นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.จัดทำมาตรการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2565 โดยมีการพ่วงตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถทุกสายทั่วประเทศ และเพิ่มขบวนรถพิเศษรองรับการเดินทางของประชาชนให้เพียงพอต่อความต้องการ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2564-5 มกราคม 2565 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก หลังรัฐบาลมีการผ่อนคลายการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และได้ประกาศให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การพ่วงตู้โดยสารจะมีการเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ และมีการเพิ่มขบวนรถพิเศษ ไป-กลับ ในทุกเส้นทางโดยจะพิจารณาจากสถานการณ์ในแต่ละวัน ทำให้ รฟท.มีขบวนรถให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ถึง 176 ขบวน รองรับปริมาณการเดินทางได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน รฟท.ขอแจ้งย้ำถึงผู้โดยสารทุกคนว่าการให้บริการเดินรถในปัจจุบันยังคงให้บริการสถานีต้นทางและปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตามปกติ ไม่ได้มีการย้ายไปที่สถานีกลางบางซื่อแต่อย่างใด พร้อมทั้งยังเปิดให้ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถโดยสารทางไกลสามารถเดินรถและหยุดให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และสถานีดอนเมืองเดิม โดยให้เลื่อนการใช้เส้นทางการเดินรถพื้นที่โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่สถานีกลางบางซื่อออกไปก่อน
สำหรับแผนการพิจารณาย้ายสถานีต้นทางและปลายทางฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ รฟท.ทำการศึกษารายละเอียด ตามข้อสั่งการของผู้ว่าการ รฟท.ที่กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดทำสถิติในทุกๆด้าน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและสถาบันการศึกษาร่วมให้คำแนะนำเพื่อพิจารณาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน การขนส่งสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยในการเดินรถและจะประเมินแผนการเดินรถ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งสูงสุด
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ รฟท.ยังได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สำหรับอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยการเดินทางแก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟ
ทั้งนี้ ตลอดจนดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กันอย่างเคร่งครัด โดยมีการตั้งจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าสถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง การรักษาระยะห่าง Social Distancing พร้อมให้สแกนแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ
ความเห็น 0