โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ญี่ปุ่นในมุมสีเทา!! โตเกียว...ศูนย์กลางแห่งใหม่ธุรกิจบริการทางเพศในเอเชีย ‘ความฟุ้งเฟ้อ – ยากจน’ ผลักดันเด็กสาวเข้าสู่วังวนค้ากาม

THE STATES TIMES

อัพเดต 06 ธ.ค. 2567 เวลา 09.20 น. • เผยแพร่ 07 ธ.ค. 2567 เวลา 04.30 น. • ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล

โตเกียว…ศูนย์กลางแห่งใหม่ของธุรกิจบริการทางเพศในทวีปเอเชีย

ธุรกิจบริการทางเพศเป็นหนึ่งในธุรกิจการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตามบันทึกของชาวสุเมเรียนที่ย้อนกลับไปถึงประมาณ 2,400 ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้กล่าวถึงการค้าประเวณีว่าเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งบรรยายถึงซ่องโสเภณีภายในวิหารแห่งเทพีอิชทาร์ที่ดำเนินการโดยนักบวชชาวสุเมเรียนในเมืองอูรุกของดินแดนสุเมเรียน (ปัจจุบันคือภูมิภาคตะวันออกกลาง) สำหรับญี่ปุ่นแล้ว ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 นักเดินทางชาวจีน เกาหลี และชาวตะวันออกไกลอื่น ๆ ได้เริ่มแวะเวียนไปยังซ่องโสเภณีในญี่ปุ่น วิถีปฏิบัตินี้ยังคงดำเนินต่อไปในหมู่นักเดินทางจากภูมิภาคตะวันตกซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าชาวยุโรป โดยเริ่มจากชาวโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16 ซึ่งมักมาพร้อมกับลูกเรือจากเอเชียใต้และลูกเรือชาวแอฟริกันมักจะค้าทาสกามจากญี่ปุ่น โดยพวกเขาจะจับเอาหญิงสาวชาวญี่ปุ่นซึ่งแรกเริ่มถูกใช้เป็นทาสทางเพศบนเรือ หรือพาไปที่มาเก๊าและอาณานิคมโปรตุเกสอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีปอเมริกา และอินเดีย อย่างเช่น เมืองกัว อาณานิคมของโปรตุเกสในอินเดีย ซึ่งมีชุมชนทาสและพ่อค้าชาวญี่ปุ่นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 และ 17 ต่อมาบริษัทอินเดียตะวันออกของ ยุโรป รวมถึงบริษัทของชาวดัตช์และอังกฤษก็เริ่มนำเอาหญิงสาวชาวญี่ปุ่นมาค้าประเวณีเช่นกัน

ภาพของ ‘โออิรัน’ กำลังเตรียมตัวรับลูกค้า

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 มีการค้าประเวณีชายและหญิงอย่างแพร่หลายในเมืองเกียวโต เอโดะ(ปัจจุบันคือกรุงโตเกียว) และโอซากะ ในญี่ปุ่น ‘โออิรัน’ เป็นโสเภณีในญี่ปุ่นในช่วงยุคเอโดะ โออิรันถือเป็นประเภทหนึ่งของยูโจ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ผู้หญิงแห่งความสุข’ หรือ ‘โสเภณี’ ในบรรดาโออิรันแล้ว ‘ทายู’ ถือเป็นโสเภณีที่มีชั้นสูงสุดที่บริการได้เฉพาะชายที่มีฐานะร่ำรวยที่สุดเท่านั้น โออิรันจะถูกฝึกฝนในด้านศิลปะการร่ายรำ ดนตรี บทกวี และการเขียนอักษรวิจิตร รวมถึงบริการทางเพศเพื่อให้ความบันเทิงแก่ลูกค้า และการศึกษาถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสนทนาที่ซับซ้อน นอกเหนือจากการให้ความสุขแล้ว ศิลปะและแฟชั่นของพวกเธอมักจะกลายเป็นกระแสในหมู่หญิงญี่ปุ่นที่มีฐานะร่ำรวย ในปี ค.ศ. 1761 ‘โออิรัน’ คนสุดท้ายที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ‘คารายูกิซัง’ แปลว่า ‘หญิงสาวที่ไปทำงานต่างประเทศ’ เป็นหญิงญี่ปุ่นที่เดินทางหรือถูกนำไปค้ามนุษย์ในเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แมนจูเรีย ไซบีเรีย และบางครั้งไปไกลถึงซานฟรานซิสโก (ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 และครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20) เพื่อทำงานเป็นโสเภณี หญิงบริการ และเกอิชา ในศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 มีเครือข่ายโสเภณีญี่ปุ่นที่ถูกนำมาค้ามนุษย์อยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียในประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และอินเดีย ในยุคที่อังกฤษปกครองซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ ‘การค้าทาสผิวเหลือง’

