เทรนด์เมคอัพไซซ์มินิ ทำไมคนกันมาใช้กันเยอะ พร้อมป้ายยาตัวเด็ด!
เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเห็นคนใช้ "เครื่องสำอางขนาดทดลอง" หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าเทสเตอร์ (Tester) หรือเมคอัพไซซ์มินิกันบ้างใช่ไหมละคะ ขนาดกะทัดรัด ปริมาณไม่เยอะแต่ไม่รู้ว่าทำไม้ทำไมคนถึงชอบซื้อ แถมบางคนก็ซื้อใช้เป็นประจำด้วย ทำให้ช่วงนี้กลายเป็นว่า เทรนด์เมคอัพไซซ์มินิ กำลังมาสุด ๆ ว่ามาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนก็อาจจะสงสัยใช่ไหมล่าว่ามันเป็นเทรนด์ได้ยังไง งั้นเราเดี๋ยวเรามาหาคำตอบด้านล่าง พร้อมกับลิสต์ 10 เมคอัพไซซ์มินิตัวปังกันดีกว่า มา!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เทรนด์เมคอัพไซซ์มินิคืออะไร ?
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเมคอัพไซซ์มินิคืออะไร เมคอัพไซซ์มินิก็คือเครื่องสำอางขนาดเล็ก เครื่องสำอางขนาดทดลอง เครื่องสำอางแบบซองหรือที่บางคนอาจจะเรียกสั้น ๆ ว่าเทสเตอร์ (Tester) นั่นเองค่ะ เครื่องสำอางพวกนี้จะมีขนาดเล็กและปริมาณที่ค่อนข้างน้อย เน้นเป็นการใช้เพื่อทดลองประสิทธิภาพเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะสามารถใช้ได้ 1 - 3 ครั้งก็หมด แต่ถ้าบางตัวที่ไซซ์ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็อาจจะใช้ได้เป็นเดือน ๆ เลยทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเช็กวันหมดอายุด้วยนะคะ เทสเตอร์หรือเครื่องสำอางแบบซองบางตัวจะมีเขียนอยู่ด้วย สังเกตง่าย ๆ จากตัวย่อ EXP หรือรูปกระปุกครีมที่มีเลข 3M, 6M, 12M ได้เลยค่า
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
ทำไมคนหันไปใช้เทสเตอร์เยอะขึ้นกันนะ ?
เหตุผลที่หลาย ๆ คนหันมาใช้เทสเตอร์หรือเมคอัพไซซ์มินิกันเยอะมากขึ้น หลัก ๆ ก็จะมีเหตุผลประมาณนี้ค่ะ
- อยากทดสอบประสิทธิภาพหรือทดลองเฉดสี : เนื่องจากบางคนอาจจะอยากลองใช้งานก่อนซื้อขนาดจริง ก็เลยเลือกซื้อแบบซอง แบบทดลองต่าง ๆ มาทดสอบก่อนว่าใช้แล้วชอบไหม สีเข้ากับผิวไหม
- ได้เปลี่ยนลุคบ่อย ๆ : ถึงเครื่องสำอางขนาดทดลองมีเฉดสีที่ไม่เยอะมากนัก แต่ถ้าส่องหลาย ๆ แบรนด์ก็จะได้เฉดสีที่แตกต่างกัน ถ้ามีหลายแบรนด์ หลายสีก็จะเปลี่ยนลุคได้บ่อย ๆ ซึ่งบางคนก็ชอบตรงนี้มาก ๆ นะคะ
- ไม่ได้ใช้บ่อย/ใช้ขนาดจริงไม่หมด : ขนาดจริงอาจจะมีปริมาณที่ค่อนข้างเยอะเกินไป ซื้อมาแล้วใช้ไม่ทัน ใช้ไม่หมด หมดอายุก่อนตลอด ๆ หลายคนก็เลยเริ่มหันมาซื้อไซซ์มินิหรือแบบเทสเตอร์กันแทน จะได้คุ้มค่ากับการใช้งานและเงินที่เสียไปด้วยนั่นเองค่ะ
- ขนาดจริงมีราคาสูงเกินไป : เพราะขนาดจริงของเครื่องสำอางบางตัวราคาสูงมาก ๆ ถ้าซื้อขนาดนั้นหลายคนอาจจะจ่ายไม่ไหว เลยเลือกซื้อแบบไซซ์มินิมาใช้เรื่อย ๆ แทน
- หาซื้อง่ายและสะดวก : ถ้าพูดกันจริง ๆ เครื่องสำอางแบบซองที่ขายตามร้านสะดวกซื้อก็เป็นเทสเตอร์ขนาดย่อมก็ว่าได้นะคะ ซึ่งมันสามารถหาซื้อได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องเข้าห้างหรือเดินทางยุ่งยาก
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
เมคอัพเทสเตอร์ VS เครื่องสำอางขนาดจริง ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า ?
