ไฮไลท์ BMW และ MINI ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 BMW 330e M Sport ใหม่ ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
BMW Series- 3 หนึ่งในรถยนต์ตระกูลหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของ BMW สู่อนาคตกับ 330e M Sport ใหม่ รถยนต์ซีดานปลั๊กอินไฮบริดที่เหนือกว่ารุ่นก่อน ด้วยการอัปเกรดทั้งแบตเตอรี่ ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System รุ่นล่าสุด พร้อมปรับโฉมภายนอกใหม่
ไฮไลท์ของ 330e M Sport ใหม่ คือ แบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 22.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ ลดเวลาชาร์จเต็มจาก 3 ชั่วโมง 45 นาที เหลือเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาที ระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน (ตามมาตรฐาน WLTP) เพิ่มขึ้นจาก 330e รุ่นก่อนหน้า ด้วยระยะทางสูงสุด 85-101 กิโลเมตร
แบตเตอรี่ใหม่ ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า เกียร์ 8 สปีด Steptronic Sport กำลังสูงสุด 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ฟังก์ชัน Sport Boost สามารถเพิ่มสมรรถนะและอัตราเร่ง 10 วินาที พร้อมกันสะเทือน Adaptive M
รูปลักษณ์ภายนอกของ 330e M Sport ใหม่ ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว แบบ Double Spoke สองสี ชุดแต่ง M Sport Pro รอบคัน มีทั้ง M Lights Shadowline เฉดสีเข้มชุดไฟหน้า Adaptive LED ด้านข้างตกแต่งด้วย M High-gloss Shadowline with Extended Contents และสปอยเลอร์ท้ายแบบ M หลังคากระจกระบบไฟฟ้า คาลิเปอร์เบรกสีแดง
ห้องโดยสาร พวงมาลัยหนังแบบ M ฐานตัดขอบล่าง ชุดแต่งแผงคอนโซล Luxury ตกแต่งสไตล์ M ทั่วห้องโดยสาร เข็มขัดนิรภัย M เบาะนั่งแบบสปอร์ต วัสดุตกแต่งภายใน Aluminium Rhombicle Anthracite M
3 30e M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 เวอร์ชันล่าสุด ออกแบบมาให้เข้าถึงการตั้งค่าและฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่าย รวมถึง BMW Iconic Sounds Electric ติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรก เพื่อส่งเสียงเครื่องยนต์แบบจำลอง ผ่านชุดเครื่องเสียงเซอร์ราวด์ Harman Kardon ขณะขับขี่ในระบบไฟฟ้าล้วน ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยและสะดวกสบาย ระบบ Active Cruise Control with Stop & Go Function, ระบบช่วยจอด Parking Assistant Plus และระบบเสียงเตือนคนเดินเท้า (Acoustic Protection for Pedestrians) ขณะขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า
BMW 330e M Sport ใหม่ สีตัวถัง
สีเทา Brooklyn Grey Metallic
น้ำเงิน Portimao Blue Metallic
(ทั้งสองสีมาพร้อมเบาะหนัง Vernasca ตกแต่งด้วยตะเข็บสีดำ)
ขาว Mineral White Metallic
ดำ Black Sapphire Metallic
(ทั้งสีขาวและดำ มาพร้อมเบาะหนัง Vernasca ตกแต่งด้วยตะเข็บสีน้ำตาล)
BMW M3 Competition M xDrive Touring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
M3 Competition M xDrive Touring ใหม่ เบรกเซรามิค
M3 Competition M xDrive Touring หนึ่งในพี่ใหญ่ของตระกูลซีรีส์ 3 ผสมผสานสมรรถนะส่งตรงจากสนามแข่งเข้ากับความอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน รุ่นปรับโฉมยกระดับความแรง เสริมลุคสปอร์ตมากกว่าเดิม ในฐานะรถยนต์ทัวริ่ง BMW M3 Competition M xDrive Touring เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo กำลังสูงขึ้น 20 แรงม้าจากรุ่นก่อน ขึ้นมาอยู่ที่ 390 กิโลวัตต์ / 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตรที่ 2,750-5,730 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic Sport พร้อม Drivelogic ส่งกำลังสู่ล้อทั้งสี่ เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.6 