โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“ชนเผ่าไอนุ” ชนพื้นเมืองที่เกือบหายสาบสูญไปจากญี่ปุ่น!

conomi

อัพเดต 14 มี.ค. เวลา 17.34 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2567 เวลา 12.00 น. • conomi.co

พูดถึงภาคเหนือของญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงนึกภาพหิมะ ธรรมชาติ และของอร่อยในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุ แต่นอกจากนั้นแล้ว ภาคเหนือของญี่ปุ่นยังมีวัฒนธรรม ชนเผ่าไอนุ (アイヌ民族) ให้ไปสัมผัสอีกด้วย ในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักชนเผ่าพื้นเมืองแห่งญี่ปุ่นตอนเหนือกับวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ที่เกือบหายไปจากญี่ปุ่นกันค่ะ

ชนเผ่าไอนุคือใคร?

ชนเผ่าไอนุ

ชนเผ่าไอนุหรือ เอโสะ (蝦夷) คือชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะฮอกไกโด (หรืออีกชื่อคือเอโสะกะชิมะ: 蝦夷ヶ島) เกาะซาฮาลิน และหมู่เกาะอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงในช่วงศตวรรษที่ 17-19 โดยเกาะเหล่านั้นถูกเรียกว่า “ไอนุโมชิริ (アイヌモシリ)” หรือ “ผืนดินที่มนุษย์อาศัยอยู่” ซึ่งชนเผ่านี้จะย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ และมีการพบหลักฐานการคบค้ากับชนเผ่าอื่นที่เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่เดียวกันด้วย การที่ชนเผ่าไอนุกระจายตัวไปตามเกาะต่างๆ นี่เองที่ทำให้ชื่อสถานที่หลายแห่งในภูมิภาคนี้มีที่มาจากภาษาไอนุ

อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 จนถึงปลายศตวรรษที่ 20 รัฐบาลกลางของญี่ปุ่นมีการผลักดันนโยบายให้ชนเผ่าไอนุปฏิบัติตนให้คล้ายคลึงกับคนญี่ปุ่น เช่นการต้องหันมาทำไร่แทนที่จะล่าสัตว์อย่างที่เคยเป็น หรือการห้ามพูดภาษาไอนุเป็นต้น ถึงอย่างนั้น ชนเผ่าก็ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเท่าเทียมกับคนญี่ปุ่น ซึ่งเห็นได้จากในตำราเรียนในญี่ปุ่นช่วงปฏิรูปเมจิ – สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กล่าวถึงชนเผ่าไอนุว่าเป็น “ชนพื้นเมือง”

จนกระทั่งหลังสงครามโลกชนเผ่าไอนุจึงได้รับสัญชาติญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกัน การได้รับสัญชาติก็ส่งผลให้สูญเสียที่ดินให้กับรัฐบาลและถูกปฏิเสธอัตลักษณ์ของตนไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ถูกกลืนกินไปในความเชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประกอบด้วยชนชาติญี่ปุ่นเท่านั้น

ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่มีการศึกษาเรื่องชนเผ่าไอนุ ภาพลักษณ์ของชนเผ่าจึงเปลี่ยนไป แต่ยังถูกมองว่าเป็นเพียงชนกลุ่มย่อยเท่านั้น จนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2019 รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ยอมรับชนเผ่าไอนุในฐานะ “ชนพื้นเมือง” เป็นครั้งแรก

ประชากรไอนุในปัจจุบัน

ประชากรชนเผ่าไอนุในปัจจุบัน

จากผลสำรวจ “ความเป็นอยู่ของชนเผ่าไอนุ (アイヌ生活実態調査)” ของเทศบาลจังหวัดฮอกไกโดเมื่อปี 2013 พบชาวไอนุจำนวน 16,786 คนกระจายตัวอยู่ตามเขตการปกครอง 66 เขตในจังหวัด (จากทั้งหมด 179 เขต) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลสำรวจนี้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนที่ระบุตนเองว่าเป็นคนชนเผ่าไอนุที่อาศัยอยู่ในจังหวัดฮอกไกโดเท่านั้น จึงคาดว่าจำนวนประชากรชาวไอนุที่ยังหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่นอาจจะมีมากกว่านี้

ภาษาและวัฒนธรรมชนเผ่าไอนุที่ยังหลงเหลืออยู่?

