โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

2024 นี้ไปดูซากุระที่ไหนดี? 26 จุดชมซากุระทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น

conomi

อัพเดต 30 ม.ค. เวลา 12.02 น. • เผยแพร่ 02 ก.พ. เวลา 00.00 น. • conomi.co
2024 นี้ไปดูซากุระที่ไหนดี? 26 จุดชมซากุระทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น

เข้าปี 2024 ก็ได้ฤกษ์เตรียมแพ๊คกระเป๋าไปดูซากุระที่ญี่ปุ่นกันอีกครั้ง! งานนี้ conomi ได้เลือก 26 จุดชมซากุระที่เป็น The Must ของทุกภูมิภาคทั่วประเทศญี่ปุ่นมาให้เพื่อนๆ เลือกไปเที่ยวกัน

ฮอกไกโด-โทโฮคุ:

1.สวนโกะเรียวคาคุ จังหวัดฮอกไกโด

Sakura Spots-1 Goryokaku
Sakura Spots-1 Goryokaku

สวนโกะเรียวคาคุ (五稜郭公園) เป็นสวนสาธารณะรูปดาวที่ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ และถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดฮอกไกโดก็ว่าได้ และในฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระราว 1,530 ต้นภายในสวนจะบาน เกิดเป็นดินแดนซากุระเดินได้ไม่มีเบื่อ หรือจะขึ้น Goryokaku Tower ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อชมต้นซากุระจากมุมสูงก็สวยไปอีกแบบ!

สวนโกะเรียวคาคุ

ช่วงซากุระบาน ปลายเมษายน ที่อยู่ 44-2 Goryokakucho, Hakodate, Hokkaido 040-0001 Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Goryokaku นั่ง Hakodate Bus มาลงที่หน้าทางเข้าสวนโกะเรียวคาคุ จากนั้นเดิน 5 นาที ค่าเข้า ฟรี

2. สวนปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ

สวนปราสาทฮิโรซากิ (弘前公園) ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริแห่งนี้ขึ้นชื่อในฐานะจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในโทโฮคุ เพราะที่นี่รวมซากุระมากถึง 2,600 ต้นจาก 50 สายพันธ์ุมาให้ชมกัน ดังนั้นเราจะได้เห็นความงามของซากุระหลายๆ แบบพร้อมกันได้ในที่เดียว แถมมีมุมถ่ายรูปยอดฮิตเช่นมุม ณ บริเวณปราสาทฮิโรซากิ และมุมคูน้ำรอบปราสาทที่นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ แล้ว เรายังลงไปพายเรือในคูน้ำได้ด้วย

อ้อ ถ้ามีเวลา แนะนำให้อยู่ถึงช่วงค่ำๆ เพราะที่นี่มีเปิดไฟประดับให้เราชมซากุระยามค่ำคืนกันด้วย!

สวนปราสาทฮิโรซากิ

ช่วงซากุระบาน ปลายเมษายน ที่อยู่ 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8356. การเดินทาง จากสถานี JR Hirosaki นั่งแท็กซี่ 10 นาทีถึงที่สวน ค่าเข้า ฟรี

3. คิตาคามิเท็นโชจิ จังหวัดอิวาเตะ

Sakura Spots-3 Kitakami Tenshouchi
Sakura Spots-3 Kitakami Tenshouchi

สวนคิตาคามิเท็นโชจิ (北上展勝地) ติดหนึ่งใน 3 จุดชมซากุระชื่อดังแห่งโทโฮคุ โดยมุมที่ขึ้นชื่อสุดของที่นี่คือทิวต้นซากุระที่เรียงไปตามแนวแม่น้ำคิตาคามิ ซึ่งในบรรดาต้นซากุระรวม 10,000 ต้นที่นี่ มีทั้งต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะสีขาวที่เราคุ้นเคยกัน ต้นซากุระพันธ์ุคาสุมิซากุระ และอีกมากมายราว 150 สายพันธ์ุที่จะทยอยบานให้ชมกัน

คิตาคามิเท็นโชจิ

ช่วงซากุระบาน กลางเมษายน-ต้นพฤษภาคม ที่อยู่ 10 Chiwari Tachibana, Kitakami, Iwate 024-0043, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Kitakami นั่งแท็กซี่ 7 นาทีถึงที่สวน ค่าเข้า ฟรี

