“แจก” กันจนล่มจม! “เวเนซุเอลา” ต้นแบบความพังที่“ไทย” กำลังเจริญรอยตาม!
ว่าด้วยเรื่องของนโนบาย “ประชานิยม” ที่มีมาทุกยุคทุกสมัย ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนคนไทย คุ้นเคยและวางใจกับนโยบายเหล่านี้อย่างฝังรากลึก!
แต่เชื่อหรือไม่ว่า เพราะนโยบาย “ประชานิยม” นี่แหละ คือสาเหตุหนึ่งที่สำคัญมาก ซึ่งส่งผลให้อดีตมหาเศรษฐีน้ำมัน อย่าง “เวเนซุเอลา” ต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อกว่า 80,000% จนทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องล่มไม่เป็นท่า!
สิ่งที่น่ากังวลก็คือ นโยบายประชานิยมหลายๆอย่าง ของ “ไทย” ในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ ก็ดูเหมือนจะกำลังซ้ำรอยในสิ่งที่รัฐบาลเวเนซูเอลา เคยทำมาก่อนแล้ว
แฟนเพจ "Billionaire Mindset – แนวคิดพันล้าน" ได้โพสต์ข้อความวิเคราะห์วิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลาไว้ว่า เมื่อรัฐบาลหนึ่งทำโครงการประชานิยมแล้วได้ผลตอบรับดีนักการเมืองคนอื่นๆก็สรรหานโยบายเหล่านี้เพื่อหวังคะแนนเสียงของประชาชน
โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาล "ฮูโก้ ชาเวซ" ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในปี 1999 เขาริเริ่มโครงการนับพัน ซึ่งทำเพื่อเอาใจฐานเสียงส่วนใหญ่ กลายเป็นโครงการในลักษณะของการแจกเงินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น โครงการบ้านพักราคาถูก ซึ่งเป็นการสร้างบ้านราคาต่ำกว่าท้องตลาด โครงการร้านค้ารัฐบาลขายสินค้าถูกกว่าทุน แต่อยู่ได้เพราะมีเงินจากน้ำมันมาอุดหนุน และผลกระทบตามมาทันที เมื่อร้านค้ารัฐบาลขายของถูก ธุรกิจจะอยู่ได้อย่างไร จนมีหลายกิจการต้องปิดตัวไป หรือถูกรัฐเข้าควบคุมเพื่อเอามาผลิตของขายเอง
แน่นอนว่า เหตุการณ์นี้ได้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับการเมืองไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งประชานิยมของรัฐบาลชุดเก่า อาทิ โครงการจำนำข้าวแท็บเล็ตฟรีภาษีรถยนต์คันแรก ฯลฯ หรือโครงการแนวประชารัฐของรัฐบาลชุดนี้ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ(บัตรคนจน) บ้านคนไทยประชารัฐอีกทั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งรัฐบาลได้อัดฉีดเม็ดเงินในกองทุนนี้ ตั้งแต่ปี 2559 – 2561 ไปแล้วกว่า แสนล้านบาท!
ในขณะที่การช่วยเหลือคนจนอย่างยั่งยืนในประเทศพัฒนาแล้ว รัฐบาลอังกฤษได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 8 แสนหลังคาเรือน โดย รมว.การค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นไปเพื่อผู้ยากจนในประเทศ และรับประกันการจ่ายเงินสำหรับไฟฟ้าที่ผลิตได้ด้วย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการจ้างงานในขั้นตอนการติดตั้ง ซึ่งแรงงานดังกล่าวจะเป็นทหารในประเทศที่ปลดเกษียณแล้ว เรียกได้ว่า เป็นการลดค่าใช้จ่าย แถมเพิ่มรายได้ ให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ย้อนกลับมาที่ความแร้นแค้นของชาวเวเนซุเอลา เมื่อข้าวตามสั่งที่เคยซื้อจานละ 40 บาท ตอนนี้ขายจานละ 30,000 บาท และเงินฝาก 300,000 บาทในธนาคาร มีค่าแค่ซื้อข้าวกินได้ 10 จานเท่านั้น!
นี่คือผลพวงจาก "ประชานิยมสุดโต่ง" บวกกับ "นโยบายรัฐสวัสดิการ" ที่ประเทศยังไม่พร้อมรับ ณ จุดนี้ “ไทย” อาจจะต้องพิจารณาหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทางนโยบายของประเทศ ก่อนที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
แหล่งที่มา
https://www.posttoday.com/politic/report/562262
ความเห็น 161
Fernanda
จะคอมเม้นก็กลัวโดนจับไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร
22 พ.ย. 2562 เวลา 01.59 น.
S. Natamon☕️🍰🍧🍺🥛🍵🧉🍯🍹🎖
เฮ้อ เศร้าใจ ยิ่งหม่อมอุ๋ย เอาเรื่องไอ้ตูบมาแฉ ที่มันทำร้ายประเทศกูมี ด้วยการล้างผลาญงบผูกพัน เงินอนาคตประเทศ ไปถึง5ปี สุดจะด่า เกินจะเยียวยาแล้วจริงๆกูเคยคิดว่ามึงจะดีกว่าทักษิณสุดท้ายมึงเนี่ยหนักหนากว่าที่กูคิดไว้เยอะ โกงหน้าด้านๆเอาเงินภาษีพวกกู มาแจกเพื่อซื้อเสียง
25 ธ.ค. 2561 เวลา 16.17 น.
เขตต์
ตายแน่ๆตอนนี้ ก็จนแล้ว อีกหน่อยได้จนจนตายแน่ถ้ามันยังทำแบบนี้
25 ธ.ค. 2561 เวลา 08.28 น.
ห้าปีประเทศมีแต่ล่มจมถ้าประชาชนคนไหนเลือกคนพวกนี้เข้าไปก้บ้าเต้มทีแล้ว
24 ธ.ค. 2561 เวลา 10.07 น.
Damma
ถ้าเก็บภาษีไม่เข้าเป้าเมื่อไหร่นั่นแหละจะรู้สึกก็สายไปเสียแล้ว ยิ่งตอนนี้ส่งออกติดลบแล้วอาการน่าเป็นห่วงที่สุด
21 ธ.ค. 2561 เวลา 17.50 น.
ดูทั้งหมด