หญิงขายบริการในสวนสาธารณะโอคุโบะ

ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามและถูกยึดครองโดยกองกำลังสัมพันธมิตร อาชีพการให้บริการทางเพศกลับมาเฟื่องฟูจนกระทั่งทศตวรรษ 1970 เมื่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกลับมารุ่งเรือง อาชีพการให้บริการทางเพศในญี่ปุ่นจึงค่อย ๆ ลดลง ในช่วงยุคปีทองของเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้นชายชาวญี่ปุ่นมักจะออกเดินทางไปยังต่างประเทศเพื่อแสวงหาบริการทางเพศกับหญิงสาวในประเทศยากจน แต่ในปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อผู้ชายต่างชาติแห่กันมาที่กรุงโตเกียวเพื่อแสวงหา “บริการทางเพศ” ในญี่ปุ่นแทน ทั้งนี้การที่อาชีพการให้บริการทางเพศกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่งสืบเนื่องมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและความยากจนในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น

ลูกค้ากำลังพูดคุยกับหญิงขายบริการในย่านคาบูกิโจ

โยชิฮิเดะ ทานากะ เลขาธิการสภาประสานงานปกป้องเยาวชน (Seiboren) ได้เล่าบริบทในปัจจุบันที่เป็นอยู่อันน่าหดหู่ใจในรายการ This Week in Asia ว่า “ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศยากจน” ใกล้ ๆ กันนั้น ในสวนสาธารณะที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการค้าประเวณีในเมือง มีหญิงสาวมารอรับลูกค้าก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าเสียด้วยซ้ำ องค์กรของทานากะสังเกตเห็นว่ามีชาวต่างชาติจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ มาที่สวนสาธารณะในทันทีที่ข้อจำกัดการเดินทางในยุคการระบาดถูกยกเลิก “ตอนนี้เราเห็นชายชาวต่างชาติมากขึ้น” เขากล่าว “พวกเขามาจากหลายประเทศ มีทั้ง ผิวขาว เอเชีย ผิวดำ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนจีน” ทานากะกล่าวว่า การหลั่งไหลดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการที่วัยรุ่นและผู้หญิงวัยยี่สิบต้น ๆ หันไปค้าบริการทางเพศเพื่อความอยู่รอด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ ความรุนแรงยังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจอีกด้วย “สถานการณ์แย่ลงเรื่อย ๆ แย่ลงมาก” เขากล่าวพร้อมส่ายหัว “ที่นี่…มีเด็ก ๆ มากขึ้น และความรุนแรงก็มากขึ้นด้วย แต่หน่วยงานของเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าที่เราได้ทำอยู่แล้ว” ความหงุดหงิดของทานากะนั้นสามารถสัมผัสได้ ในขณะที่เขานึกถึงการต่อสู้ดิ้นรนยาวนานกว่าทศวรรษของเขาเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่อพยพมาอยู่ในย่านคาบูกิโจอันเลื่องชื่อของเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วย บาร์ โรงแรมสำหรับคู่รัก และคลับโฮสต์ซึ่งผู้ที่เปราะบางมักตกเป็นเหยื่อ

แฟชั่นแนว โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita หรือ Goth Loli) *ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในบทความ

หนึ่งในนั้นก็คือ Rao (ชื่อสมมติ) เด็กสาวญี่ปุ่นวัย 19 ปีที่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโรงเรียนมัธยมที่จังหวัดคานากาวะได้ จึงตัดสินใจมาย่านคาบูกิโจ ซึ่งเธอหวังว่าจะได้งานในร้านกาแฟ แต่กลับพบว่าค่าใช้จ่ายมากมายจนเกินกำลัง “ฉันเป็นหนี้เจ้าของบ้านเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตั้งแต่เดือนเมษายน ฉันจึงไปที่สวนสาธารณะ” เธอกล่าวโดยใช้สำนวนอุปมาสำหรับการยืนอยู่บนถนนแคบ ๆ รอบ ๆ สวนสาธารณะโอคุโบะ เพื่อรอให้ชายที่ที่เป็นลูกค้าเข้ามาหา “ฉันต้องการเงินไปใช้หนี้ และอยากซื้อของดี ๆ เช่นเสื้อผ้า” Rao กล่าวด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ของเธอ และไว้ทรงผมบ็อบเก๋ไก๋และมีสไตล์สำหรับแฟชั่นแนว โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita หรือ Goth Loli) หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า ‘Gosurori’

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Papa katsu ซึ่งหมายถึงชายสูงอายุที่เลี้ยงดูเด็กสาว

นอกจากนั้นแล้วเธอยังใช้เงินเพื่อไปเที่ยวโฮสต์ที่เธอชื่นชอบที่คลับในท้องถิ่นทุก ๆ สองสามวัน เธอยังลองทำสิ่งที่เรียกว่า Papa katsu ซึ่งเป็นการหา Sugar daddy เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของเธอ เธอเล่าถึงงานของเธออย่างไม่ใส่ใจ โดยบอกราคาค่าห้องในโรงแรมแบบชั่วโมงละ 15,000 เยนถึง 30,000 เยน (100-200 ดอลลาร์สหรัฐ) เหมือนกับรายการอาหาร ในวันธรรมดาเธอจะได้ลูกค้าประมาณ 5 คน ส่วนในวันหยุดสุดสัปดาห์จำนวนลูกค้าอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า Rao เพิ่งทำแท้งเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นความจริงอันเลวร้ายของวิถีชีวิตของเธอ เธอเล่าว่า “มีผู้ชายหลายประเภทที่มาที่สวนสาธารณะโอคุโบะ แต่ฉันคิดว่าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ” เธอกล่าวเสริมว่า “ฉันเคยคุยกับผู้หญิงที่อยู่ที่นี่มานานกว่า และพวกเธอก็บอกว่ามันแตกต่างออกไป เดิมทีที่นี่มีแต่ผู้ชายญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงไปแล้ว” Rao เล่าถึง “ชายชาวอังกฤษคนหนึ่ง” ที่เป็นลูกค้าประจำ รวมถึงลูกค้าจาก ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง “ฉันเป็นที่นิยมเพราะรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นฉันจึงยุ่งอยู่เสมอ” เธอบอก

ลูกค้าสูงวัยกำลังพูดคุยกับหญิงขายบริการในย่านคาบูกิโจ

แต่ความเสี่ยงนั้นมีอยู่ตลอดเวลา “เพื่อนของฉันคนหนึ่งถูกชายชาวจีนทำร้ายบนถนนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน” Rao กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่แฝงไปด้วยความกลัว “พวกเขากำลังคุยกันเรื่องราคา แล้วจู่ ๆ เขาก็โกรธและเตะเธอ หัวของเธอไปกระแทกกับอะไรบางอย่างและได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก แต่จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังโชคดี” ทานากะยืนยันประสบการณ์ของ Rao เมื่อเธอโทรหาเขาหลังจากเพื่อนของเธอถูกทำร้าย เขาก็รีบไปช่วยและพาหญิงรายนั้นที่ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล เขาบอกว่า เธอโกรธและต้องการแจ้งความกับตำรวจอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่ทำร้าย ตำรวจกลับสนใจที่จะตั้งข้อหาว่า เธอเป็นโสเภณีมากกว่าที่จะแสวงหาความยุติธรรมให้กับการบาดเจ็บของเธอ เมื่อเผชิญกับความจริงที่ว่าการแจ้งความอาจนำไปสู่การจับกุมเธอเอง เธอจึงถอนคำร้องทุกข์

