(20 ก.ค.66) ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณารับทราบรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม ปี 2564 ถามผู้บริหารถึงปัญหารายได้เฉลี่ยกองทุนประกันสังคมติดลบหลายหมื่นล้านจะมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร และจะบริหารกองทุนอย่างให้โปร่งใสมั่นคงและผู้จ่ายเงินสมทบสามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้
1. กองทุนประกันสังคมถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นหลักประกันและความมั่นคงให้ผู้ใช้แรงงาน โดยเป็นความไว้วางใจที่ภาคแรงงานมีให้กับภาครัฐ แต่สถานการณ์ปัจจุบัน มีคำถามจากผู้ประกันตนที่ต้องจ่ายเงินสมทบว่า กองทุนประกันสังคมนี้ยังเป็นหลักประกัน ยังมีความมั่นคงและความไว้วางใจที่มีให้กับกองทุนนี้อยู่หรือไม่
2. ความท้าทายปัญหาของกองทุนประกันสังคม มี 2 ประการคือ 1. ช่วงสถานการณ์โควิด รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาเงินจากกองทุนประกันสังคมไปเยียวยาผู้ตกงานจำนวนมหาศาล จนเกิดคำถามว่าขณะนี้กองทุนเหลือเงินอยู่เท่าใด และ 2. สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในอนาคตอันใกล้ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อดูแลเป็นบำเหน็จบำนาญและค่ารักษาพยาบาล กองทุนนี้จะมีเงินทุนเพียงพอหรือไม่
3. แรงงานผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละ 5 เปอร์เซ็นต์ สูงสุด 750 บาท ซึ่งถือว่าน้อยมากไม่พอจะเป็นเงินออมในอนาคต แต่ขณะเดียวกันก็เป็นภาระหนักของพี่น้องที่ต้องจ่ายเงินในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่กองทุนประกันสังคมต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า เงินก้อนนี้จะเป็นหลักประกันในอนาคตให้เขาได้จริงๆ สำนักงานประกันสังคมต้องบริหารงานให้โปร่งใสและตรวจสอบได้
4. กองทุนประกันสังคม มียอดรายได้เฉลี่ยต่ำกว่ารายจ่ายอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะปี 2563 ติดลบ 6.5 พันล้าน ปี 2564 ติดลบ 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามีปัญหาติดลบมากขึ้นทุกปี แต่ไม่มีคำตอบชัดเจนจากผู้บริหารกองทุนประกันสังคมว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
5. ประชาชนผู้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ต่างคาดหวังที่จะมีหลักประกันและความมั่นคงที่จะได้จากสำนักงานประกันสังคม และกองทุนประกันสังคม ดังนั้น จึงต้องขอให้กองทุนพิจารณาปรับเปลี่ยนการบริหารงาน เพื่อสร้างความมั่นคง สร้างหลักประกันให้สมกับความไว้วางใจ ที่ภาคแรงงานภาคเอกชนที่มีให้กับภาครัฐต่อไป