โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

'ชามตราไก่' กับประวัติศาตร์กว่า 100 ปีที่ไม่ไก่กา! - เรื่องใกล้ใกล้ตัว

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 08 ก.ย 2564 เวลา 03.07 น.
<a href=
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee " data-width="1920" data-height="1080">
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee

หนึ่งในไอเทมติดตู้กับข้าวทุกบ้าน ที่ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวของบ้านผู้เขียนเอง บ้านญาติ ๆ เพื่อน ๆ ที่ไปมาหาสู่กัน จะต้องหยิบจับสิ่งของชิ้นนี้ขึ้นมาใช้ทุกครั้งที่มีการล้อมวงทานอาหารกันก็คือ 'ชามตราไก่' ทางผู้เขียนเห็นบ่อยจนเกิดเป็นความสงสัยว่าทำไมชามลายนี้ถึงกลายเป็นไอเทมไฟลต์บังคับที่ทุกบ้านจะต้องมี และจุดเริ่มต้นของมันคืออะไร ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นที่มาของคอลัมน์ 'เรื่องใกล้ใกล้ตัว' ประจำสัปดาห์นี้ที่เราอยากชวนทุกคนไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน!

จากจีนสู่แผ่นดินไทย และประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปีที่ไม่ไก่กา

ชามตราไก่ หรือที่เรียกกันในภาษาถิ่นว่า 'ถ้วยก๋าไก่' มีจุดกำเนิดที่ตำบลกอปี อำเภอไท้ปู มณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน โดยเริ่มแรกนำเอาเซรามิกมาปั้น ขึ้นรูปเป็นชามสีขาวธรรมดา แต่เมื่อมีการผลิตแล้วส่งออกไปยังเมืองแต้จิ๋ว ถึงได้มีการสร้างสรรค์ลวดลาย เขียนเป็นลายไก่ เผาสีบนแล้วเคลือบ 

<a href=
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee" data-width="1296" data-height="810">
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee

ภูมิปัญญาจากจีนนี้ได้ถูกส่งมายังไทยพร้อมกับการย้ายถิ่นฐานของชาวแต้จิ๋ว ประมาณ พ.ศ. 2480 มีบันทึกที่ปรากฏหลักฐานว่ามีการจัดตั้งโรงงานและเตาเผาชามตราไก่ขึ้นที่แถววงเวียนใหญ่ จังหวัดธนบุรี และที่ถนนเพชรบุรี ในกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2500 ถึงมีการย้ายฐานการผลิตขึ้นไปอยู่ที่จังหวัดลำปาง ด้วยเหตุผลที่ว่าในลำปางมีทรัพยากรดินขาวที่นำมาใช้ผลิตชามที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณภาพดีกว่า โรงงานชามตราไก่แห่งแรกจึงถูกก่อตั้งขึ้นโดยชาวจีน 4 คนคือ นายซิมหยู แซ่ฉิน, นายเซี่ยะหยุย แซ่อื้อ, นายซิวกิม แซ่กว็อก และนายซือเมน แซ่เทน ใช้ชื่อว่า 'โรงงานร่วมสามัคคี' 

ในปี พ.ศ. 2508 หุ้นส่วนบางคนได้แยกย้ายไปทำธุรกิจของตัวเอง มีเพียงนายซิมหยู (อี้) แซ่ฉิน ที่ยังคงสืบสานการทำชามตราไก่ต่อไป และได้ตั้ง 'โรงงานธนบดีสกุล' ขึ้นมา ปัจจุบันยังคงดำเนินธุรกิจโดยทายาทรุ่นที่ 2 ภายใต้ชื่อ 'ธนบดีเซรามิค' ผลิตทั้งชามตราไก่และเครื่องเซรามิกอีกหลากหลายชนิด ส่งขายทั้งในไทยและส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก 

<a href=
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee " data-width="1312" data-height="964">
ภาพจากเว็บไซต์ Dhanabadee

ทำไมถึงต้องเป็นลายไก่?

มีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 ข้อที่อธิบายเหตุผลว่าทำไมลวดลายบนตัวชามถึงต้องเป็นลายไก่ อย่างแรกคือเรื่องของความเชื่อของชาวแต้จิ๋วที่ว่าไก่คือสัตว์มงคล ให้ความหมายที่ดีคือความขยันทำมาหากิน เมื่อต้องประดิษฐ์ลวดลายบนชาม ชาวจีนแต้จิ๋วเลยใช้ไก่มาเป็นแบบเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งก็คือ ไก่ เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางในสมัยก่อน ในตำนานพื้นเมืองเรียกลำปางว่า 'กุกกุฎนคร' ซึ่งแปลว่าเมืองไก่ จึงกลายเป็นที่มาของการออกแบบ 'ชามตราไก่' เพื่อเป็นตัวแทนบอกเล่าความเป็นมาของเมืองลำปางนั่นเอง

'ชามตราไก่' กับการครองใจคนไทยมาเนิ่นนาน

ประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปี กับความนิยมที่ไม่เสื่อมคลายมีจุดแข็งมาจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ชามตราไก่เป็นให้ได้สำหรับทุกโอกาส อย่างแรกคือขนาดที่ใหญ่ โดยมาตรฐานมีทั้งหมด 4 ไซส์ที่สามารถจุได้ทั้งข้าว ทั้งก๋วยเตี๋ยวได้อย่างเหลือเฟือ โดยเฉพาะในสมัยก่อนที่คนทำงานหนัก กินข้าวมื้อหนึ่งเยอะ ชามตราไก่ก็สามารถจุอาหารได้พอสำหรับข้าวแต่ละมื้อ อย่างที่สองคือความโค้งมนด้านในที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้ตะเกียบพุ้ย ชามรูปแบบนี้จึงเป็นที่รักของคนไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างมากเพราะสะดวกต่อการใช้งาน

อีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ ๆ ที่ชามตราไก่กลายมาเป็นข้าวของเครื่องใช้ติดห้องครัวของทุกบ้านอยู่ทุกยุคทุกสมัยอาจจะเป็นในแง่ของคุณค่าทางจิตใจ เป็นหนึ่งในของใช้ที่หลาย ๆ คนโตมาด้วย และถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น อย่างที่คุณพนาสิน ธนบดีสกุล ผู้สืบทอดโรงงานเซรามิกและชามตราไก่ในลำปางได้กล่าวไว้ว่า "ชามตราไก่คือสินค้าที่ขายความรู้สึก ไม่ใช่สินค้าที่มีผลจากการออกแบบ" ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี รูปแบบของชามตราไก่ก็จะถูกเก็บรักษาไว้ตามแบบแผนเดิม และทุกครั้งที่หยิบมาใช้ ชามตราไก่ก็อาจช่วยเตือนความทรงจำแสนดีในวันเก่า ๆ ของใครบางคนได้เช่นกัน

อ้างอิง

เว็บไซต์ Marketeer Online

เว็บไซต์ becommon.co

เว็บไซต์ SME Thailand Club

หนังสือ E-Book "ตามรอย 3 นักษัตร จังหวัดลำปาง"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0