4. ทิวแถวซากุระพันต้น แม่น้ำชิโรอิชิ จังหวัดมิยางิ

Sakura Spots-4 Hitome Senbonsakura
Sakura Spots-4 Hitome Senbonsakura

ทิวแถวซากุระพันต้นแห่งจังหวัดมิยางินี้ติดอันดับ 100 จุดชมซากุระของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นคือทิวต้นซากุระ 1,200 ต้น ที่เรียงกันยาว 8 กม.ไปตามริมแม่น้ำชิโรอิชิโดยมีภูเขาซาโออยู่ในฉากหลัง ซึ่งเมื่อมองทิวต้นซากุระจากไกล ๆ เราจะเห็นซากุระนับพันได้พร้อมกันในทีเดียว สมฉายา “ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ” (一目千本桜, ซากุระพันต้นที่เห็นได้ในทีเดียว) และที่นี่ยังมีการเปิดไฟประดับซากุระในยามค่ำคืนด้วย ดังนั้นถ้ามีเวลาแนะนำให้อยู่ถ่ายรูปตอนกลางคืนให้ได้เลย! หรือถ้ามีเวลาแค่ตอนกลางวัน ขอแนะนำให้ขึ้นรถรางซึ่งจะพาเราผ่านแมกไม้ต้นซากุระ และชมบรรดาดอกซากุระได้อย่างเต็มอิ่ม!

Sakura Spots-4 Hitome Senbonsakura (Tram)
Sakura Spots-4 Hitome Senbonsakura (Tram)

ทิวแถวซากุระพันต้น

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน ที่อยู่ 12 Funaoka, Shibata, Shibata District, Miyagi 989-1603, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Funaoka เดินราว 11 นาที ค่าเข้า ฟรี

5. มิฮารุทากิซากุระ จังหวัดฟุกุชิม่า

Sakura Spots-5 Miharutaki Zakura
Sakura Spots-5 Miharutaki Zakura

นอกจากปราสาทสึรุกะที่ขึ้นชื่อเรื่องถ่ายรูปซากุระสวยแล้ว จังหวัดฟุกุชิม่ายังมีซากุระอยู่ต้นหนึ่งที่เป็นตำนาน นั่นคือมิฮารุทากิซากุระ (三春滝桜) ต้นซากุระพันธุ์กิ่งย้อย (ชิดาเระซากุระ) ที่ว่ากันว่าอยู่มานานกว่า 1,000 ปี และถือเป็นหนึ่งใน 3 ซากุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยความที่กิ่งก้านซากุระปรกลงมาราวกับน้ำตก จึงเป็นที่มาของชื่อมิฮารุทากิซากุระนั่นเอง (ทากิ “滝” แปลว่าน้ำตก) อีกทั้งซากุระต้นนี้ยังยืนต้นสูง 13.5 ม. และกิ่งแผ่กว้างถึง 11.3 จึงไม่แปลกใจเลยที่มิฮารุทากิซากุระจะทั้งติดอันดับซากุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแถมควบตำแหน่งอนุสรณ์ธรรมชาติแห่งชาติของญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กัน

มิฮารุทากิซากุระ

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน ที่อยู่ Sakurakubo-296 Taki, Miharu, Tamura District, Fukushima 963-7714, Japan. การเดินทาง ในช่วงซากุระบาน มีรถบัส Takisakura จากสถานี JR Miharu ให้บริการ หรือสามารถนั่งแท็กซี่ได้เช่นกัน ค่าเข้า ฟรี

คันโต

6. แม่น้ำเมกุโระ กรุงโตเกียว

Sakura Spots-6 Meguro Tokyo
Sakura Spots-6 Meguro Tokyo

พูดถึงซากุระในกรุงโตเกียว หลายคนจะนึกถึงแม่น้ำเมกุโระ (目黒川) เป็นที่แรกๆ ที่นี่เป็นโลเคชั่นยอดฮิตสำหรับการชมซากุระและโดดเด่นเรื่องวิวต้นซากุระทั้ง 800 ต้นที่เรียงขนาบข้างทั้งสองฝั่งแม่น้ำเป็นระยะทาง 4 กม. แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ผู้คนพากันมาชมซากุระที่นี่ ถ้าแค่ชมซากุระก็ว่าเยี่ยมแล้ว ริมแม่น้ำยังมีร้านอาหารและ สตาร์บัคส์ และคาเฟ่อีกมากมายให้เลือกเข้าไปนั่งอร่อยกับของกินเพลินๆ ระหว่างชมซากุระด้วยได้