ต้องบอกก่อนเลยว่าคุณภาพเหมือนกันนะคะ แค่ปริมาณแตกต่างกันและราคาก็แตกต่างกันด้วย ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่าก็ต้องโฟกัสกับการใช้งานของแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งเราขอแบ่งประเภทและแนะนำดังนี้เลยค่า
- แต่งหน้าบ่อยแค่ไหน? : แต่งแทบทุกวัน ใช้ขนาดจริงก็จะคุ้มค่ากว่านะคะ จ่ายทีเดียวจบ ไม่ต้องจุกจิกซื้อใหม่เรื่อย ๆ แต่ถ้าใช้งานไม่ได้บ่อยมาก ก็เน้นซื้อแบบเทสเตอร์แทนก็คุ้มค่ากว่าแน่นอนค่ะ
- งบประมาณมีมากน้อย? : ถ้างบเยอะจ่ายไซซ์จริงไหวก็แนะนำเลยค่ะ แต่ถ้างบไม่เยอะ ก็แนะนำว่าแบบเทสเตอร์ก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่านะคะ
- อยากได้ความหลากหลายหรือเน้นใช้ซ้ำ? : บางคนชอบซื้อเทสเตอร์เพราะอยากลองหลาย ๆ ตัว อยากมีหลายเฉดสีให้วนใช้เรื่อย ๆ เปลี่ยนลุคได้ไม่ซ้ำ แต่บางคนอาจจะชอบเน้นตัวเดิมใช้ประจำง่าย ๆ ไม่ต้องหลากหลายก็จัดไซซ์จริงได้เลยค่ะ
ยังไงก็ลองไปชั่งน้ำหนักการใช้งานและความต้องการของตัวเองดูน้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราค่ะ!
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
ป้ายยา 10 เมคอัพไซซ์มินิ ตัวไหนเด็ด ตัวไหนดังจัดมาให้แล้ว !
BOBBI BROWN Vitamin Enriched Face Base
ตัวแรกเริ่มที่เบสก่อนเลยค่ะ เป็นเบสตัวดังของแบรนด์ BOBBI BROWN ซึ่งคนใช้เยอะมากกกก อินฟลูรีวิวกันฉ่ำสุด ๆ แน่นอนว่าเขาก็มีไซซ์มินิและไซซ์เทสเตอร์ให้ลองใช้กันด้วย โดยตัวนี้จะเน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้เครื่องสำอางบนหน้าติดทนมากยิ่งขึ้น เป็นเหมือนเบส + ไพรเมอร์ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมัน ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยด้วยนะคะ
ราคา : 80 - 1,100 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ มีตั้งแต่ 1.5 / 7 / 15 ml.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/7phcfAbLxF
TARTE Shape Tape Contour Concealer
ใครชอบใช้แค่คอนซีลเลอร์ สำหรับ Tarte ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่แน่นอนค่ะ เป็นตัวที่ขึ้นชื่อเลยว่าปกปิดได้ตึ๊บที่สุด รอยคล้ำใต้ตา รอยสิวหรือริ้วรอยต่าง ๆ กลบมิดหมด ติดทน มีเฉดสีให้เลือกเยอะ ฟินิชไม่แห้ง ใช้แล้วไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ แต่ถ้าไม่อยากให้ดูตึ๊บอาจจะต้องมีเบามือในการลงนิดนึงนะคะ
ราคา : 550 บาท (1 ml.)
พิกัด : https://s.lazada.co.th/s.COBfN
NARS Radiant Creamy Concealer
ถ้าชอบความปกปิดแต่ไม่อยากให้ดูตึ๊บเกินไป แนะนำเป็น NARS แทนค่า ตัวนี้จะเป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีม ๆ หน่อย คือจะไม่เหลวหรือหนืดเกินไป ทำให้สามารถปกปิดรอยสิว สิวและรอยคล้ำใต้ตาได้ดีมาก ๆ ติดทน ไม่เป็นคราบ ส่วนตัวเคยลองใช้ถือว่าประทับใจเลยค่ะ รอยคล้ำ รอยสิวเอาอยู่เลย!
