สภาพร่างกายก็ย่ำแย่ไปทุกที หญิงสาวทุกคนที่นั่นเหมือนตกนรกทั้งเป็น ส่วนตนเองเมื่อรู้ว่าถูกหลอกและไม่ยอมรีดไข่ จึงได้ติดต่อญาติเพื่อขอให้หาเงินส่งมาไถ่ตัว 70,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีคนในขบวนการที่คาดว่าเป็นหัวหน้า จากนั้นจึงได้รับการปล่อยตัวและซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไทยวันที่ 9 ก.ย.67

ก่อนที่ตนจะกลับประเทศไทยมีเพื่อนสาวไทย 3 รายที่ถูกหลอกไปเหมือนกัน ซึ่งไม่ต้องการให้กลุ่มคนจีนรีดไข่ และไม่มีเงินค่าไถ่ตัวได้ขอร้องให้ตนหาทางช่วยให้ได้กลับบ้าน ตนจึงเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเพื่อนสาวไทยทั้ง 3 รายด้วย โดย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานตำรวจสากลที่ไทยร่วมกับตำรวจสากลระหว่างประเทศนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นายเข้าไปช่วยเพื่อนทั้ง 3 คนออกจากบ้านหลังดังกล่าวที่จอร์เจีย และมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าเครื่องบินในการเดินทางกลับไทยอย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...