เมื่อให้พูดถึง 'เรือดําน้ํา' เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อของหน่วยราชการ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มักจะปรากฏบนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้งจนเกิดข้อกลหา ถึงปัจจุบันจะได้สั่งถอนงบเรือดำน้ำปี 65 โดยยืดเวลาออกไป เพื่อชะลอการจัดซื้อก็ตาม
เสาร์นี้ในอดีต : สัปดาห์นี้เราอาจไม่ได้ลงลึกรายละเอียดของงบการจัดซื้อแต่อย่างใด แต่เพียงนำเสนอในสิ่งที่คุณเองก็คาดไม่ถึงและเป็นที่รู้กันดีว่าประเทศไทยมีวันสำคัญต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึง 'วันเรือดำน้ำ' ซึ่งตรงกับทุกวันที่ 4 กันยายนของทุกปี และมีสำคัญอย่างไร LINE TODAY ได้หาคำตอบมาให้
ไม่ว่าเรื่องราวจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตเพียงใดก็ต้องผ่านจุดเริ่มต้นเสมอ
'วันเรือดำน้ำไทย' ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2480 ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 84 ปี จุดเริ่มตรงจาก เรือทั้ง 2 ลำอย่าง 'เรือหลวงมัจฉาณุ-เรือหลวงวิรุณ' ไม่ว่าจะผ่านมาเพียงใดก็ยังคงเป็นเรือดำน้ำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งครั้งนั้นไทยได้รับมาจาก บริษัท มิตซูบิชี โชยีไกชา จำกัด แห่งเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาการว่าจ้างต่อเรือดำน้ำ
ซึ่งคู่สัญญาการว่าจ้างต่อเรือดำน้ำนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ 2 ลำที่กล่าวในข้างต้น แต่ยังคงมีเรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล ถึงปัจจุบันจะเหลือเพียงหอบังคับการ อาวุธปืน และกล้องส่อง แต่ยังคงจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ใช้เวลาเพียง 24 วัน ถึงประเทศไทย
เรือหลวงมัจฉาณุ ,เรือหลวงวิรุณ,เรือหลวงสินสมุทร และ เรือหลวงพลายชุมพล เป็นเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก ซึ่งระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน โดยออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2481 และเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2481 โดยใช้เวลาเพียง 24 วันเท่านั้น นับเป็นครั้งแรกที่ราชนาวีไทยมีเรือดำน้ำประจำการ สืบเนื่องจาก พ.ศ.2435 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จัดหาเรือดำน้ำโดยกำหนดว่า
ต้องมีตอร์ปิโดที่พร้อมรบ 10 ลูก ซึ่งสามารถยิงทางหัวเรือและท้ายเรือได้ 2 พร้อมกัน ซึ่งในยุคนั้นนับเป็นกองทัพเรือชาติแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเข้าประจำการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2481 ได้ออกปฏิบัติการในสงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่ 2
งบเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ในอดีต
ถึงจะผ่านมาแล้วกว่า 84 ปี งบเรือดำน้ำนั้นก็สูงพอสมควร ซึ่งในปลาย พ.ศ. 2478 สภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ได้อนุมัติพระราชบัญญัติบำรุงกำลังทางเรือ พ.ศ. 2478 ใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท โดยให้กองทัพเรือจัดการบำรุงกำลังทางเรือให้เสร็จภายในเวลา 5 ป
กว่าจะเป็นเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ก็ย่อมต้องผ่านเสนอสร้างโดยข้อตกลงนั้นตกเป็นของบริษัท มิตซูบิชี ที่เสนอราคาลำละ 820,000 บาท
งบ 65 แต่ถอยแล้ว !!
ไหน ๆ ก็หยิบงบประมาณในยุคนั้นมาเล่าแล้ว แต่ทว่าปัจจุบันตั้งแต่ ปี 2563-2565 เรียกได้ว่าเป็นข้อกังขาถึงงบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำ ในช่วงนี้ ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด ซึ่งจากหลายฝ่ายเกรงว่าในช่วงนี้ไม่เหมาะกับการจัดสรร ซึ่งในปี 63 และ ปี 64 ที่ผ่านมา ทร.ได้ส่งคืนงบประมาณ จำนวน 3,375 ล้านบาท และ 3,425 ล้านบาท ส่งคืนให้รัฐบาลร่วมถึงปี 65 เช่นกัน
สิ้นสุดเรือดำน้ำ 4 ลำ ในอดีต
30 พฤศจิกายน 2494 เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ต้องปลดประจำการ เนื่องด้วย ขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลก ซึ่งเรือดำน้ำทั้งหมดได้รับใช้ราชการในกองทัพเรือเป็นเวลากว่า 14 ปีเต็ม
'นับว่าเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมีเรือดำน้ำ และเชื่อว่าในอนาคตไทยอาจมีเรือดำน้ำลำใหม่ไม่ช้าก็เร็ว แล้วคุณคิดว่าควรมีประจำการไว้หรือไม่ ? '
อ้างอิง