ราคา : 350 - 550 บาท (1.4 ml.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/AKOxgNbXG9
Hourglass Vanish™ Airbrush Concealer
อีกหนึ่งคอนซีลเลอร์ที่ใช้ดีมาก ๆ นั่นก็คือ Hourglass นั่นเองค่า ตัวนี้จะเป็นคอนซีลเลอร์ที่เนื้อค่อนข้างเบาแต่ปกปิดได้ดี ไม่ว่าจะรอยสิว สิวหรือรอยคล้ำใต้ตา เกลี่ยง่าย ใช้แล้วไม่ตกร่อง กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี มีเฉดสีให้เลือกถือว่าเยอะเลยค่ะ ใครที่เห็นรีวิวเยอะ ๆ แล้วอยากจะซื้อมาลองสักครั้งก็ลองไซซ์มินิกันก่อนได้น้า
ราคา : 650 - 800 บาท (1.3 ml.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/3VYdXdO8Iq
Rare Beauty Soft Pinch Liquid Blush
ต่อด้วยบลัชออนเนื้อลิควิดจาก Rare Beauty เลยค่า ตัวดังของแบรนด์เลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวนี้ของทางแบรนด์มีเทสเตอร์และมีไซซ์มินิเลยนะคะ ตัวเทสเตอร์จะมีแบบที่เน้นบลัชล้วน ๆ มีหลายสีอย่างละนิดละหน่อย แล้วก็ยังมีแบบที่มีไฮไลเตอร์เพิ่มเข้ามาด้วยนะคะ ส่วนไซซ์มินิก็จะเน้นสีนั้น ๆ ไปเลยแค่ขนาดไม่ได้เยอะมากมาย ประมาณ 3.2 ml. เท่านั้น สำหรับบลัชตัวนี้ก็เนื้อเบา เกลี่ยง่าย สีสวย มีหลายเฉดให้เลือกใช้ ติดทน ให้ความเป็นธรรมชาติ ใครอยากลองไซซ์มินิตอบโจทย์สุด ๆ
ราคา : 670 - 690 บาท (3.2 ml.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/4fkaxEiAyo
Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder
สำหรับคนที่ต้องการเซตผิวด้วยแป้ง ยังไงก็ต้องแป้งฝุ่น Laura Mercier เลยนะคะ เป็นตัวที่ฮิตมาตลอด ๆ อินฟลูรีวิวกันไม่เคยขาด โดยเฉพาะสายผิวมันคือชอบกันสุด ๆ หลัก ๆ รุ่นไซซ์มินิจะมี 2 สูตรคือสูตรเซตผิวธรรมดากับสูตรเบลอผิวให้เรียบเนียน ซึ่งทั้ง 2 สูตรก็คือบางเบา ไม่มีสี เนื้อนุ่มละเอียด เบลอผิวได้เหมือนกัน แต่สูตรเบลอผิวจะเพิ่มการเบลอ ความนวลเนียนเพิ่มมากขึ้น ถ้าใครไม่ได้มีปัญหาผิวก็สามารถใช้สูตรธรรมดาได้นะคะ
ราคา : 350 - 800 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ มีตั้งแต่ 2 / 3.5 / 6 / 9 g.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/1qQPaFw6fY
NARS Light Reflecting Pressed Setting Powder
แป้งนางฟ้าจากแบรนด์ NARS จะขาดไม่ได้เลยค่า แม้แป้งจะเนื้อสีขาวแต่ปัดแล้วไม่ขาววอกน้า แล้วสามารถใช้เป็นแป้งเซตผิวหลังลงรองพื้นก็ได้ คุมมันได้ดีเลย แต่ส่วนใหญ่คนจะเน้นปัดปิดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จมากกว่า เพราะว่าฟินิชหลังปัดจะมีความโกลว์เล่นแสง ถ้าลงเยอะบางคนก็กลัวว่าผิวจะดูมันวาวเกินไป ขนาดมินิก็เลยถือว่าตอบโจทย์สุด ๆ เลยล่ะค่า
ราคา : 350 - 1,500 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ มีตั้งแต่ 1.8 / 3 g.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/9Upqfh2m12
Nars Blush
