รอยจารึกในแผ่นดิน “อาลัย 42 ทหารกล้า” ความภูมิใจไทยทั้งชาติ

เหลือไว้เพียงความอาลัย และทิ้งความภาคภูมิใจไว้ให้คนไทยทั้งชาติ สำหรับนักรบไทยที่พลีชีพในสงครามไทย-กัมพูขา ทั้ง 2 รอบ จำนวน 42 นาย โดยการทำศึกรอบแรก ตั้งแต่วันที่ 24 -28 ก.ค. 2568 ก่อนจะมีข้อตกลงสันติภาพ เจรจาหยุดยิงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มี“ อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประสาน ใช้มาตรการภาษี กดดันให้ไทย-เขมร หยุดยิง

ในการศึกรอบแรก มีทหารไทยใช้ชีวิตปกป้องแผ่นดิน จำนวน 15 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2558 พลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ พลทหารผลัดที่ 2/66 สังกัด ร.13 ร้อย ค.หนัก กำลังพล มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) กองพันทหารราบที่ 13 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ต่อมาวันที่ 25 ก.ค. 2568 มีทหารเสียชีวิต คือจ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา นายสิบ ลว.ป.6 พัน 106 ประจำฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น จ.ศรีสะเกษ , ส.อ.จิรายุ สิงห์อัน ชาว จ.ร้อยเอ็ด ปฏิบัติภารกิจดูแลอธิปไตยชายแดนไทย–กัมพูชาประจำปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ , ส.อ.นพดล บุญเลิศ สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) จากเหตุปะทะบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ , ส.อ.กฤษดา น้อยโคตร สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) เหตุปะทะบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ , ส.ท.ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ สังกัดกองร้อยอาวุธเบาที่ 1 ร.8 พัน 1 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย จากการปะทะในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ ส.อ.จิรายุส อินทุมาน หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองพลรบพิเศษที่ 1 ค่ายเอราวัณ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรีเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดนไทย–กัมพูชา

วันที่ 26 ก.ค. 2568 มีทหารเสียชีวิต 1 นาย คือ พลทหาร ญาณพัฒน์ โคตรสาขา สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ที่แนวพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

วันที่ 28 ก.ค. ก่อนจะมีการหยุดยิง มีทหารเสียชีวิตในสมรภูมิรบนี้อีก 7 นาย คือ ส.อ. อัมรินทร์ ผาสุข , พลทหาร สิรวิชญ์ ภิญโญสุข , จ.ส.อ. อโณทัย ป้องแก้ว , จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารทหารราบที่ 3

จ.ส.อ.อภิรมย์ ทรงพุฒิ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารทหารราบที่ 8 ,พลทหาร ธีรยุทธ กระจ่างทอง สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 13 และ ส.ท.ต่อพงษ์ พันดวง สังกัดกองพันกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารทหารราบที่ 16 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ก.ค. จากการปะทะที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

สงครามยังไม่จบ หลังเจรจาหยุดยิงได้ 5 เดือน แต่ฝ่ายกัมพูชา ยังคงลักลอบนำอาวุธหนักและเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน 7 จังหวัด อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีษะเกษและสุรินทร์ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 แต่รบรอบนี้ขยายวงมาอีก 3 จังหวัดชายแดนภาคตะวันออก สระแก้ว ตราดและจันทบุรี

กัมพูชาเปิดฉาก 7 ธ.ค.2568 ขณะที่ทหารไทยก็ไม่แผ่ว ไม่ได้ตั้งรับ แต่เปิดปฏิบัติการเชิงลึกและเชิงรุก เข้าล้างบาง “ศูนย์สแกมเซนเตอร์” สแกมอาร์มี่ แหล่งกาสิโน ค้ามนุษย์ อาชญา กรรมออนไลน์ ทวงคืนพื้นที่อธิปไตยที่ถูกเขมรรุกล้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ทหารพราน และตชด. ทุกหน่วยมาครบเครื่อง เพราะต่างทราบว่า สำหรับ “เขมร” “สันติภาพ” ไม่มีอยู่จริง

ในวันหยุดยิง 27 ธ.ค. ก่อนเที่ยง “ทหารไทย” เสียขาที่ 10 และเมื่อช่วงสายวันนี้ ( 29 ธ.ค.) ขาที่ 11 ของ จ.ส.ต.สุจินต์ จิตกรียาน สังกัด ช.พัน 8 พล.ม.1 ก็สูญเสีย ไปอีกในพื้นที่ “สะตะโสม” อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่จากระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 หลังการประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ชี้ให้เห็นแล้วว่า “ข้อตกลง”และ “สันติภาพ”ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ท่ามกลางการสู้รบตลอด 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 -26 ธ.ค. 2568 มีนักรบไทย ต้องพลีชีพจากสงครามไทย-กัมพูชารอบ 2 จำนวน 27 นาย