1. ภาษาไอนุ

ภาษาไอนุ ชิเรโทโกะ

ภาษาของชนเผ่าไอนุ (アイヌ語) แตกต่างจากภาษาญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิงและเป็นภาษาที่ ไม่มีตัวอักษรเป็นของตัวเอง ดังนั้นการถ่ายทอดเรื่องเล่าและประเพณีจึงเป็นไปในลักษณะของ การเล่าต่อๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เอกสารที่สามารถใช้อ้างอิงในการวิจัยวัฒนธรรมชนเผ่านี้มีอยู่จำกัดไปด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น ในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบันก็ยังมีภาษาไอนุหลงเหลืออยู่บ้าง เช่นใน ชื่อสถานที่ ในจังหวัดฮอกไกโกอย่างชื่อ เมืองนิเซโกะ (ニセコ町) ที่แปลว่า “หน้าผาตัด” หรือ แหลมชิเรโทโกะ (知床) ที่แปลว่า “สุดขอบผืนดิน” นอกจากนี้ชื่อเรียกสัตว์ในภาษาญี่ปุ่นเช่น “โทนาไค (トナカイ)” ที่แปลว่า กวางเรนเดียร์ “รัคโคะ (ラッコ)” ที่แปลว่า นากทะเล หรือชื่อ ปลาชิชาโมะ (シシャモ) ก็มาจากภาษาไอนุ ทั้งนี้ จำนวนคนที่ใช้ภาษาไอนุเป็นภาษาแม่ในปัจจุบันมีอยู่น้อยมาก ภาษาไอนุจึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน ภาษาที่ใกล้สาบสูญ โดย UNESCO

2. วัฒนธรรมไอนุ

วัฒนธรรมไอนุเป็นวัฒนธรรมที่นับถือเทพหรือที่เรียกกันว่า คามุย (カムイ) ในภาษาไอนุ โดยเทพคามุยนั้น มีหลายองค์ที่ต่างเป็นตัวแทนของแต่ละสรรพสิ่งรอบตัว และในวัฒนธรรมไอนุมีการสวดมนต์และการรำเพื่อแสดงความขอบคุณต่อเทพต่าง ๆ

นอกจากการรำจะเป็นการรำเพื่อเทพแล้ว การรำยังมีไว้เพื่อสร้างความสนุกสนานเมื่อญาติมิตรมารวมตัว และยังเป็นวิธีสังสรรค์ในโอกาสอื่น ๆ ด้วย ในการรำจึงมีการแสดงออกถึงธรรมชาติรอบตัว การล่าสัตว์ การละเล่น และความรู้สึกนึกคิดของชนเผ่าแฝงอยู่ ด้วยลักษณะพิเศษนี้ “การระบำดั้งเดิมของไอนุ (アイヌ古式舞踊)” จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก โดย UNESCO ในปี 2009

อยากรู้จักวัฒนธรรมไอนุต้องไปที่ไหน?

สำหรับใครที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไอนุเพิ่มเติม สามารถไปสัมผัสวัฒนธรรมไอนุได้ที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ตามพิกัดนี้

1. AINU Cultural Center (Sapporo Pirka Kotan) เมืองซัปโปโร

この投稿をInstagramで見る

児玉梨奈 Rina Kodama-SSW-(@rina_kodamasan)がシェアした投稿

Pirka Kotan เป็นภาษาไอนุ หมายถึง “หมู่บ้านที่สวยงาม” ในศูนย์วัฒนธรรมนี้มีนิทรรศการเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของชาวไอนุกว่า 300 ชิ้นให้ชมและเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของชนเผ่ากัน โดยเราสามารถหยิบจับของที่จัดแสดงในนี้มาดูได้ ทำให้เราสามารถเข้าถึงวิถีชีวิตได้มากขึ้น

AINU Cultural Center (Sapporo Pirka Kotan)

ที่ตั้ง 27 Koganeyu, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido 061-2274, Japan เวลาทำการ 8.45 น. – 22.00 น.
(ห้องนิทรรศการ / สวน 9.00 – 17.00 น.)