แม่น้ำเมกุโระ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ Shimomeguro, Meguro City, Tokyo 153-0064 Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Meguro เดิน 7 นาที ค่าเข้า ฟรี

7. สวนอุเอโนะ กรุงโตเกียว

Sakura Spots-7 Ueno Park
Sakura Spots-7 Ueno Park

สวนอุเอโนะ (上野恩賜公園) เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดฮิตในกรุงโตเกียว ว่ากันว่าที่มาของซากุระในสวนแห่งนี้ย้อนกลับไปในสมัยเอโดะ ซึ่งพระสงฆ์เท็นไคที่เป็นผู้ก่อตั้งวัดคังเอย์จิ (寛永寺) ได้นำต้นซากุระจากภูเขาโยชิโนะจังหวัดนารามาปลูกที่นี่นั่นเอง ปัจจุบันสวนอุเอโนะมีต้นซากุระราว 1,200 ต้นโดยหลักๆ จะเป็นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะ จุดที่หลายคนยกให้เลยก็คือทางเดินที่ทอดตัวทิศเหนือ-ใต้ผ่านสวน ซึ่งมีทิวซากุระปกคลุมเหนือหัวให้ชมได้ตลอดทางเดิน

สวนอุเอโนะ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ Uenokoen, Taito City, Tokyo 110-0007, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Ueno เดิน 5 นาที ค่าเข้า ฟรี

8. อุทยานหลวงชินจุกุ

Sakura Spots-8 Shinjuku Gyoen National Garden
Sakura Spots-8 Shinjuku Gyoen National Garden

อุทยานหลวงชินจุกุ (新宿御苑) เป็นอดีตพระราชอุทยานที่ตั้งอยู่ในเขตชินจุกุและชิบุย่า โดยสวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างถึง 58.3 เฮกตาร์ จึงเปรียบได้เหมือนโอเอซิส ณ ใจกลางกรุงโตเกียว และในฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระหลายสายพันธุ์ร่วม 1,000 ต้นจะบานให้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็นคังฮิซากุระและซากุระพันธุ์ฟุเก็นโซเป็นต้น

อุทยานหลวงชินจุกุ

ช่วงซากุระบาน กลางมีนาคม-กลางเมษายน ที่อยู่ 11 Naitomachi, Shinjuku City, Tokyo 160-0014, Japan. การเดินทาง จากสถานีรถไฟใต้ดิน Shinjuku-gyoemmae เดิน 2 นาที ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 500 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย-นักศึกษา 250 เยน
ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 250 เยน
นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่า เข้าฟรี

9. สวนซากุระยามะ จังหวัดกุนมะ

View this post on Instagram

A post shared by どれみ (@doremindoremi)

สวนซากุระยามะ (桜山公園) ที่ชื่อแปลตรงๆ ได้ว่า “ภูเขาซากุระ” นั้นเป็นภูเขาซากุระสมชื่อ เพราะในฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะราว 3,000 ต้นและต้นฟุยุซากุระอีก 7,000 ต้นจะบานให้เห็น ที่นี่จึงเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกุนมะ นอกจากจำนวนต้นซากุระที่เยอะนับหมื่นแล้ว ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ต้นฟุยุซากุระที่จะบานให้เห็น 2 ครั้งในแต่ละปี ได้แก่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ และช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ดังนั้นถ้ามาเที่ยวที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้เห็นภาพดอกซากุระสีชมพูดอ่อนตัดกับใบไม้แดงสีจัดจ้านซึ่งสวยแปลกตาจนเที่ยวครั้งเดียวไม่พอ

Sakura Spots-9 Sakurayama (Autumn)
Sakura Spots-9 Sakurayama (Autumn)