วินาที แพ็คเกจ M Driver's Package เพิ่มความเร็วสูงสุดของตัวรถขึ้นไปที่ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW M xDrive ปรับอัตราส่วนการกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและหลังแบบอิสระ ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำในทุกสภาวะการขับ ฟังก์ชัน Boost Control เพิ่มอัตราเร่งของ M3 Competition Touring เตรียมระบบส่งกำลังให้พร้อมทำงานเต็มประสิทธิภาพเมื่อรถออกตัว ระบบเบรก M compound สามารถเลือกอัปเกรดเป็นระบบเบรกเซรามิค M Carbon เพื่อประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่า
ด้านหน้า M3 Competition M xDrive Touring ไฟหน้า Adaptive LED ออกแบบใหม่ กรอบสีเข้มจากแพ็คเกจ M Lights Shadowline กระจังหน้าทรงไตคู่ ตกแต่งด้วยแถบคู่แนวนอนสไตล์ M ซุ้มล้อที่ดูทรงพลัง ราวหลังคา M high-gloss Shadowline ล้อ M ดีไซน์ใหม่ ในรุ่นปรับโฉม ขนาด 19 และ 20 นิ้ว แบบ Double Spoke เลือกได้ทั้งสีดำ ดำทูโทน และเทา Orbit Grey ชุดแต่ง M Carbon ติดตั้งชิ้นส่วนรอบคัน เช่น กรอบช่องรับอากาศด้านหน้า ดิฟฟิวเซอร์ท้ายคัน ฝาครอบกระจกมองข้าง
ห้องโดยสารของ M3 Competition M xDrive Touring คงสไตล์ M ไว้ในทุกมิติ พวงมาลัย M สามก้านฐานตัด ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และเครื่องหมายสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะหน้าแบบ M Carbon bucket seat ชุดแต่งภายใน M Carbon Fibre ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5
M3 Competition M xDrive Touring และรุ่นพิเศษพร้อมอัปเกรดเบรกเซรามิก สีตัวถัง
สีขาว Alpine White
เหลือง Sao Paulo Yellow
ดำ Black Sapphire
เทา Skyscraper Grey
แดง Aventurine Red
เทา Brooklyn Grey
แดง Toronto Red
เขียว Isle of Man Green
สีพิเศษจาก BMW Individual อีกกว่า 100 สี
BMW M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ ระบบเบรกเซรามิค
M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ อีกหนึ่งรุ่นจากตระกูล M ที่มีการปรับโฉม เติมสมรรถนะ และยกระดับประสบการณ์ คูเป้พลังแรงรุ่นนี้มาพร้อมแพ็คเกจ M Driver's Package เพิ่มความเร็วสูงสุดจาก 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo กำลังเพิ่มขึ้น 20 แรงม้า เช่นเดียวกับ M3 Competition Touring มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 390 กิโลวัตต์ / 530 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW M xDrive รูปทรงคูเป้ที่ปราดเปรียว M4 Competition M xDrive Coupe เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.5 วินาที
M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ สามารถเลือกอัปเกรดเป็นระบบเบรกเซรามิค M Carbon เพื่อประสิทธิภาพการเบรกที่ดีที่สุด ระบบกันสะเทือน Adaptive M ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ไฟหน้าของ M4 Competition M xDrive Coupe ระบบ Adaptive LED ด้านท้ายมาพร้อมระบบไฟท้ายเลเซอร์ที่เคยใช้ในตัวแรงน้ำหนักเบาอย่าง M4 CSL สัดส่วนด้านข้างที่โค้งมนและลู่ลม ปรุงแต่งเพิ่มความสปอร์ตด้วยล้อ M ขนาด 19 และ 20 นิ้ว Double Spoke มีให้เลือกทั้งสีเงิน M Silver, ดำ, ดำทูโทน ชุดแต่ง M Carbon
ห้องโดยสาร M4 Competition M xDrive Coupe ปรับโฉมในทิศเดียวกับ M3 Competition Touring พวงมาลัย M ฐานตัด ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5
BMW M4 Competition M xDrive Coupe สีตัวถัง
สีเหลือง Sao Paulo Yellow
ดำ Black Sapphire
เทา Dravit Grey
เขียว Isle of Man Green
เทา Skyscraper Grey
ขาว Frozen Brilliant White
น้ำเงิน Tanzanite Blue
ขาว Alpine White
น้ำเงิน Portimao Blue
แดง Toronto Red
เทา Brooklyn Grey
แดง Aventurine Red
น้ำเงินด้าน Frozen Portimao Blue
สีพิเศษจาก BMW Individual อีกกว่า 100 สี