ต่อมาเป็นบลัชออนจากแบรนด์ NARS เลยค่า เป็นบลัชแบบฝุ่นที่ฮิตตลอดกาล คนใช้เยอะมาก ๆ แต่รุ่นเทสเตอร์หรือไซซ์มินิเขาจะมีสีให้เลือกแค่บางสีเท่านั้น ซึ่งสีฮิตอย่างสี Orgasm ก็มีมาให้ลองใช้กันด้วย สีนี้จะเป็นสีบลัชออนโทนชมพูไม่คูลโทน ไม่วอร์มโทนเกินไป มีชิมเมอร์ละเอียดโทนสีทอง ๆ ปัดแล้วแก้มดูมีเลือดฝาดพร้อมความเล่นแสง ความพิเศษของบลัชสีนี้คือผิวจะเข้มหรืออ่อนก็ใช้ได้หมดเลย ปัดแล้วดูดีสุด ๆ
ราคา : 300 - 900 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ มีตั้งแต่ 1 / 1.2 / 2.5 g.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/40Uu7p58mO
Bobbi Brown Extra Lip Tint
สำหรับ BOBBI BROWN ตัวนี้เขามีไซซ์มินิอยู่น้า แต่อาจจะต้องตามหาสักนิดนึง เขาจะเป็นลิปบาล์มที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ทำให้ปากมีความฉ่ำวาว มีทั้งสี Bare Pink ที่มีความใสที่เน้นบำรุงทั่วไปและสี Bare Raspberry ที่เป็นโทนสีออกแดง ๆ ชมพู ทาแล้วสีปากสุขภาพดี จะทาเดี่ยว ๆ หรือทาผสมกับลิปสติกที่ชอบใช้ประจำก็สวยฉ่ำ ปากไม่มีแห้งแตกแน่นอน! แต่แอบกระซิบว่าถ้าหาร้านพรีออเดอร์ดี ๆ ไซซ์ปกติเขาก็ราคาไม่แรงนะคะ
ราคา : 750 บาท (0.7 g.)
พิกัด : https://www.sephora.co.th/products/bobbi-brown-extra-lip-tint-mini/v/bare-raspberry
Charlotte Tilbury Airbrush Flawless Setting Spray
ปิดท้ายด้วยเซตติงสเปรย์ที่มาแรงมาก ๆ อย่าง Charlotte Tilbury กันเลยค่า ตัวนี้เป็นเซตติงสเปรย์ที่จะช่วยทำให้เมคอัพทั้งใบหน้าติดทนยาวนานมากขึ้น กระซิบว่ารีวิวบอกว่าติดทนทั้งวันเลยล่ะ ละอองสเปรย์มีความละเอียด นุ่มนวล กระจายตัวได้ทั่วใบหน้า ฟินิชเมื่อฉีดแล้วจะมีความฉ่ำ สุขภาพผิวดี เซตตัวเร็ว ใช้ได้กับทุกผิว ที่สำคัญรีวิวเยอะมาก ๆ คนใช้กันเยอะสุด ๆ ค่า
ราคา : 590 - 900 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ มีตั้งแต่ 15 / 34 ml.)
พิกัด : https://s.shopee.co.th/2Vg6L6IICW
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ได้รู้สาเหตุที่เครื่องสำอางเทสเตอร์ หรือ เทรนด์เมคอัพไซซ์มินิ กำลังมาแรงแล้ว หลาย ๆ คนก็อยากจะลองกันขึ้นมาเลยใช่ไหมล่า~ เพราะนอกจากจะราคาไม่แรงเกินไปแล้ว ยังได้ลองเครื่องสำอางหลาย ๆ แบรนด์ด้วยนะเออ แต่ยังไงก็ตามทุกคนต้องตรวจสอบร้านค้าที่จะซื้อหรือพรีออเดอร์กันให้ดี ๆ ด้วยนะคะ เนื่องจากเครื่องสำอางไซซ์เทสเตอร์หรือไซซ์มินิบางแบรนด์ไม่ได้มีขายในร้านค้าหรือเคานเตอร์ของแบรนด์เอง ดังนั้นอยากให้เช็กร้านดี ๆ น้า ว่าแล้วก็ขอตัวไปสอยเครื่องสำอางไซซ์มินิบ้างดีกว่า แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย
ขอบคุณภาพปกบทความจากเว็บไซต์ freepik.com รวมถึงภาพประกอบบทความจากเว็บไซต์ bobbibrown.co.th, narscosmetics.com, sephora.co.th, sephora.com
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!