หญิงขายบริการในสวนสาธารณะโอคุโบะ

“เป็นแบบนั้นเสมอ” ทานากะกล่าวด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “สาว ๆ ถูกทำร้ายเพราะลูกค้ารู้ว่าพวกเธอจะไม่ไปแจ้งตำรวจ … ผู้ชายรู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงคิดว่า ตัวเองทำอะไรก็ได้” ทานากะยังคงมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับอนาคตของ Rao แม้ว่าเขาจะตระหนักดีว่า งานของเธอจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเธอ ซึ่งเขาเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หญิงสาวที่ไปหาลูกค้าสวนสาธารณะโอคุโบะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านประสบการณ์นี้มาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลต่างพากันเพิกเฉย ทานากะเกรงว่า ชีวิตเยาวชนที่ติดอยู่ในวังวนแห่งความสิ้นหวังและการถูกเอารัดเอาเปรียบจะเลวร้ายลงไปอีก ในขณะที่ทั้งโลกต่างคอยเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ “ผมคิดว่า ในไม่ช้าจะมีใครซักคนถูกฆ่าตาย” เขากล่าว “มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจหญิงพวกนี้เลย การที่ใครสักคนถูกลูกค้าฆ่าตายอาจทำให้พวกเขาสนใจได้ครู่ใหญ่ แต่ผมคาดว่า หลังจากไม่นานพวกเขาก็จะลืมเรื่องนี้ได้อีกครั้ง”

ลูกค้าสูงวัยกำลังพูดคุยกับหญิงขายบริการในย่านคาบูกิโจ

คาซูโนริ ยามาโนอิ สมาชิกรัฐสภาจากพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศได้เรียกร้องให้มีการควบคุมการค้าบริการทางเพศ โดยเขากล่าวว่า “ความจริงก็คือ ญี่ปุ่นได้กลายเป็นประเทศที่ผู้ชายต่างชาติสามารถหาหญิงสาวและซื้อบริการทางเพศได้” ยามาโนอิกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เพียงปัญหาภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายต่อการรับรู้ที่มีต่อสตรีญี่ปุ่นในชุมชนระหว่างประเทศอีกด้วย ตามรายงานของกรมตำรวจนครบาล (MPD) ระบุว่า หญิงที่ถูกจับกุมขณะทำงานบนท้องถนนในปี 2023 ประมาณ 43% กล่าวว่าพวกเธอเริ่มขายบริการเพื่อจ่ายเงินให้กับคลับโฮสต์และศิลปินชายใต้ดิน โดยประมาณ 80% ของผู้ถูกจับกุมอยู่ในวัย 20 ปี ในขณะที่ 3 คนมีอายุ 19 ปีหรือน้อยกว่า จากข้อมูลของยูอิจิ โฮโจ ตัวแทนของสมาคมโฮสต์คลับแห่งประเทศญี่ปุ่น ระบุว่ามีโฮสต์คลับประมาณ 240 ถึง 260 แห่งในพื้นที่คาบูกิโจ ราคาเฉลี่ยต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 20,000 เยน โดยพนักงานบางคนมีโควตาที่ต้องจ่ายเป็นรายวันเพื่อจ่ายคืนให้กับโฮสต์คลับ

หญิงขายบริการในสวนสาธารณะโอคุโบะ

ผู้ให้บริการทางเพศมีความเสี่ยงไม่เพียงแต่ต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายร่างกายและถูกกรรโชกทรัพย์อีกด้วย ในญี่ปุ่น การซื้อและขายบริการทางเพศเพื่อเงินถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่การห้ามจำกัดเฉพาะการสอดใส่เท่านั้น กฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีกำหนดโทษทางอาญาคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 เยน แต่สำหรับผู้ขายบริการเท่านั้น (ฝ่ายหญิง) ไม่ใช่ผู้ซื้อบริการ (ฝ่ายชาย) แม้ว่าตำรวจนครบาลแห่งกรุงโตเกียวจะให้คำมั่นว่า จะดำเนินคดีสำหรับการกระทำรุนแรง แต่ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกว่า ตำรวจให้ความสำคัญกับการปราบปรามการค้าประเวณีบนท้องถนน มากกว่าความรุนแรงต่อหญิงสาวเหล่านั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...