โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดราคา “บัณฑิตจบใหม่” ต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะได้รับปริญญา?

Another View

เผยแพร่ 21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.00 น. • TEERAPAT LOHANAN

เปิดราคา “บัณฑิตจบใหม่ต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะได้รับปริญญา?

BY : TEERAPAT LOHANAN

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการรับปริญญา ถือว่าเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากทำให้พ่อแม่ได้ภูมิใจสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ถึงขนาดที่ทุ่มเทเรียนมาตั้งแต่ อนุบาล จนขึ้นประถม ไล่มามัธยม และขึ้นมาสู่ระดับปริญญาได้เนี่ย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ใคร ๆ ก็จะทำกันได้ แถมบางคนก็ยังอาจจะได้แถมเกียรตินิยมอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ไปฝากพ่อแม่ให้เชิดหน้าชูตาเข้าไปอีก

แต่ช้าก่อน เหล่าบัณฑิตใหม่ป้ายแดงทั้งหลาย จบมายังไม่ทันจะได้เข้าที่เข้าทางอะไร งานก็ใช่ว่าจะมีกันแล้วครบทุกคน ไหนจะที่ได้งานแล้วและไม่ถูกใจก็ลาออกอีก หรือแม้ว่ามีงานแล้ว ฐานเงินเดือนก็ยังไม่ได้เหยียบค่าครองชีพในประเทศเราได้สักเท่าไหร่เลย… ก็ต้องมาเจอมหกรรมรับปริญญาที่มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเข้ามาอีก แถมยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ซะด้วยถ้าเราดันเป็นหนึ่งในคนที่อยากจะได้เข้ารับปริญญา

ลองมาดูกันเล่นๆก่อนดีกว่าว่างานรับปริญญา จะมีค่าใช้จ่ายอะไรอยู่บ้าง เผื่อใครบางคนอาจจะอยู่ในช่วงที่กำลังหมุนเงินไม่ทัน หรือว่าจะต้องขอผู้ปกครองมาใช้ไปก่อนจะได้เอาไปบอกพ่อแม่ได้ถูก (แต่อย่าไปบอกเกินจำนวนล่ะ) 

1. ค่าขึ้นทะเบียนบัณฑิต 

ค่าขึ้นทะเบียนบัณฑิตเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เพราะคิดจะเป็นบัณฑิตแล้วเนี่ยก็ต้องขึ้นทะเบียนบัณฑิตก่อนเป็นอย่างแรกเลย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย

2. ชุดรับปริญญา

ชุดครุย เข็มวิทยฐานะ ตราต่าง ๆ เข็มขัด ชุดราชปะแตน ชุดสูท ฯลฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องหามาเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นสิ่งที่ต้องทุ่มทุนกันหน่อย เพราะคงจะไม่มีใครมีชุดครุยเป็นของตัวเองแต่ดั้งแต่เดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีรายจ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,000 บาท แต่ก็จะมีการแบ่งอีกว่าเราจะสั่งเช่าชุดหรือ เช่าตัด หรือตัดชุดไปเลยอีกต่างหาก

- กรณีเช่า: ทางร้านจะมีไซส์มาตรฐานไว้ แล้ววัดตัวเราไปเทียบหาไซส์ที่ใกล้เคียงกับเรามากที่สุด ดังนั้นจึงอาจไม่พอดีตัวเท่าสั่งตัด แต่เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสและไม่ต้องการเอาชุดมาเก็บให้รกตู้ ส่วนราคาจะต่างตามเนื้อผ้า เช่น ผ้าไหมอิตาลี, ผ้าชีฟองฝรั่งเศส, ผ้าทัตซูมิ, ผ้าโซลอน ฯลฯ ซึ่งจะต่างตรงน้ำหนัก การทิ้งตัวของผ้า และความเหมาะสมกับหุ่นเราเอง ราคาอยู่ที่ 500-1,000 บาท 

- กรณีเช่าตัด: เจอกันครึ่งทางค่ะงานนี้ หากใครอยากได้ชุดพอดีตัว แต่ไม่ได้ถึงกับอยากได้มาเก็บใส่ตู้ เราสามารถเช่าตัดได้ ราคาก็จะถูกกว่าแบบสั่งตัด แล้วพอใช้งานเสร็จเราต้องส่งคืนทางร้านด้วย ราคาอยู่ที่  1,000-3,000 บาทขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า

- กรณีสั่งตัด: เหมาะกับคนมีงบและอยากเก็บใส่ตู้เป็นที่ระลึก และส่งมอบให้รุ่นน้องยืมไปใช้ได้ ราคาอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าอีกเช่นกัน

3. รองเท้า

สำหรับบัณฑิตหญิง เรื่องรองเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะ ต้องใส่ทั้งวันแล้วเนี่ย ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนรองเท้ากัดอย่างแน่นอน ซึ่งราคารองเท้าของผู้หญิงก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ต่าง ๆ ว่าจะราคาเท่าไหร่ ซึ่งราคาก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ 500 – 3,000 บาท

ส่วนสำหรับบัณฑิตชายก็อาจจะไม่ต้องกังวลในเรื่องรองเท้ากัดเท่าสาว ๆ แต่ว่ายังไงก็ต้องดูทรงรองเท้าให้ดี ๆ ว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