สวนซากุระยามะ

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน
(ฟุยุซากุระบานกลางพฤศจิกายน-ต้นธันวาคม) ที่อยู่ 2166-1 Sanbagawa, Fujioka, Gunma 370-1405, Japan. การเดินทาง จากสถานี Shinmachi นั่งรถบัส 45 นาทีมาลงที่ป้าย Onishi Post Office แล้วต่อแท็กซี่ 15 นาที ค่าเข้า ฟรี

10. คุมากายะ ซากุระ สึสึมิ จังหวัดไซตามะ

Sakura Spots-10 Kumagaya Tsutsumi
Sakura Spots-10 Kumagaya Tsutsumi

คุมากายะ ซากุระ สึสึมิ (熊谷桜堤) เป็นโลเคชั่นที่มีต้นซากุระ 500 ต้นเรียงริมฝั่งแม่น้ำอาราคาวะตลอดระยะ 2 กม. และมีชื่อในฐานะจุดชมซากุระมาตั้งแต่สมัยเอโดะ แต่ที่พิเศษเลยก็คือดอกนาโนะฮานะ (菜の花) สีเหลืองสดใสที่จะบานคู่กับซากุระ เกิดเป็นทิวทัศน์ที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาสมกับเป็นฤดูใบไม้ผลิสุดๆ แถมเดินทางง่ายมาก เพียงนั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Kumagaya แล้วเดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น

คุมายะ ซากุระ สึสึมิ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 2 Chome Kawaracho, Kumagaya, Saitama 360-0035, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Kumagaya เดิน 5 นาที ค่าเข้า ฟรี

11. สวนซังเคเอ็น จังหวัดคานากาว่า

View this post on Instagram

A post shared by 三溪園 | Sankeien Garden (@sankeien_garden)

สวนซังเคเอ็น (三溪園) ตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮาม่า โดยเป็นส่วนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีธารน้ำ บ่อน้ำ และอาคารเก่าแก่มากมาย ที่มาของอาคารเก่าแก่เหล่านี้มาจากที่ฮาระ ซังเคเจ้าของดั้งเดิมของสวนแห่งนี้ได้ซื้อและย้ายมาจากที่ต่างๆ เช่นเจดีย์สามชั้นจากเกียวโตที่เป็นดาวเด่นของที่นี่เป็นต้น ปัจจุบันสวนซังเคเอ็นขึ้นชื่อในฐานะสวนญี่ปุ่นที่ในฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ในสวนถูกรายล้อมไปด้วยซากุระที่มีมากถึง 250 ต้น เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นอย่างยิ่ง

สวนซังเคเอ็น

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 58-1 Honmokusannotani, Naka Ward, Yokohama, Kanagawa 231-0824, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Negishi ต่อรถ Yokohama City Bus 8 นาทีไปลงป้าย Sankeien-minami-mon-iriguchi ค่าเข้า นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 900 เยน
นักเรียนประถม-มัธยมต้น 200 เยน

ภูมิภาคจูบุ/โฮคุริคุ

12. สวนเค็นโรคุเอ็น จังหวัดอิชิคาว่า

Sakura Spots-12 Kenrokuen
Sakura Spots-12 Kenrokuen

สวนเค็นโรคุเอ็น (兼六園) เป็นหนึ่งในสามสวนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีต้นซากุระกว่า 400 ต้นรวมราว 40 สายพันธุ์ให้ชมกัน และเป็นสวนที่ว่ากันว่ารวมหกองค์ประกอบของสวนในอุดมคติไว้ด้วยกันในที่เดียว นอกจากช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว สวนเค็นโรคุเอ็นยังเป็นสวนที่สวยมีสเน่ห์ในทุกฤดู ดังนั้นมาเที่ยวครั้งเดียวไม่พอแน่นอน

สวนเค็นโรคุเอ็น

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน ที่อยู่ 1 Kenrokumachi, Kanazawa, Ishikawa 920-0936, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Kanazawa ต่อรถ KANAZAWA LOOP BUS ไปลงป้าย Kenrokuen Garden ค่าเข้า ผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป 320 เยน
เด็กอายุ 6-17 ปี 100 เยน

