โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Hurry Sickness วิถีใหม่คนยุคไอที.!?

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ด้วยยุคแห่งเทคโนโลยีการสื่อสาร นำมาสู่การสื่อสารผ่าน “โซเชียลมีเดีย” การใช้อุปกรณ์สื่อสาร ที่อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างในการดำรงชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ จนกลายเป็นชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และหลายคนเคยชินจนแทบลืมวิถีเดิมที่เคยเป็นไปแล้ว..!!

แหละนั่นทำให้พฤติกรรมยุคไอทีเปลี่ยนไป กลายเป็นคนขี้เบื่อ ใจร้อน หงุดหงิดง่าย เครียดง่าย แม้แต่เรื่องเล็กน้อย เช่น ทนรอการดาวน์โหลดรูปภาพนาน ๆ ไม่ได้ เกิดการหงุดหงิดทุกครั้ง เมื่อคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเกิดอาการค้าง บางรายเกิดอาการกระวนกระวายใจ และลุกลามสู่ความสัมพันธ์เชิงลบต่อคนรอบข้าง..

จึงกลายเป็นที่มาของ “โรคทนรอไม่ได้” หรือ Hurry Sickness นั่นเอง..!!!

สำหรับโรคทนรอไม่ได้ (Hurry Sickness) คือพฤติกรรมที่มีอาการใจร้อน หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่ายกับการรออะไรบางสิ่งบางอย่าง เป็นผลกระทบจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือมักเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่เสพติดการใช้โซเชียลมีเดีย การเปลี่ยนไปสู่โรคทนรอไม่ได้นี้จะทำให้ร่างกายและจิตใจเข้าสู่ภาวะผิดปกติ

แม้ว่า “โรคทนรอไม่ได้” จะเกิดขึ้นในยุคสมัยของคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี แต่นิยามคำว่า Hurry Sicknessเกิดขึ้นช่วงค.ศ. 1974 จาก 25 แพทย์รักษาโรคหัวใจ นั่นคือ Meyer Friedmanและ Ray Rosenman นิยามถึงพฤติกรรม หรือลักษณะอาการคนที่มักจะรู้สึกหงุดหงิด ฉุนเฉียว เร่งรีบ ผ่านหนังสือเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลหมู่เลือด A กับเรื่องหัวใจ (Type A Behavior And Your Heart) ภาวะทนรอไม่ได้นี้ เป็นหนึ่งในลักษณะคนหมู่เลือด A เช่นเดียวกัน

สำหรับ 6 อาการ Hurry Sickness เริ่มจาก 1)ทุกการกระทำคือการแข่งขัน อาทิ การซื้อของ การกินหรือแม้แต่รถติดไฟแดง ที่ก่อให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดได้

2)หนึ่งเวลาทำหลายงาน โดยคนประเภทนี้เวลาเดียวกันมักจะหยิบหลาย ๆ งานขึ้นมาทำ เพราะรู้สึกว่าจะได้ไม่เสีย เวลา

3)ความล่าช้าคือความน่าหงุดหงิด ตัวอย่างเช่นหากเริ่มกดลิฟต์ซ้ำ ๆ เพราะอยากให้ถึงเร็ว หรือหงุดหงิดกับการต่อแถวยาว ๆ เริ่มเป็นสัญญาณเตือนชัดเจน

4)รู้สึกตัวเองล่าช้าตลอดเวลา มักเกิดจากคนที่พยายามทำอะไรให้สำเร็จแบบรวดเร็วเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การเดินทาง หากไม่สำเร็จในเวลาที่ต้องการก็จะเกิดความหงุดหงิด อารมณ์เสียได้ง่าย ๆ

5)ขัดจังหวะผู้อื่นบ่อย ๆ ด้วยการขัดจังหวะเวลาอยู่ในวงสนทนา แม้บางครั้งไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเกิดจากอาการที่ทนรอไม่ได้

6)หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ต้องทำมากเกินไป เป็นอาการรู้สึกกระวนกระวายที่อยากจะทำงานใหม่ เพราะอยากที่จะให้มันสำเร็จ สิ่งนี้อาจไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพงาน แต่กลายเป็นผลเสียต่องานและสุขภาพใจโดยไม่รู้ตัว

แม้ปัจจุบันภาวะ “ทนรอไม่ได้” ไม่ได้ถูกบรรจุเป็น “โรคทางจิตเวช” แต่คนที่ประสบกับภาวะเช่นนี้และยังไม่ทำการแก้ไข จะส่งผลให้มีความเสี่ยง จนกลายเป็นโรคทางประสาทได้ และหากแก้ไขด้วยตนเองแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าไม่สบายใจ หรือยังไม่สามารถปล่อยวางอารมณ์ฉุนเฉียวลงได้ การปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะเป็นทางออกได้

นี่คือ “ภัยเงียบ” ที่ซ่อนแอบมายุคเทคโนโลยีสื่อสาร ที่มิอาจมองข้ามได้เลยทีเดียว..!!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...