BMW 530e Inspiring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
530e Inspiring ใหม่ เปิดประตูให้ได้สัมผัสกับความหรูหราของซีรีส์ 5 แบบปลั๊กอินไฮบริด รักษาความเนี้ยบสไตล์สปอร์ต สำหรับนักขับและผู้บริหารทั่วโลก 530e Inspiring ความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ 5 สวยสะดุดตาด้วยเส้นสายบนพื้นผิวรอบคัน รุ่นใหม่นี้ มีชุดแต่ง Titanium Bronze กับโทนสีบรอนซ์อ่อนบนกระจังหน้าทรงไตคู่ ระบบไฟ BMW Iconic Glow ล้อขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์ Aerodynamic โทนสี Multicolour Titanium Bronze เพื่อให้เข้ากับชุดแต่งใหม่
ระบบส่งกำลังแบบไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 220 กิโลวัตต์ / 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกล 87-102 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ทำความเร็วได้สูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า เสียงเครื่องยนต์จำลองจากระบบ BMW IconicSounds Electric
ห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 530e Inspiring ใหม่ ใช้โทนสีที่ตัดกันของวัสดุผิวหน้าสีเงินแบบ Dark Silver และโทนไม้ Dark Oak คันเกียร์และปุ่มควบคุมต่างๆ ส่องประกายด้วยแก้วคริสตัลจากชุดแต่ง BMW CraftedClarity แพ็คเกจ BMW Live Cockpit Professional ผ่านหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วระบบ Driving Assistant แบบมาตรฐาน (สามารถอัปเกรดเป็น Driving Assistant Plus ผ่าน ConnectedDrive Store) ระบบ Parking Assistant Plus ทำงานร่วมกับชุดกล้องรอบคันเพื่อช่วยให้จอดรถได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายแม้ในพื้นที่จำกัด (สามารถอัปเกรดเป็น Parking Assistant Professional ผ่าน ConnectedDrive Store) ระบบ BMW Head-Up Display ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับถนนด้วยการแสดงข้อมูลสำคัญในระดับสายตาธรรมชาติ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน กล้องภายในใช้ถ่ายภาพผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมแชร์ต่อไปยังสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ด้วยอุปกรณ์ Travel & Comfort ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ด้านหลังเบาะหน้า เพื่อความสะดวกในการใช้อุปกรณ์ส่วนตัวหรือจัดเก็บสิ่งของ
BMW 530e Inspiring ใหม่ สีตวถัง
สีดำ Black Sapphire Metallic
ขาว Mineral White Metallic
เทา Oxide Grey Metallic
(ทั้งสามสีมาพร้อมเบาะหุ้ม Veganza สีน้ำตาล Espresso)
เขียว Cape York Green (เบาะหุ้ม Veganza สีดำ)
BMW M5 Touring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
M5 Touring ใหม่ เบรกเซรามิค
หลังจากเปิดตัวไปในงานแถลงข่าวแผนธุรกิจประจำปี ถึงเวลาแล้วที่ M5 Touring ใหม่ จะออกตัวมุ่งสู่ท้องถนนเมืองไทย ทั้งในรุ่นมาตรฐานและรุ่นอัปเกรดเป็นระบบเบรกเซรามิค
M5 Touring ใหม่ สรรสร้างมาในทุกรายละเอียดเพื่อการขับขี่ทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริปเดินทางไกล สมรรถนะควบคู่กับทางเลือกในการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน คุณสมบัติทั้งหมดนี้รวบรวมไว้ภายใต้งานออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งพันธุ์แท้ รูปทรงตัวถังด้านข้างผ่านการปรับแต่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ซุ้มล้อที่นูนเด่นหรือเส้นหลังคาที่ทอดยาวไปด้านท้าย ส่วนด้านหน้ารถมีช่องรับลมขนาดใหญ่ กระจังหน้าไตคู่แบบ M พร้อมไฟส่องสว่าง BMW Iconic Glow ท้ายรถประดับด้วยแถบไฟท้ายที่โค้งรับกับทุกสัดส่วน ตั้งอยู่เหนือดิฟฟิวเซอร์คู่และชุดท่อไอเสีย 4 ท่อ