*หยุดวันจันทร์, วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันอังคารสุดท้ายของทุกเดือน และปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม)

ค่าเข้าชม (ข้อมูลปี 2024) – ผู้ใหญ่ 200 เยน
– นักเรียนมัธยมปลาย 100 เยน

*นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่าเข้าฟรี
**มีราคากลุ่มสำหรับ 20 คนขึ้นไป

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) city.sapporo.jp วิธีเดินทาง จากสถานี JR Sapporo สามารถนั่งรถ Jotetsu Bus Kappa Line ตรงไปได้เลย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

2. Hokkaido Museum เมืองซัปโปโร

この投稿をInstagramで見る

Risa(@gapyear_risa)がシェアした投稿

Hokkaido Museum เปิดทำการเมื่อปี 2015 โดยความร่วมมือระหว่าง อนุสรณ์สถานฮอกไกโด (北海道開拓記念館) แล ะศูนย์วิจัยวัฒนธรรมชนเผ่าไอนุ (アイヌ民族文化研究センター) ในพิพิธภัณฑ์จะมีนิทรรศการ “โลกวัฒนธรรมไอนุ (アイヌ文化の世界)” ซึ่งในนั้นเราสามารถเข้าไปเรียนรู้เรื่องข้าวของเครื่องใช้ ความเชื่อ เรี่ยงเล่า และบทเพลงที่สืบทอดกันมาในชนเผ่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้

Hokkaido Museum

ที่ตั้ง Sapporo-shi, Atsubetsu-ku, Atsubetsu-cho, Konopporo 53-2 เวลาทำการ 9.30 – 17.00 น.
(ช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน 9.30 – 16.30 น.)

*หยุดวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดชดเชย จะปิดทำการในวันถัดไป) และช่วงปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม)

ค่าเข้าชม (ข้อมูลปี 2024) – ผู้ใหญ่ 800 เยน
– นักเรียนมัธยมปลาย 300 เยน

*นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่าเข้าฟรี
** มีราคากลุ่มสำหรับ 10 คนขึ้นไป

เว็บไซต์ (มีภาษาอังกฤษ / ญี่ปุ่น) hm.pref.hokkaido.lg.jp วิธีเดินทาง จากสถานี JR Sapporo ไปยัง JR Shinrin-Koen ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นต่อรถ Hokkaido Bus Shin 22 destination ที่มุ่งหน้าไป Historical Village of Hokkaido อีกประมาณ 5 นาที

3. Biratori Nibutani Ainu Cultural Museum เมืองบิราโทริ

この投稿をInstagramで見る

torino(@torino_0831)がシェアした投稿

พิพิธภัณฑ์นี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อสานต่อวัฒนธรรมไอนุในแถบซารุกาวะ (沙流川) และส่งต่อวัฒนธรรมนั้นให้คนรุ่นต่อไปได้รับรู้ ในนี้เราจะได้เข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับการแต่งกาย ของใช้ และความเชื่อต่างๆ ผ่านนิทรรศการและเอกสารที่จัดแสดง รวมถึงยังได้ฟังวรรณคดีมุขปาฐะที่เรียกว่า “ยุครา (ユカラ)” ผ่านวิดิทัศน์อีกด้วย

Biratori Nibutani Ainu Cultural Museum

ที่ตั้ง Sapporo-shi, Atsubetsu-ku, Atsubetsu-cho, Konopporo 53-2 เวลาทำการ 9:30 – 17.00 น.
(ช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน 16.30 น.)

*หยุดวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดชดเชย จะปิดทำการในวันถัดไป) และช่วงปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม)

ค่าเข้าชม (ข้อมูลปี 2024) – นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 400 เยน
– นักเรียนประถม – มัธยมต้น 150 เยน

*มีราคากลุ่มสำหรับ 10 คนขึ้นไป

เว็บไซต์ (มีภาษาอังกฤษ / ญี่ปุ่น) biratori-ainu-culture.com วิธีเดินทาง จากสถานี JR Sapporo ไปลง JR Tomakomai จากนั้นต่อ Donan Bus ป้าย Tomakomai Ekimae ไปลงยัง Biratori

4. Akanko Ainu Kotan เมืองคุชิโระ

この投稿をInstagramで見る

虎太郎(@kotaro.417)がシェアした投稿

หมู่บ้านไอนุแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่ง ทะเลสาบอะคังโกะ (阿寒湖) โดยที่หมู่บ้านนี้เราสามารถเข้าชมการระบำดั้งเดิมของชาวไอนุใน โรงละครไอนุอิโคโระ (アイヌシアターイコロ) และยังเข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตกับวัฒนธรรมชนได้ในพิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้านอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญ ที่นี่ยังมีห้องเรียนเครื่องดนตรีไอนุและกิจกรรมอื่น ๆ ให้ร่วมสนุกได้ด้วย

Akanko Ainu Kotan

ที่ตั้ง Kushiro-shi, Akan-cho, Akanko Onsen 4-7-84 เวลาทำการ 9.30 น. – 21.30 น. (ในส่วนของโรงละครไอนุ) ค่าเข้าชม (ข้อมูลปี 2024) ส่วนโรงละครไอนุอิโคโระ
– นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 1,080 เยน เว็บไซต์ (มีภาษาอังกฤษ / ญี่ปุ่น) akanainu.jp วิธีเดินทาง นั่ง Local bus หรือ Airport Liner 1 ชั่วโมง

5. Upopoy (National Ainu Museum) เมืองชิราโออิ

この投稿をInstagramで見る

lucky markちゃん(@lucky_markmark)がシェアした投稿

พื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เปิดในปี 2020 นี้นับเป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยในพื้นที่นี้จะมี พิพิธภัณธ์ชนเผ่าไอนุแห่งชาติ (国立アイヌ民族博物館) ที่นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชนเผ่าจากมุมมองต่าง ๆ และยังมีสวนสาธารณะที่ทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้ทุกคนได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการสัมผัสกับวัฒนธรรมไอนุ

Upopoy (National Ainu Museum)

ที่ตั้ง Shiraoi-gun, Shiraoi-cho, Wakakusa-cho 2 cho-me วันหยุด ทุกวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป) และช่วงปีใหม่ เวลาทำการ 9.00 – 17.00 น.

*หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป) และช่วงปีใหม่

ค่าเข้าชม – ผู้ใหญ่ 1,200 เยน
– นักเรียนมัธยมปลาย 600 เยน

*นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่านั้นเข้าฟรี
** มีราคากลุ่มสำหรับ 20 คนขึ้นไป

เว็บไซต์(มีภาษาอังกฤษ / ญี่ปุ่น) ainu-upopoy.jp วิธีเดินทาง เดินจากสถานี JR Shiraoi ไปทางเหนือประมาณ 5 นาที

สำหรับทริปไปฮอกไกโก-โทโฮคุครั้งหน้า ใครที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ต่างออกไปจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย วัฒนธรรมไอนุก็เป็นอีกหนึ่งแง่มุมของญี่ปุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย และด้วยการทำความรู้จักวัฒนธรรมที่หลากหลายในญี่ปุ่นแล้ว เราอาจจะได้มองญี่ปุ่นผ่านมุมมองใหม่ ๆ ไปด้วยก็เป็นได้

สรุปเนื้อหาจาก: Ainu Association

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...