13. สวนอาราคุรายามะ เซ็นเก็น จังหวัดยามานาชิ

Sakura Spots-13 Arakurayama Sengen
Sakura Spots-13 Arakurayama Sengen

หลายคนน่าจะรู้จักภาพนี้ก่อนที่จะรู้จักชื่อของสถานที่เสียอีก มุมภาพที่มีเจดีย์สีแดงเด่นคู่กับภูเขาไฟฟูจิในฉากหลังนั้นคือมุมยอดฮิตของสวนอาราคุรายามะ เซ็นเก็น (新倉山浅間公園) สวนในจังหวัดยามานาชิที่เดินทางจากโตเกียวไปได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟสาย Fuji Kyuko ขบวนต่างๆ เช่น Fuji Excursion เป็นต้น โดยในฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะมีดอกซากุระเข้ามาร่วมวง ทำให้ภาพของเจดีย์และภูเขาไฟฟูจิดูอลังการและถ่ายรูปสวยเป็นพิเศษ!

สวนอาราคุรายามะ เซ็นเก็น

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน ที่อยู่ 2-chome-4-1 Asama, Fujiyoshida, Yamanashi 403-0011, Japan. การเดินทาง จากสถานี Shimoyoshida เดิน 21 นาที ค่าเข้า ฟรี

14. ยามาทากะจินไดซากุระ จังหวัดยามานาชิ

Sakura Spots-14 Yamataka Jindai Zakura
Sakura Spots-14 Yamataka Jindai Zakura

ยามาทากะจินไดซากุระ (山高神代桜) เป็นต้นซากุระในวัดจิซโซจิ (實相寺) ที่เชื่อว่ามีอายุมากถึง 2,000 ปี และเป็นอีกหนึ่งในต้นซากุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซากุระต้นนี้ยืนต้นสูง 10.3 ม. และเส้นรอบลำต้นใหญ่ถึง 11.8 ม. นับเป็นต้นซากุระเก่าแก่ที่ให้ความรู้สึกขลังแก่ทุกคนที่ได้มาเยี่ยมชม

ยามาทากะจินไดซากุระ

ช่วงซากุระบาน ต้นเมษายน ที่อยู่ 2763 Mukawacho Yamataka, Hokuto, Yamanashi 408-0306, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Hinoharu ต่อแท็กซี่ 10 นาที ค่าเข้า ฟรี

15. เนโอดานิ อุสุสุมิซากุระ จังหวัดกิฟุ

Sakura Spots-15 Ususumi Zakura
Sakura Spots-15 Ususumi Zakura

เนโอดานิ อุสุสุมิซากุระ (根尾谷淡墨桜) เป็นอีกหนึ่งใน 3 ซากุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับยามาทากะจินไดซากุระและมิฮารุทากิซากุระที่เราพูดถึงกันไปก่อนหน้านี้ สำหรับต้นเนโอดานิอุสุสุมิซากุระนี้คาดว่ามีอายุกว่า 1,500 ปีโดยมีความสูง 17.3 ม. ซึ่งสูงสุดในบรรดาซากุระทั้ง 3 ต้น และมีเส้นรอบลำต้น 9.4 ม. ที่มาของชื่ออุสุสุมิซากุระนี้มาจากการที่ดอกของมันเป็นสีชมพูอ่อนเมื่อครั้งยังเป็นดอกตูม จากนั้นเป็นสีขาวเมื่อบานเต็มที่ แล้วจึงเป็นสีหมึกจาง (淡 = จาง ,墨 = หมึก) เมื่อร่วงโรยนั่นเอง

เนโอดานิ อุสุสุมิซากุระ

ช่วงซากุระบาน ต้นเมษายน ที่อยู่ Neoitasho, Motosu, Gifu 501-1524, Japan. การเดินทาง จากสถานี Tarumi เดิน 15 นาที ค่าเข้า ฟรี

16. คาวาสุซากุระ จังหวัดชิสุโอกะ

Sakura Spots-16 Kawazu Sakura
Sakura Spots-16 Kawazu Sakura

คาวาสุซากุระ (河津桜) ของเมืองคาวาสุในจังหวัดชิสุโอกะมีจุดเด่นที่สีชมพูเข้มของมัน ซึ่งต่างจากซากุระอื่นๆ ในเกาะฮอนชูที่มักมีสีชมพูอ่อน-ขาว โดยที่ริมแม่น้ำคาวาสุจะมีต้นซากุระ 850 ต้นยืนเรียงกันเป็นระยะทาง 3.6 ม. เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวแถบโตเกียวและอยากออกจากเมืองที่วุ่นวายมาชมซากุระในบรรยากาศที่ต่างออกไป