4. ค่าแต่งหน้า+ ทำผม

เรื่องง่าย ๆ ที่ยุ่งยากที่สุดสำหรับสาว ๆ เลยก็คือการแต่งหน้า โดยเฉพาะในวันรับปริญญา จะต้องมีการถ่ายรูปกับคนนู้น และคนนี้ และคนนั้น มากมาย รวมไปถึงจะต้องตากแดด ตากลม ตากฝน สู้ให้จบวันให้ได้ ดังนั้นการหาช่างแต่งหน้าที่ใช้เครื่องสำอางดี ๆ กับฝีมือดี ๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเรทราคาสำหรับช่างแต่งหน้าทำผมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและคุณภาพเครื่องสำอางนั่นแหละ ราคาก็จะอยู่ที่ราว ๆ 0 – 4,000 บาท/วัน

ส่วนผู้ชายนั้น หลาย ๆ คนอาจจะไม่ซีเรียสมากนัก แค่โปะแป้งบาง ๆ ปิดสิวนิด ๆ หน่อย ๆ และก็ใส่เจล ใส่แว๊กซ์ ลงผมให้ดูดีพอเป็นพิธี

5. ค่าถ่ายรูปรวม-รูปพิธีพระราชทานปริญญาบัตร 

ในงานรับปริญญาบัตร เราจะต้องมีรูปหมู่ที่ถ่ายรวมกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ในคณะอย่างแน่นอน เพราะนั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายของการรับปริญญาเลยก็ว่าได้ (และรูปนั้นก็จะมาประดับอยู่บนฝาบ้านเราไปจนชั่วลูกชั่วหลาน) ซึ่งราคารูปพร้อมกรอบจะอยู่ที่ราว 500 บาท แพงไปจนถึง 3,000 บาทเลยก็มี ซึ่งจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับกรอบที่เลือก ใครเลือกกรอบหรู ๆ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นตามนั้น

6. ค่าจ้างช่างภาพ 

ในงานรับปริญญานั้น จะมีคนมาหาเรามากหน้าหลายตา ตั้งแต่คนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหาย ไปจนถึงใครก็ไม่รู้ที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้ามาหาเราทำไม พวกเขาเหล่านี้จะเข้ามาถ่ายรูปกับเรา ซึ่งการที่เราไม่จ้างช่างกล้องเนี่ยก็จะทำให้รูปกระจัดกระจาย และดีไม่ดี ขั้นเลวร้ายที่สุดก็คือ เราจะไม่ได้รีเช็คหน้าของเราว่าในรูปเป็นอย่างไร ซึ่งค่าจ้างจะแตกต่างกันตามฝีมือและประสบการณ์ (ยิ่งฝีมือและประสบการณ์เยอะเนี่ยเราจะยิ่งได้รูปที่ดีมากขึ้นเท่านั้น) แต่โดยปกติแล้วถ้าจ้างครึ่งวันก็จะประมาณ 3,000 บาท ส่วนเต็มวันจะอยู่ราว ๆ 5,000 บาท  

7. งานฉลองเรียนจบ-เลี้ยงน้อง 

สิ่งที่เรียกว่างานงอกของจริงก็คืออันนี้แหละ ความรักพี่รักน้อง รักเพื่อนรักพ้องมันสำคัญเท่าไหนก็ดูที่ตัวเลขตอนเช็คบิลกันเอาไว้ดี ๆ เรทราคาส่วนนี้ไม่สามารถกำหนดได้เลย

8. ใส่ซองให้รุ่นน้อง

เคยทำอะไรกับรุ่นพี่เอาไว้เราก็จะโดนสิ่งนั้นกลับเช่นกัน ในงานวันรับปริญญา จะมีรุ่นน้องเข้ามาบูมแสดงความยินดีให้กับพี่ ๆ บัณฑิตทุกคน ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว รุ่นพี่ก็จะต้องควักซองใส่เงินให้น้องเพื่อเป็นเงินเอาไว้จัดกิจกรรมต่อ ๆ ไปของรุ่นน้อง ซึ่งค่าเสียหายจากจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาของรุ่นพี่แต่ละคนเลย

9. ค่าเดินทาง-ที่พัก 

สำหรับใครที่มหาวิทยาลัยไกลจากบ้าน การมารับปริญญาก็จะมาพร้อมกับค่าเดินทาง ค่าที่พักด้วย โดยค่าเดินทางนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะทางใกล้ไกลขนาดไหน ส่วนค่าที่พัก ก็จะตกอยู่ที่ราว 0 - 1,000บาท/คืน แต่ก็ต้องมีค้างคืนอย่างน้อย ๆ ก็ 2 – 3 วัน สำหรับการซ้อมย่อย ซ้อมจริงและรับจริงอีกด้วย

สรุปโดยรวมแล้วก็คือ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่งอกเงยออกมา ก็มีที่มาเนื่องจากพิธีการที่จำเป็นจะต้องทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบและเรียบร้อยที่สุดนั่นแหละ แต่อย่างไรก็ตาม รายจ่ายที่คิดมาทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างจะสาหัสสำหรับนิสิตจบใหม่จริงๆ ใครที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายหรืออยากจะเก็บเงินไปใช้ในอย่างอื่นมากกว่า ก็อาจจะต้องวางแผนควบคุมการเงินให้ดี ๆ เลยล่ะ …

อ้างอิง : https://www.dek-d.com/activity/47010/

https://money.kapook.com/view199465.html

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0