‘เพื่อไทย’ โพสต์ ‘นายกฯ’ สั่งการ 7 ด้าน รับมือทุกมิติ
The Bangkok Insight
อัพเดต 24 มิ.ย. เวลา 14.13 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 14.13 น. • The Bangkok Insight"เพื่อไทย" โพสต์ "นายกฯ" สั่งการ 7 ด้าน รับมือทุกมิติ ทั้งสถานการณ์โลกและชายแดนไทย-กัมพูชา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการว่า จากสถานการณ์ระหว่างประเทศที่กระทบต่อประเทศไทย ไม่ว่าเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งของอิหร่านและอิสราเอล ย่อมมีผลที่อาจจะขยายเป็นวงกว้างในโลก โดยยังไม่มีเวลาการยุติความขัดแย้งอย่างชัดเจนทำให้ส่งผลกระทบต่อการเจรจาของหลายประเทศ ต่อนโยบาย Reciprocal Tariff ของสหรัฐอเมริกาที่กำหนดกรอบระยะเวลา 90 วัน ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม นี้ ซึ่งฝ่ายไทยได้เริ่มการเจรจาแล้ว 1 รอบ ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าว ย่อมส่งผลถึงเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย ไม่ว่าเป็นผลจากปริมาณและราคาพลังงาน การเงิน การคมนาคมและการท่องเที่ยว ที่จะส่งผลถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย และความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นอย่างมาก
ส่วนสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา ขอให้คณะรัฐมนตรีทุกท่าน ร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งเตรียมหามาตรการรองรับในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทบกระเทือนพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า สถานการณ์เช่นนี้ เสถียรภาพของรัฐบาล และความสามัคคีภายในประเทศของคนในชาติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดขอให้รัฐมนตรีทุกท่านต้องใกล้ชิดประชาชน สร้างความมั่นใจ และแก้ไขปัญหา ให้ทันการณ์ โดยมีปัญหาสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดำเนินการได้แก่
- ปัญหาด้านภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรม ข้ามประเทศ Transnational crimes ตามรายงานของ UNODC (UN on Drugs and Crime) ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้หารือเมื่อวานทั้งฝ่ายความมั่นคง การต่างประเทศ ด้านสื่อสารประชาสัมพันธ์ ที่นายภูมิธรรมฯ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยรัฐบาลขอย้ำถึงการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติสุข สำหรับประชาชนทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว
- ปัญหาด้านความมั่นคงพลังงาน มอบให้ นายพีระพันธุ์ฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับผิดชอบในการกำหนดมาตรการเตรียมพร้อม รับมือสำหรับพลังงานสำรอง และมาตรการช่วยเหลือประชาชน หากมีภาวะขาดแคลนหรือมีราคาที่สูงขึ้น
- ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเงิน การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน มอบหมายให้นายพิชัย ฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบ หารือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กำหนดมาตรการและเป้าหมายที่ชัดเจน
- ปัญหาราคาพืชผลเกษตร มอบให้นายพิชัยฯ รองนายกฯ และ รวม. กค. หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่จะต้องเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะราคาข้าว ที่จะต้องเร่งสรุปมาตรการเยียวยาแก่เกษตรกรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงปัญหาการลักลอบนำเข้า สินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาพืชผลเกษตรภายในประเทศตกต่ำโดยขอให้กรมศุลกากร สรุปปัญหา และมาตรการในการแก้ไขปัญหา มาเสนอพร้อม กับมาตรการยกระดับราคาพืชผลเกษตรภายในสัปดาห์หน้า
- ปัญหายาเสพติด มอบให้ นายภูมิธรรมฯ รอง นรม. และ รมว.กลาโหมเตรียมจัดการประชุมด่วนระหว่างนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจทุกจังหวัด เพื่อมอบนโยบายและกำชับมาตรการที่เป็นรูปธรรม โดยจะต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ขยายผล ต่อเนื่องจากมาตรการ Seal Stop Safe ภายในสัปดาห์หน้านี้
- ปัญหาการท่องเที่ยว ที่เป็นเครื่องจักรสำคัญของการสร้างรายได้ และกระจายรายได้ มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวๆ เร่งปรับมาตรการกระตุ้น ท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มาเสนอภายในสัปดาห์หน้า โดยขอให้เน้นย้ำการเสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่เป็นรูปธรรมและเห็นผลได้ อย่างรวดเร็ว
- ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ มอบให้กระทรวงแรงงาน เร่งนำมาตรการ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นำมาพิจารณาใน ครม. สัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันขึ้นค่าแรงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการเรื่อง ปัญหา”กัญชาเสรี“ ดังนี้ จากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดมาอย่างต่อเนื่องที่ส่งกระทบต่อประชาชนในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พบว่ามีการนำเอากัญชาออกจากบัญชีสารเสพติด ทำให้มีการเปิดร้านค้าหลายประเภท ที่มีวัตถุประสงค์ทั้งการสันทนาการ และเพื่อการแพทย์ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติด ทำให้เด็กและเยาวชนประชาชนเข้าถึงได้โดยง่าย
จึงสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งศึกษาถึงมาตรการในการควบคุม กัญชาให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยขอให้เน้นการใช้“กัญชาเพื่อการแพทย์”เท่านั้น เพื่อไม่ให้ประชาชน และเยาวชนในสังคมต้องมัวเมาติดสารเสพติดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ ให้พิจารณาว่าจะปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอย่างไร ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด นายกรัฐมนตรีกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'อัลจาซีรา แฉคลิปเสียง 'ฮุน เซน' สั่งจับฝ่ายค้านเขมรในไทย 'ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย'
- 'นายกฯ อุ๊งอิ๊ง' บินพบ 'แม่ทัพภาคที่ 2'' เจอกันครั้งแรกหลังคลิปเสียงหลุด!!
- 'พล.อ.ณัฐพล' ลั่นคลิปเสียง 'นายกฯ-ฮุนเซน' ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นวางแผนการที่ซับซ้อน
ติดตามเราได้ที่