คาวาสุซากุระ

ช่วงซากุระบาน ต้นกุมภาพันธ์-ต้นมีนาคม ที่อยู่ 48-6 Sasahara, Kawazu, Kamo District, Shizuoka 413-0512, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Kawazu เดิน 20 นาที ค่าเข้า ฟรี

คันไซ

17. ไคสุโอซากิ จังหวัดชิกะ

Sakura Spots-17 Kaisu Osaki
Sakura Spots-17 Kaisu Osaki

ไคสุโอซากิ (海津大崎) เป็นโลเคชั่นริมทะเลสาบบิวาโกะ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยในฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะราว 800 ต้นเรียงตามริมทะเลสาบเป็นระยะทาง 4 กม. ถือเป็นหนึ่งใน 8 โลเคชั่นวิวสวยประจำทะเลสาบบิวาโกะ

ไคสุโอซากิ

ช่วงซากุระบาน ต้นเมษายน ที่อยู่ Kaizu, Makino-cho, Takashima, Shiga 520-1811 Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Makino ต่อแท็กซี่ 9 นาที ค่าเข้า ฟรี

18. วัดคิโยมิสุ จังหวัดเกียวโต

Sakura Spots-18 Kiyomizu-dera
Sakura Spots-18 Kiyomizu-dera

วัดคิโยมิสุ (清水寺) เป็นโลเคชั่นชมซากุระยอดฮิตที่ทุกคนจะนึกถึง และถือเป็นวัดที่เป็นตัวแทนแห่งจังหวัดเกียวโตก็ว่าได้ โดยนอกจากระเบียงไม้แล้ว พื้นที่บริเวณวัดยังมีจุดให้ชมซากุระได้อีกมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือการเปิดไฟประดับในยามค่ำคืน ซึ่งว่ากันว่าไฟประดับซากุระของวัดคิโยมิสุนั้นดีที่สุดในเกียวโต ถ้าไปเกียวโตในฤดูใบไม้ผลิรอบหน้า ไปพิสูจน์ความสวยงามของมันกัน!

วัดคิโยมิสุ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 1 Chome-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0862, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Kyoto ต่อรถบัสมาลงที่ป้าย Gojo-zaka จากนั้นเดิน 10 นาที ค่าเข้า บุคคลทั่วไป 400 เยน
นักเรียนประถม-มัธยมต้น 200 เยน

19. ภูเขาโยชิโนะ จังหวัดนารา

Sakura Spots-19 Mount Yoshino
Sakura Spots-19 Mount Yoshino

ภูเขาโยชิโนะ (吉野山) เป็นจุดชมซากุระชื่อดังของจังหวัดนาราที่มีซากุระราว 200 สายพันธุ์รวม 30,000 ต้นพากันบานให้ชมในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากความหลากหลายและจำนวนต้นซากุระที่มีมากมายอย่างเหลือเชื่อแล้ว ซากุระที่นี่ยังทยอยบานจากบริเวณที่อยู่ในพื้นที่ต่ำและไล่ไปในส่วนลึกของภูเขา ทำให้ระยะที่ซากุระบานของที่นี่ยาวนานเป็นพิเศษ

ภูเขาโยชิโนะ

ช่วงซากุระบาน ต้น-กลางเมษายน ที่อยู่ Yoshinoyama, Yoshino, Yoshino District, Nara 639-3115, Japan. การเดินทาง จากสถานี Yoshino ไปขึ้นกระเช้าที่สถานี Senbon Guchi เพื่อขึ้นไปยังภูเขาโยชิโนะ

20. ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ

Sakura Spots-20 Himeji Castle
Sakura Spots-20 Himeji Castle

ปราสาทฮิเมจิ (姫路城) ฉายา “ปราสาทนกกระสาขาว” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งนี้ เป็นปราสาทสีขาวที่รับกับดอกซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะและซากุระพันธุ์กิ่งย้อยรวม 1,600 ต้นได้อย่างสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งปราสาทฮิเมจิมีเส้นทางเดินชมซากุระมากมายให้เลือกเดินกันได้ตามชอบ เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจมาเก็บภาพปราสาทญี่ปุ่นและดอกซากุระแบบเน้นๆ ชนิดที่อยู่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