ระบบขับเคลื่อน M HYBRID เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิต มอเตอร์ไฟฟ้า ชุดเกียร์ 8 สปีด M Steptronic เครื่องยนต์ล้วนๆ ให้กำลังสูงสุด 430 กิโลวัตต์ / 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,400 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ให้กำลัง 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร โดยรวมแล้ว ระบบ M HYBRID ใน M5 Touring ใหม่ ให้กำลังสูงสุดถึง 535 กิโลวัตต์ / 727 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร
แชสซีที่ออกแบบมาด้วยนวัตกรรมจาก M เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ช่วงล่าง Adaptive M ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว Integral Active Steering M5 รุ่นใหญ่คันนี้เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเลือกอัปเกรดระบบเบรกเซรามิก M Carbon ceramic ช่วยลดระยะเบรก เพิ่มความไวในการตอบสนองในกรณีขับขี่เต็มสมรรถนะโดยใช้ทั้งคันเร่งและเบรกคู่กัน
M5 Touring ล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 20 นิ้ว (หน้า) / 21 นิ้ว (หลัง) แบบ Double Spoke สีดำ เทาทูโทน Midnight Grey และดำทูโทน พื้นที่เก็บสัมภาระ 1,630 ลิตร ระบบเปิดประตูท้ายอัตโนมัติ ห้องโดยสารสปอร์ตสไตล์ M พวงมาลัยหนัง M ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่ง M multifunction พร้อมเข็มขัดนิรภัย M ระบบไฟภายในแบบเฉพาะรุ่น M และระบบเสียงเซอร์ราวด์จาก Bowers & Wilkins ชุดแต่ง Dark Silver M สีเงินเข้มเข้ากับคาร์บอนไฟเบอร์
ระบบควบคุม BMW iDrive เวอร์ชันล่าสุด ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 รองรับการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ผ่านทั้งหน้าจอสัมผัสและการสั่งการด้วยเสียง ติดตั้งมาคู่กับแพ็คเกจ BMW Live Cockpit Professional ระบบนำทาง BMW Maps ฟังก์ชัน Augmented View ระบบช่วย ขับจาก Driving Assistant Professional ครอบคลุมทั้งระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและรักษาเลน, Active Cruise Control และ Lane Change Assist ขณะที่ระบบ Parking Assistant Professional ช่วยให้ควบคุมการจอดรถผ่านสมาร์ทโฟนจากภายนอกตัวรถได้
MINI John Cooper Works Electric ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
อีกหนึ่งรุ่นที่เตรียมลุยตลาดไทยอย่างเต็มตัวหลังจากที่เผยโฉมไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ MINI John Cooper Works Electric ตัวแรงพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกจากตำนานโลกยานยนต์อย่าง จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์
MINI John Cooper Works Electric แบบ 3 ประตู มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนที่ให้กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร เรียกใช้งานได้ทันทีแบบไม่มีหน่วง ตอบสนองการส่งกำลังได้อย่างรวดเร็วในแบบรถ BEV เติมความแรงขณะออกตัวด้วยฟังก์ชัน Electric Boost เสริมพลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 กิโลวัตต์เป็นระยะสั้นๆ ขณะเร่งความเร็ว ช่วงล่างก็ผ่านการปรับจูนมาในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เต็มตัว พร้อม “Go-Kart feeling” เอกลักษณ์ของ MINI พลังสูง
การตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่นรอบคัน ทำให้ MINI John Cooper Works Electric เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์จากโลกมอเตอร์สปอร์ตและอนาคตของวงการยานยนต์ JCW รุ่นใหม่ โลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำ แรงบันดาลใจจากธงตาหมากรุก สปอยเลอร์ท้ายเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านอากาศพลศาสตร์ ระยะทางการขับ 371 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP
ห้องโดยสาร โทนสีแดงและดำ เอกลักษณ์ของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ พวงมาลัยสปอร์ต JCW สีดำที่ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อให้จับถนัดมือ เบาะสปอร์ต JCW ให้การรองรับที่มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนังสีดำเช่นเดียวกับผิวของคอนโซล นอกจากนี้ โหมด Go-Kart ในระบบ MINI Experience Modes ยังช่วยเติมกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ตตามสไตล์ JCW ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโหมดนี้จะตั้งค่าพวงมาลัยให้ไวมากขึ้น คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้น และแสดงข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลมด้านหน้า ทั้งแรงบิด กำลังเครื่องยนต์ และแรง G แบบเรียลไทม์
MINI John Cooper Works Electric สีตัวถัง
สีเทา Legend Grey
แดง Chili Red II
ขาว Nanuq White
ดำ Midnight Black II
น้ำเงิน Blazing Blue
MINI John Cooper Works Aceman ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
น้องใหม่ล่าสุดของครอบครัวมินิอย่าง Aceman ในโฉม 5 ประตูที่พร้อมรับมือทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมือง พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่โลกของสมรรถนะเต็มพิกัดด้วยขุมพลังไฟฟ้าตัวแรงในรุ่น MINI John Cooper Works Aceman
MINI John Cooper Works Aceman มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า กำลัง 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า เช่นเดียวกับ MINI John Cooper Works Electric รุ่น 3 ประตู แต่มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าและตัวถังที่ยกสูงจากพื้นมากขึ้น
ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.4 วินาที แบตเตอรี่แรงดันสูง 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ MINI John Cooper Works Aceman วิ่งได้ไกล 355 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาที ด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง DC 95 กิโลวัตต์ หรือ 5 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ AC 11 กิโลวัตต์
ดีไซน์เฉพาะตัวแบบจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ลายคาดสปอร์ตสีแดง-ดำ หลังคาและฝาครอบกระจกมองข้าง ใช้โทนสีเดียวกัน JCW Aceman ใหม่ ใส่ล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว Strive Spoke ทูโทน ห้องโดยสารมีหลังคากระจกพาโนรามา ตกแต่งสไตล์ John Cooper Works พวงมาลัย JCW เฉพาะรุ่น เบาะนั่งสปอร์ต จอแสดงผล OLED ทรงกลม ฟังก์ชัน MINI Experience Modes รองรับโหมด Go-Kart
ระบบ Digital Key Plus ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถแบบดิจิทัล ล็อกและปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า MINI John Cooper Works Aceman และ John Cooper Works Electric พร้อมฟังก์ชัน Remote Parking ควบคุมการจอดและนำรถออกจากที่จอดผ่านสมาร์ทโฟนได้
MINI John Cooper Works Aceman สีตัวถัง
สีเทา Legend Grey
แดง Chili Red II
ขาว Nanuq White
ดำ Midnight Black II
MINI John Cooper Works ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
MINI John Cooper Works Convertible ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
MINI John Cooper Works เครื่องยนต์เบนซิน กลับมาอีกครั้งในโฉมใหม่ ภายใต้แนวทางการออกแบบของ New MINI Family เจเนอเรชันปัจจุบัน เพิ่มความพิเศษด้วยรุ่นเปิดประทุน
