ปัจจุบันงานหรืออาชีพที่ต้องอาศัยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะอยู่แค่เพียงงานในวงการบันเทิง ศิลปะหรือการออกแบบเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องอาศัยไอเดียและการวางแผน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงใจกับลูกค้า นั่นก็คือ "งานรับจ้างทำเซอร์ไพรส์"
หลายคนอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า "แค่ทำเซอร์ไพรส์เอง ทำไมต้องจ้าง" ซึ่งเหตุผลหรือข้อจำกัดของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป อาจจะด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา สถานการณ์และสถานะอาจจะต้องอาศัย บุคคลที่เป็นตัวกลางในการเข้ามาเติมเต็มกิจกรรมสร้างความสุขนี้
อันที่จริงแล้ว"งานรับจ้างทำเซอร์ไพรส์" เกิดขึ้นมานานแล้วแต่บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือนึกไม่ถึงว่ากิจกรรมแบบนี้เขาทำเป็นอาชีพกันด้วยเหรอ เพราะคนที่ทำธุรกิจนี้มีจำนวนไม่มากนัก ขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าของธุรกิจเองก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น โดยลักษณะงานจะมีตั้งแต่เซอร์ไพรส์วันเกิด ขอแต่งงาน หรือแม้แต่เซอร์ไพรส์ขอโทษ ส่วนราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายหรือขนาดของงาน รวมไปถึงค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆในการจัดฉาก
ศิริชัย ว่องส่งสาร เจ้าของธุรกิจ“เซอร์ไพรส์ เดลิเวอรี่” ที่เปิดบริการมาแล้วเกือบ 10 ปี บอกว่า การรับจ้างทำเซอร์ไพรส์คล้ายๆกับแม่ค้าออนไลน์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือจ้างพนักงานจำนวนมากๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยลดต้นทุน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถทำงานประจำควบคู่ไปด้วยได้ โดยในตลาดนี้ถือว่ายังมีผู้เล่นน้อย เนื่องจากลักษณะงานจะต้องอาศัยการมีใจรักและความใส่ใจในรายละเอียดตามที่ลูกค้าร้องขอ
"ค่าบริการเริ่มต้นที่ 5,500 บาท ยกตัวอย่างเช่น บริการเซอร์ไพรส์วันเกิด ที่จะมีพนักงานสวมชุดมาสคอร์ด นำเค้กไปมอบให้กับเจ้าของวันเกิด เป็นต้น ซึ่งกำไรหากหักต้นทุนแล้วจะได้ประมาณ 30%-50% ส่วนกรณีที่คิดค่าบริการเพิ่มขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับค่าดำเนินการ อาทิ ค่าเดินทาง ค่าดอกไม้ ค่าจ้างนักดนตรี โดยหากไม่ใช่ช่วงเทศกาลสำคัญ จะมีลูกค้าเฉลี่ยเดือนละ 3-4 ราย รายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน จึงทำให้ยังสามารถยืนอยู่ในตลาดนี้ได้ " ศิริชัย กล่าว
ขณะที่ ในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลแห่งความรัก "วันวาเลนไทน์" จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 2 เท่าตัว หรือประมาณ 14 รายต่อวัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและความสมัครใจของลูกค้าด้วย เพราะช่วงเวลาในการบริการก็จะต้องจำกัดมากขึ้้น
ส่วนเซอร์ไพรส์ที่นิยมใช้บริการมากที่สุดคือ เซอร์ไพรส์วันเกิด รองลงมาเป็น เซอร์ไพรส์บอกรัก ขอโทษหรือง้อขอคืนดี และสุดท้ายคือ เซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน
ปัจจุบัน คู่แข่งในตลาดรับทำเซอร์ไพรส์เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ยังถือว่ามีจำนวนไม่ถึง 10 ราย แต่มีส่วนที่ทำให้ "เซอร์ไพรส์ เดลิเวอรี่" ต้องปรับตัวจากเดิม โดยล่าสุด ได้ปิดตัวเว็บไซต์ลงไปเนื่องจากต้นทุนในการจ่ายค่าบริการ hosting and domain ที่สูง จึงหันมามุ่งทำตลาดทางช่องทางเฟซบุ๊คและไลน์แทน อย่างไรก็ตามจากนโยบายการจำกัดการมองเห็นโฆษณาของเฟซบุ๊ค หรือค่าบริการสื่อโฆษณาของเฟซบุ๊คที่สูงขึ้น ก็ถือเป็นการเพิ่มต้นทุนของธุรกิจเช่นกัน แต่ข้อดีของ"เซอร์ไพรส์ เดลิเวอรี่" ที่เปิดมาหลายปีจึงทำให้ยังมีลูกค้าประจำที่ยังคงใช้บริการและบอกต่อคนรู้จัก ซึ่งช่วยให้ธุรกิจยังสามารถอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
สุดท้ายแล้ว หัวใจของ "อาชีพรับทำเซอร์ไพรส์" ก็คือ "ใจรัก" ในสิ่งที่ทำ เนื่องจากลักษณะงานจะต้องอาศัยความละเอียด และใส่ใจ เข้าใจความต้องการของลูกค้า เพื่อให้งานออกมาดีและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งสุดท้ายเมื่องานออกมาดี ก็จะทำให้มีความสุขในการทำงานด้วย
"สิ่งที่พี่ได้จากอาชีพนี้ ก็คือ "ความสุข" วันที่ไม่มีความสุขคือ วันที่ลูกค้าโทรมาแล้ว เราทำให้เขาไม่ได้ ด้วยความที่ด่วนไป รีบไป ซึ่งมันเกินศักยภาพของเรา ถ้าใครอยากจะมาทำธุรกิจนี้หรืออาชีพนี้พี่ก็ไม่ได้ไม่อยากให้เขาทำ ทำได้ทำเลยเพราะอาชีพนี้ต้องใจรักจริงๆ
อาชีพนี้ก็สอนให้เรารู้ว่า "อะไรไม่จีรัง" ช่วงโมเมนท์หนึ่งที่คุณได้อยู่กับใครที่คุณรัก ก็อยากจะให้ดีกันไว้ และสร้างความสุขให้กันเถอะ"
Credit: Facebook Surprise Deliverly /Tel - 02-944-3595