ปราสาทฮิเมจิ

ช่วงซากุระบาน ต้นเมษายน ที่อยู่ 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Himeji ต่อรถแท็กซี่ 9 นาที หรือเดิน 20 นาที ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน
นักเรียน (ประถม-มัฐยมปลาย) 300 เยน

ภูมิภาคจูโกคุ

21. สะพานคินไทเคียว จังหวัดยามากุจิ

Sakura Spots-21 Kintaikyo
Sakura Spots-21 Kintaikyo

สะพานคินไทเคียว (錦帯橋) ที่มี 5 โค้งสวยงามแห่งนี้เป็นโลเคชั่นชั้นเยี่ยมสำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศชมซากุระริมแม่น้ำ นอกจากจะเดินชมซากุระจากบนสะพานแล้ว ที่นี่ยังมีเรือชมซากุระให้เรานั่งล่องไปตามแม่น้ำเพื่อชมทิวต้นซากุระได้เช่นกัน

สะพานคินไทเคียว

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ Iwakuni, Yamaguchi 741-0062, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Nishi-Iwakuni เดิน 25 นาที ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 310 เยน
เด็ก (อายุ 6-11 ปี) 150 เยน

22. ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า

Sakura Spots-22 Itsukushima
Sakura Spots-22 Itsukushima

คอวัฒนธรรมญี่ปุ่นจะรู้จักศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (厳島神社) ในฐานะมรดกโลก สมบัติประจำชาติญี่ปุ่น และตัวแทนแห่งความงามฉบับญี่ปุ่น โดยมีดาวเด่นคือเสาโทริอิที่ตั้งอยู่กลางน้ำซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 3 ทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น และศาลเจ้าอิทสึคุชิมะแห่งนี้จะสวยงามขึ้นอีกระดับเมื่อถึงฤดูซากุระ ซึ่งเป็นช่วงที่ศาลเจ้าจะถูกล้อมด้วยซากุระสีขาวอมชมพูหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นยามะซากุระ รวมถึงซากุระพันธุ์กิ่งย้อย (ชิดาเระซากุระ) และโอชิมะซากุระเป็นต้น

ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 1-1 Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Miyajimaguchi ต่อเรือเฟอร์รี่ 10 นาทีมายังท่าเรือ Miyajima ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 300-500 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย 200-300 เยน
นักเรียนประถม-มัธยมต้น 100-150 เยน

ภูมิภาคชิโกคุ

23. ชิอุเดะยามะ จังหวัดคากาว่า

Sakura Spots-23 Shiude Yama
Sakura Spots-23 Shiude Yama

ชิอุเดะยามะ (紫雲出山) เป็นจุดชมซากุระที่ฮิตที่สุดในภูมิภาคชิโคคุ โดยที่นี่มีระเบียงชมวิวที่ตั้งอยู่ ณ ระดับความสูง 352 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเมื่อขึ้นไปบนนั้นเราจะได้เห็นทิวต้นซากุระหลายสายพันธุ์ ทั้งโซเมโยชิโนะ พันธุ์โยโคซากุระ และยาเอะซากุระเป็นต้นที่ออกดอกสีขาว-ชมพูตัดกับทะเลเซโตะในเบื้องล่าง

ชิอุเดะยามะ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ Takumachotsumu, Mitoyo, Kagawa 769-1105, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Takuma ต่อแท็กซี่ 23 นาที

ภูมิภาคคิวชูและจังหวัดโอกินาว่า

24. สวนไมสุรุ จังหวัดฟุกุโอกะ

Sakura Spots-24 Maitsuru Park
Sakura Spots-24 Maitsuru Park

สวนไมสุรุ (舞鶴公園) เป็นที่ตั้งของซากปราสาทฟุกุโอกะ โดยเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิซากุระหลายสายพันธุ์ที่อยู่ภายในสวนจะพากันทยอยบาน โดยหลักๆ จะเป็นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะที่เราคุ้นเคยกัน สวนแห่งนี้เป็นที่ที่ให้เราได้ชมความงามของซากุระได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวต้นซากุระที่สะท้อนในคูน้ำรอบซากปราสาท หรือการชมซากุระพร้อมวิวเมืองโดยรอบจากมุมสูงบนพื้นที่ซากปราสาทเป็นต้น หรือแค่ได้เดินใต้ต้นซากุระที่นี่ก็มีความสุขแล้ว!

