โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ส่องที่กักตัวจาก Covid19 ของญี่ปุ่น … ต้องนอนในลังกระดาษจริงดิ !? - เพจ Eak SummerSnow

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 17 เม.ย. 2563 เวลา 21.03 น. • เพจ Eak SummerSnow

ในช่วงวิกฤตที่ไวรัสกำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ แต่ละประเทศก็ต้องใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อหยุดการระบาดของไวรัส โดยเฉพาะมาตรการควบคุมในการเดินทาง โดยประเทศญี่ปุ่นก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด (ในช่วงภาวะปกติ) นะครับ 

แต่ปัจจุบันนี้เขาก็มีมาตรการควบคุมการเดินทาง ยกเลิกวีซ่าที่เพิ่งออกให้ รวมไปถึงยกเลิกฟรีวีซ่าของหลายๆชาติ (รวมทั้งประเทศไทยด้วย) ก็คือตอนนี้ชาวต่างชาติทั่วไปไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ ยกเว้นจะเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ พูดง่ายๆก็คือ ในช่วงนี้ญี่ปุ่นก็ไม่อยากให้ใครเดินทางเข้าประเทศนั่นแหละ

แต่สำหรับคนที่จำเป็นต้องเดินทางมาในช่วงนี้ เช่นชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เขาก็ต้องใช้มาตรการควบคุมไวรัสเช่นกัน เราอาจจะเห็นข่าวมาตรการควบคุมไวรัสด้วยการกักตัวในไทยกันมาบ้างแล้ว คร่าวๆก็คือถ้ากลับมาจากพื้นที่ประเทศที่เสี่ยง ก็จะต้องถูกพาไปกักตัวในสถานที่ที่ทางการกำหนดเอาไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่ชอบและไม่ชอบ โดยเฉพาะฝ่ายที่ต้องถูกกักตัวก็อาจจะรู้สึกว่าไม่อยากถูกควบคุมตัวรวมกับคนอื่นแบบนั้น กลับมาแล้วก็อยากกลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็กลายเป็นข่าวใหญ่ในบ้านเราเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้

ซึ่งที่ญี่ปุ่นเองก็เช่นกันครับ เมื่อมีการใช้มาตรการการควบคุมไวรัส ก็มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วก็เป็นข่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่โตเช่นเดียวกัน วันนี้เราจะลองมาดูกันดีกว่าว่า ถ้าบินเข้าญี่ปุ่นตอนนี้จะต้องเจออะไรบ้าง ? และมาตรการการควบคุมไวรัสของสนามบินที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร ?

  • ขั้นแรกเลย พอเครื่องลงจอด เมื่อเครื่องถึงญี่ปุ่น เราก็จะต้องนั่งรออยู่ในเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องกลัวเหงานะครับ เพราะในระหว่างนี้เขาจะมีเอกสารกองมหึมามาให้กรอก ซึ่งตรงจุดนี้ชาวต่างชาติบ่นกันอุบเพราะเป็นเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ คันจิมาเป็นพรืด แต่เขาถือว่าตอนนี้คนที่เข้าญี่ปุ่นก็ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นพอสมควรอยู่แล้ว เอกสารก็เป็นพวกประวัติ แล้วก็ใบยินยอมให้ตรวจสอบไวรัส ซึ่งตอนนี้ใครที่ลงเครื่องที่สนามบินนาริตะเขาจะจับตรวจไวรัสทุกคนนะครับ จะมีไข้หรือไม่มีก็ช่างโดนหมด
  • พอกรอกเอกสารเสร็จ รอเขาปล่อยตัวก็จะค่อย ๆ เดินออกมา ก่อนถึงที่ตรวจคนเข้าเมืองก็จะมีบู้ทพิเศษเป็นบู้ทเก็บตัวอย่างเพื่อเอาไปตรวจเลย วิธีการเก็บก็จะใช้ก้านสำลีแหย่เข้าไปในจมูก ซึ่งผลการตรวจจะต้องรอ 1-2 วัน  พอแหย่จมูกเสร็จแล้วก็เดินไปผ่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ผ่านด้านศุลกากรอะไรตามปกติ
  • หลังจากผ่านออกมาแล้ว ตรงนี้เขายังมีทางเลือกอิสระให้เลือก ซึ่งมีทางเลือก 2 ทาง คือถ้ามีคนมารับกลับบ้าน ก็สามารถกลับไปรอผลที่บ้านได้ โดยให้กักตัวอยู่ในบ้าน ห้ามออกไปไหน แต่ถ้าไม่มีคนมารับก็จะไม่สามารถออกจากสนามบินด้วยขนส่งสาธารณะได้ เขาจะให้กักตัวที่สนามบินนี้เพื่อรอผลตรวจ (ผลตรวจต้องใช้เวลา 1-2 วัน) ซึ่งปกติเขาจะมีโรงแรมใกล้สนามบินที่เขาจัดไว้ให้ (จ่ายเงินเพิ่มเอง) แต่ในช่วงนี้นั้นโรงแรมเต็มหมดเลยครับเพราะคนมากักตัวกันนี่แหละ ตอนนี้ก็เลยต้องพักที่ห้องพักรวมกันหมด เขาก็จะพาขึ้นรถบัสไปที่ห้องพักรวม โดนรถบัสจะหุ้มพลาสติกในแต่ละเบาะไว้อย่างดี คนขับก็จะใส่ชุดเหมือนอยู่ในห้องผ่าตัดกันเลยทีเดียว บางทีก็แอบคิดว่าเขาจะพาเราไปไหน อารมณ์เหมือนว่าถ้าเป็นในการ์ตูนญี่ปุ่นเราคงจะถูกพาไปผ่าตัดแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดแน่ ๆ
  • แต่พอไปถึงที่พักรวมนี่คือความพีคที่แม้แต่ชาวญี่ปุ่นยังตกตะลึงครับ เพราะห้องพักรวมนี่มันก็คือบริเวณที่รับกระเป๋าที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพักด้วยอุปกรณ์ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่นนั่นก็คือ … กระดาษลัง… อ่านไม่ผิดครับ กระดาษลังจริง ๆ เขาเอากระดาษลังมาดัดแปลงเป็นเตียงนอนให้ แม้ดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็แข็งแรงกว่าที่คิดนะ จริง ๆ ตอนเกิดภัยพิบัติแล้วต้องอพยพไปรวมกันบางที่ก็มีการใช้กระดาษลังมาทำเตียงแบบนี้เหมือนกัน แม้จะดูอนาถาเหมือนลุงโฮมเลสไร้บ้านตามสวนสาธารณะ แต่เขามีฟุตงเป็นที่นอนปู ๆ ให้ ในข่าวบอกว่าที่นอนดีนะ นอนสบาย แต่หนาวมาก จากไม่ป่วยก็จะป่วยเพราะที่กักตัวเนี่ย !!
  • เขาก็จะให้นอนในกระดาษลัง 1-2 วัน รอผลการตรวจนะครับ  ถ้าผลออกมาเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ ก็จะให้กลับบ้านไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้าน เขาบอกว่าตรงจุดนี้ไม่มีใครตามดูแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลที่อยู่อะไรไปแค่นั้น แต่คือการจะออกจากห้องกักตัวนี่ได้มีแค่ 2 ตัวเลือกคือ “ต้องให้คนมารับหรือเช่ารถขับไปเองเท่านั้น”ห้ามใช้ขนส่งสาธารณะเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟรถบัส หรือจะโชว์รวยนั่งแท็กซี่ก็ห้าม แม้แต่จะต่อเครื่องบินในประเทศก็ไม่ได้ เช่นบ้านอยู่อาโอโมริ ก็ไม่สามารถต่อเครื่องไปลงอาโอโมริได้ ต้องให้ที่บ้านขับรถมารับ ไม่ก็เช่ารถขับไปเอง ซึ่งรถเช่าจากสนามบินเขาบอกว่าเต็มไปแล้วล่วงหน้า 2 สัปดาห์เลย ดังนั้นใครที่ไม่มีคนขับรถมารับก็จะต้องพักโรงแรมใกล้ๆเป็นเวลา 14 วัน ถึงจะใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อกลับบ้านได้ (ออกเงินเองนะครับ) เป็นอันจบพิธี

สรุปก็คือที่ให้กักตัวในกระดาษลังนี่คือให้อยู่รอฟังผลตรวจเฉยๆนะ (1-2 วัน) ซึ่งบางมุมก็อาจจะมองว่ามันดูอนาถาไปรึเปล่า ทำไมญี่ปุ่นไม่ทำอะไรที่มันดูดีกว่านี้ อันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าพวกลังกระดาษเหล่านี้มันเป็นแผนสำรองไว้สำหรับเวลาที่โรงแรมใกล้สนามบินนั้นเต็ม (แต่พอดีช่วงนี้มันเต็มตลอดเวลา) ซึ่งลังกระดาษพวกนี้ญี่ปุ่นเขาใช้งานได้หลากหลาย เช่น ใช้ทำที่นอนในช่วงประสบภัยที่คนต้องมารวมกันอยู่ที่หลบภัย 

แล้วจริง ๆ เขาก็เตรียมการที่จะใช้ลังกระดาษพวกนี้สำหรับทำเตียงเพื่อนักกีฬาโอลิมปิกที่จะมาแข่งในโตเกียวโอลิมปิก 2020 (ที่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า) อยู่แล้ว โดยการชูว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะนำของเหลือใช้มาประดิษฐ์ และสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตอนนี้ก็เลยนำมาใช้กับผู้ที่ต้องกักตัวรอผลการตรวจไปก่อน ซึ่งข้อดีของมันก็คือสะดวก ประหยัด และสามารถเผาทำลายได้ง่าย

ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็มีทั้งคนดราม่ากับเรื่องนี้ แสดงความไม่พอใจ ไม่ต่างกับที่เป็นข่าวในไทยเรา แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง ทุกประเทศตอนนี้ก็คงอยากจะลดการเดินทางเข้าออกประเทศให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าประเทศจริง ๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องรับในผลหรือกฎกติกาที่เขาตั้งขึ้นมาในช่วงนี้ด้วยซึ่งแต่ละประเทศก็ย่อมแตกต่างกันออกไป แน่นอนว่ามันคงไม่สะดวกสบายเหมือนช่วงปกติ ซึ่งก็เข้าใจความลำบากของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ และฝ่ายผู้ที่ต้องถูกกักตัว แต่ช่วงนี้มันคงไม่มีอะไรปกติเท่าไร เพราะเป็นช่วงที่ไม่ปกติกันทั้งโลก …

แต่เราก็ต้องทนทำสิ่งไม่ปกติเหล่านี้เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือต้องการที่จะให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติในสักวันหนึ่งใช่ไหมครับ ?

อ้างอิงข่าว : kazuki01282000 , wasabi1094,Tv asahi

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube : Eak SummerSnow

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0