ไหลเรือไฟ2ฝั่งโขง ขยายเวลาเรือข้ามฟาก'ไทย-ลาว'ถึงเที่ยงคืน

ไหลเรือไฟเชื่อมศรัทธา 2 ฝั่งโขง ทม.ฯสนับสนุนการท่องเที่ยว ขยายเวลาเรือข้ามฟากไทย-ลาวถึงเที่ยงคืน ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 วันรวด

4 ตุลาคม 2567 งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 ตุลาคม 67 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ-แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ณ ศาลากลางจังหวัดนครพนม และริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ในคืนวันที่ 17 ตุลาคม ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวันมหกรรมไหลเรือไฟยักษ์ จำนวน 12 ลำจาก 12 อำเภอ ไม่รวมเรือไฟโชว์ 4 ลำ และเรือไฟระบบ LED อีก 8 ลำ ถือว่าปีนี้จังหวัดนครพนม ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน จัดหนักจัดเต็มกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครพนม ที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อมโยงถึงความเชื่อทางพุทธศาสนา และความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำโขงอย่างลึกซึ้ง

ทางด้าน เทศบาลเมืองนครพนม (ทม.ฯ) ซึ่งเป็นผู้ดูแลท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว หรือชาวบ้านเรียกติดปากว่าท่าด่าน เป็นจุดผ่านแดนถาวร จุดที่ 2 นอกจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) โดยปกติจะเปิดบริการเรือโดยสารข้ามฟากนครพนม-เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อให้พี่น้องชาวลาวข้ามมาจับจ่ายในฝั่งไทย รวมถึงด้านทางการแพทย์ ตลอดจนการท่องเที่ยวสองฝั่งไทยลาว ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-18.00 น.ทุกวัน

ทั้งนี้ เทศกาลประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ทาง ทม.นครพนมได้ร่วมสนับสนุน และส่งเสริมการท่องเที่ยวสองฟากฝั่ง โดยในช่วงระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2567 จะยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือรู้จักในคำว่าค่าเหยียบแผ่นดิน จำนวน 50 บาท พร้อมมีหนังสือถึงจังหวัดนครพนม เพื่อขอขยายเวลาเปิด-ปิด จากเดิม 08.00 น.-18.00 น. เป็น 08.00 น.- 24.00 น. เป็นเวลา 3 วัน

โดย นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นห้วงจัดงานที่ยิ่งใหญ่ของ จ.นครพนม ซึ่งมีการแข่งขันเรือยาวชิงจ้าวน้ำโขง และการไหลเรือไฟ มีทั้งหมด 11 วัน ก็จะมีชาวลาวมาจับจ่ายใช้สอยเยอะ บางที่เขาอาจไม่ได้รับความสะดวก จากปกติที่เปิดด่าน 08.30 น.-18.00 น. แต่ช่วงวันไหลเรือไฟกว่าจะปล่อยเรือลำแรกก็ประมาณ 1 ทุ่มแล้ว ซึ่งทาง ทม.ฯได้รับการร้องขอจากพี่น้องชาวลาว รวมถึงสมาคมชาวเรือ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในห้วงวันที่ 15-16-17 ตุลาคม นี้ ก็มีการอนุเคราะห์ให้เขาสามารถข้ามมาชมแข่งเรือยาวและไหลเรือไฟ จะได้กลับทันด่านปิด อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มา จ.นครพนม ไม่เพียงมาดูแข่งเรือหรือเรือไฟอย่างเดียว บางส่วนเขาก็ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย อาจกลับไม่ตรงเวลา คนที่มีรถยนต์เราไม่ห่วงแต่ผู้โดยสารทางเรือ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย ทม.ฯจึงขออนุมัติไปทางจังหวัด เพื่อขอเปิดด่านวันที่ 15-16-17 ตุลาคม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาว

นอกจากนี้ นายเกริก ณ นครพนม เจ้าหน้าที่เก็บค่าเหยียบแผ่นดินอยู่ท่าด่าน เปิดเผยว่าปกติค่าธรรมเนียมเก็บคนละ 50 บาท แต่จะยกเว้นเด็กที่อายุไม่ถึง 12 ขวบ รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาจากแพทย์ สำหรับวันที่ 15-16-17 ตุลาคม 67 นี้ จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เพื่อให้พี่น้องชาวลาวข้ามมาเที่ยวงานกัน โดยช่วงเทศกาลวันไหลเรือไฟ เรือโดยสารข้ามฟาก จะแล่นบริการรับ-ส่งถึงเที่ยงคืนรวม 3 วัน