สวนไมสุรุ

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 1-4 Jonai, Chuo Ward, Fukuoka, 810-0043, Japan. การเดินทาง จากสถานี Ohori Park (Fukuoka Art Museum) เดิน 4 นาที ค่าเข้า ฟรี

25. สวนมิฟุเนะยามะ ราคุเอ็น จังหวัดซากะ

View this post on Instagram

A post shared by 御船山楽園 (@mifuneyamarakuen)

ถ้าอยากชมไฟประดับซากุระยามค่ำในคิวชูล่ะก็ ต้องสวนมิฟุเนะยามะ ราคุเอ็น (御船山楽園) แห่งนี้เลย ในพื้นที่สวนกว้าง 500,000 ตร.ม. แห่งนี้มีต้นซากุระทั้งหมด 2,000 ต้น ในจำนวนนี้มีทั้งพันธุ์โซเมโยชิโนะ พันธุ์โอชิมะซากุระ พันธุ์ยามะซากุระ พันธุ์ยาเอะซากุระเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกเปิดไฟประดับให้สว่างนวลเด่นในยามค่ำคืน ชนิดที่ถ่ายรูปเท่าไหร่ก็ไม่พอ!

สวนมิฟุเนะยามะ ราคุเอ็น

ช่วงซากุระบาน ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน ที่อยู่ 4100 Takeocho Oaza Takeo, Takeo, Saga 843-0022, Japan. การเดินทาง จากสถานี JR Takeo-Onsen ต่อแท็กซี่ 5 นาที ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 500 เยน
นักเรียนประถม 300 เยน

26. ซากปราสาทนาคิจิน จังหวัดโอกินาว่า

View this post on Instagram

A post shared by 【公式】世界遺産 今帰仁城跡 (@nakijinjoseki_osi)

ใครอยากดูซากุระเร็วกว่าใครเพื่อน มาที่ซากปราสาทนาคิจิน (今帰仁城跡) ได้เลย เพราะซากุระของที่นี่บานตั้งแต่ตอนปลายเดือนมกราคม! ซากปราสาทนาคิจินตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะหลักโอกินาว่า โดยอยู่ในทำเลไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (ちゅらー海水族館) ที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิต

ตัวซากปราสาทนาคิจินนั้นถือเป็นหนึ่งในซากปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดของโอกินาว่า และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก ด้วยแผนผังปราสาทที่เห็นคล้ายรูปมังกร ทำให้ปราสาทนาคิจินมีฉายา “มังกรหินแห่งทิศอุดร” ซึ่งจุดที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปซากุระกันก็คือทางเดินหินที่ผ่านเข้าไปยังชั้นในของปราสาท ซึ่งเมื่อซากุระพันธุ์คังฮิซากุระสีชมพูเข้มบาน เราจะได้อุโมงค์ซากุระสีสันจัดจ้านให้ชมกัน

ซากปราสาทนาคิจิน

ช่วงซากุระบาน กลางมกราคม-ต้นกุมภาพันธ์ ที่อยู่ 5101 Imadomari, Nakijin, Kunigami District, Okinawa 905-0428, Japan. การเดินทาง จากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ ต่อแท็กซี่ 15 นาที ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 600 เยน
นักเรียนมัธยมต้น 450 เยน
เด็กเล็ก-นักเรียนประถมเข้าฟรี

ในนี้มีจุดชมซากุระที่ชอบกันไหมเอ่ย?

หวังว่าในลิสต์นี้จะมีจุดชมซากุระที่เพื่อนๆ สนใจกันนะคะ ไว้ถ้าไปเที่ยวกันแล้ว มาอวดภาพซากุระกันได้นะคะ หรือถ้ามีจุดชมซากุระที่อยากแบ่งปันกัน ก็ทิ้งไว้ในคอมเม้นต์ได้เลย!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0