ทั้ง MINI John Cooper Works และรุ่น Convertible ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ TwinPower Turbo 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ JCW รุ่นสันดาป เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.1 วินาที ส่วนรุ่น JCW Convertible ทำเวลา 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใกล้เคียงกันที่ 6.4 วินาที ข ความเร็วสูงสุดของทั้งสองรุ่นอยู่ที่ 250 และ 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังคาผ้าของรุ่น JCW Convertible เปิดออกได้ในเวลา 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โลโก้ JCW แบบใหม่ที่ด้านหน้า กระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมสีดำเงาและช่องรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ท้ายรถเน้นความสปอร์ตด้วยดิฟฟิวเซอร์สีดำและชุดท่อไอเสียที่ติดตั้งตรงกลาง ล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 18 นิ้ว แบบ Lap Spoke ทูโทน
MINI John Cooper Works และ John Cooper Works Convertible ใหม่ มาพร้อมโหมด Go-Kart ผ่าน MINI Experience Modes โหมดนี้จะปรับพวงมาลัยและคันเร่งให้ตอบสนองไวขึ้น และแสดงข้อมูลสมรรถนะเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลม นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังรองรับการเข้าถึงตัวรถด้วยระบบ MINI Digital Key Plus เช่นกัน
MINI Cooper Convertible S ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568
เตรียมพบกับ MINI Cooper Convertible S ใหม่ ความกะทัดรัดเข้ากับบรรยากาศของอิสรภาพจากดีไซน์เปิดประทุนที่คงความสดใหม่ของแนวทางการออกแบบในสไตล์ของ New MINI Family
ไฮไลท์สำคัญของ MINI Cooper Convertible S หลังคาผ้า เปิดได้สองรูปแบบ ทั้งแบบซันรูฟและแบบเปิดประทุน หลังคาสามารถเปิดอัตโนมัติใน 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โหมดซันรูฟสามารถเปิดหลังคาได้ที่ความเร็วใดก็ได้ เมื่อเปิดหลังคาเต็มที่ ตัวหลังคาจะถูกพับเก็บไว้ด้านหลังเบาะหลัง หน้าจอ OLED ทรงกลมก็จะเริ่มจับเวลาการขับรถแบบเปิดประทุนทันทีในโหมด Always Open Timer
เมื่อเปิดหลังคา MINI Cooper Convertible S จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระรวม 160 ลิตร ระบบพับเก็บหลังคาที่ประหยัดพื้นที่ท้ายรถ หากปิดหลังคาก็จะมีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 215 ลิตร ประตูท้ายออกแบบมาให้เปิดลงด้านล่างเพื่อความสะดวกในยกของขึ้นลง ความปลอดภัย ระบบป้องกันการพลิกคว่ำจะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเซ็นเซอร์ต่างๆ ตรวจพบความเสี่ยงที่รถอาจพลิกคว่ำได้
MINI Cooper Convertible S ใหม่ แตกต่างจากเพื่อนๆ ร่วมตระกูล New MINI Family ด้วยกรอบหน้าต่างที่ลดระดับลงได้แบบอัตโนมัติเมื่อพับหลังคาลง รักษาเอกลักษณ์อื่นๆ ของ MINI ในเจเนอเรชันนี้ไว้อย่างครบถ้วน ส่วนหน้ารถที่สั้นกะทัดรัด ไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยม ไฟท้าย LED แนวตั้ง แถบมือจับประตูหลังวางในแนวนอน
MINI Cooper Convertible S ใหม่ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบกันสะเทือนที่ปรับจูนมาเพื่อความแม่นยำและคล่องตัว
นอกจากหน้าจอ OLED ทรงกลมแล้ว ภายในห้องโดยสารของ MINI Cooper Convertible S ยังสะท้อนภาษาการออกแบบ "Charismatic Simplicity" ของ New MINI Family วัสดุหุ้มเบาะแบบทูโทนแต่งลายถัก สัมผัสนุ่ม ดูแลรักษาง่าย ระบบ MINI Experience Modes ปรับแต่งให้เข้ากับรุ่น Convertible S ชุดโปรเจคเตอร์สองตัวที่ติดตั้งด้านหลังหน้าจอ ฉายภาพกราฟิกและแสงไฟลงบนแผงคอนโซลขณะขับขี่แบบปิดหลังคา
แพ็คเกจ Driving Assistant Plus เสริมความสะดวก ด้วยระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ขับขี่ในการนำทาง ส่วนเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง Surround View 4 ตัว ช่วยให้ระบบ Parking Assistant Plus สามารถตรวจหาช่องจอดที่ยังว่างและพารถเข้าช่องจอดแบบอัตโนมัติแม้จะมีพื้นที่จำกัด
MINI Cooper Convertible S ใหม่ สีตัวถัง
สีเทา Copper Grey
ขาว Nanuq White
เหลือง Sunny Side Yellow.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไฮไลท์ BMW MINI ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath