โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อุทาหรณ์ "เจ้าแมวสำลี" เกือบตาบอด หมอเผยต้นเหตุใกล้ตัว ทาสต้องระวัง

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 24 ก.พ. 2566 เวลา 17.19 น. • เผยแพร่ 25 ก.พ. 2566 เวลา 00.14 น.

อุทาหรณ์คนรักสัตว์ต้องระวัง จากรณีที่เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสัตว์แสนรักษ์ สุพรรณบุรี โพสต์เตือนภัยเจ้าของทั้งหลาย เล่าเคสน้องแมวชื่อสำลีเกือบเสียดวงตาเหตุเพราะกินก้างปลาแล้วก้างปลาติดคอ ก่อนส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด เห็นสภาพน้องแล้วแล้วสงสารสุดๆ

อุทาหรณ์ เจ้าแมวสำลี เกือบตาบอด หมอเผยต้นเหตุใกล้ตัว

โดยคุณหมอโรงพยาบาลสัตว์แสนรักษ์ สุพรรณบุรี โพสต์ว่า "น้องสำลีตาเจ็บเรื้อรังกระจกตาทะลุ เมื่อคุณหมอตรวจอย่างละเอียดพบต้นตอคือมีก้างปลาค้างปักค้างอยู่โคนลิ้น ทำให้แมวพยายามเอามือตะกุยหน้าโดนกระจกตาจนทะลุค่ะ เคสนี้ เจ้าของน้องไม่ได้ให้ก้างน้องนะคะ น้องแมวแอบหนีไปกินจากที่อื่นมาค่า

ห้ามให้เนื้อปลาที่มีก้าง/ก้างปลากับหมาแมว คุณหมอเจ้าของไข้ : หมอป๊อบ แสนรักษ์"

อุทาหรณ์ เจ้าแมวสำลี เกือบตาบอด หมอเผยต้นเหตุใกล้ตัว

งานนี้เหล่าคนรักสัตว์แห่แชร์เป็นอุทาหรณ์สนั่น พร้อมแสดงความคิดเห็นสงสารเจ้าสำลีคงเจ็บปวดน่าดู โชคดีที่มาหาคุณหมอทัน และขอให้รักษาตาของเจ้าเหมียวให้หายดีในเร็ววัน ขอให้อดทนกับความเจ็บปวดอีกนิดน่ะเจ้าตัวน้อย และเมื่อมีคนมาถามว่าน้องแมวตาบอดไหม คุณหมอเข้ามาตอบว่า "ตาน้องไม่ปิดค่ะคุณหมอผ่าตัดซ่อมกระจกตาให้น้องแล้วนะ"

อุทาหรณ์ เจ้าแมวสำลี เกือบตาบอด หมอเผยต้นเหตุใกล้ตัว

โดยชาวเน็ตหลายคนก็แสดงความเป็นห่วงว่าทุกวันนี้ยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจถึงอันตรายนี้ บอกว่าเป็นแมวก็ต้องกินปลา และเชื่อว่าแมวสามารถเคี้ยวและย่อยก้างปลาเองได้ เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ต่อไป เพื่อที่จะไม่มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีก

ขอบคุณ โรงพยาบาลสัตว์แสนรักษ์ สุพรรณบุรี

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...