ประกอบด้วย จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัด ร้อย ม.(ลว.) เสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2568 , พลทหาร วายุ ขวัญเสือ สังกัด พัน.ร.27 ร.31 พัน. , เสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2568 จำนวน 3 นาย คือ ส.อ.ชวกร เดชขุนทด สังกัด ม.4 พัน.11 รอ. ,จ.ส.ท.จิระวัฒน์ มุ่งกลาง สังกัด ช.พัน.1 รอ. , พลทหาร เทิดศักดิ์ ศรีลาชัย สังกัด ร.23 พัน.3

วันที่ 10 ธ.ค.2568 มีทหารพลีชีพ จำนวน 4 นาย ประกอบด้วยจ.ส.อ.อนันดา อุดร สังกัด ร.16 พัน.3,พลทหาร ธนรัตน์ จันทร์ประทัด สังกัด ร.112 พัน.3 , พลทหาร ชาญชัย ผดุงโชค สังกัด ร.112 พัน.3 , พลทหาร ธนกร สิงหาชาติ สังกัด ร.112 พัน.3

วันที่ 12 ธ.ค. 2568 มีนายทหารเสียชีวิต จำนวน 2 นาย คือ ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน สังกัด รพศ.1 พัน.2 และ จ.ส.อ.วุธ จักร โททอง สังกัด ม.4 พัน.25 รอ.

วันที่ 13 ธ.ค.2568 มีทหารพลีชีพ จำนวน 4 นาย ประกอบด้วยจ.ส.อ.ดำรงค์เกียรติ แก้วกระจ่าง สังกัด พัน.จจ., จ.ส.อ.ทวีรัตน์ รัตนบุรี สังกัด ร้อย.จจ., พลทหาร กฤตฏิกร สร้อยระย้า สังกัด พัน.ร.91 (ร.9 พัน.1) และ พลทหาร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ สังกัด ร้อย.จจ.

วันที่ 14 ธ.ค. 2568 จำนวน 1 นาย คือ 16. จ.ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค สังกัด ร.16 พัน.3

วันที่ 15 ธ.ค.2568 จำนวน 1 นายจ.ส.อ.กฤษฏา หาญสุโพธิ์ สังกัด ร.3 พัน.3

วันที่ 16 ธ.ค.2568 จำนวน 2 นาย คือ “จ่าเริง” จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน สังกัด ร.3 พัน.3 และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัด ร.23 พัน.3

วันที่ 17 ธ.ค.2568 จำนวน 2 นาย จ.ส.อ.พรศักดิ์ เอี่ยมสะอาด สังกัด ร.2 รุ่น 35/54 พลทหาร วสันต์ ขานหัวโทน สังกัด ร.13 พัน.3

วันที่ 22 ธ.ค. 2568 จำนวน 1 นาย คือ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง สังกัด ร.21 รอ.

วันที่ 23 ธ.ค.2568 จำนวน 1 นาย คือ พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์ สังกัด พัน.ร.2 รอ.3

วันที่ 26 ธ.ค.2568 จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.พงศกร นาคทองดี สังกัด พัน.2 ร.2 รอ., พลทหาร ปฏิพัทธิ์ ศรประดิษฐ์ สังกัด พัน.2 ร.2 รอ. และ พลทหาร ทิวตะวัน พลเยี่ยม สังกัด พัน.2 ร.2 รอ.

วันที่ 27 ธ.ค.2568 จำนวน 1 นาย คือจ.ส.อ.พีระยุทธ น้าวิลัยเจริญ สังกัด ป.2 พัน.2 รอ.

ไทยพีบีเอส ออนไลน์ ขอจารึกชื่อและสดุดีวีรกรรม ทหารกล้าทั้ง 42 นาย ในสงครามไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 รอบไว้ ณ ที่นี่ ..และก่อนจะใกล้ครบกำหนดหยุดยิง 72 ชั่วโมง วันที่ 30 ธ.ค.2568 ต้องจับตาชาย แดนไทย-กัมพูชาตลอด 12 แนวรบว่า นอกจากการส่งโดรนเข้ามาบินมาก่อกวนในเวลากลางคืนแล้ว จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป …สงครามยังไม่จบ และไทยยังยืนยันในหลักการเดิม การเจรจา การหยุดยิง และการป้องกันประเทศ จะดำเนินควบคู่อย่างสมดุลต่อไป

อ่านข่าว

รอยจารึกในแผ่นดิน “อาลัย 42 ทหารกล้า” ความภูมิใจไทยทั้งชาติ

“ฮุน เซน” อกแตก “ไทย-เขมร” หยุดยิง “สร้างสันติภาพ” บนเส้นทางคู่ขนาน