หมดไฟ เป็นอาการยอดฮิตที่หลายคนอาจกำลังเผชิญหรือกำลังจะเป็นกันอยู่ จริง ๆ แล้วส่วนมากคงเกิดกับการหมดไฟในการทำงาน เพราะอะไรเราถึงหมดไฟ แล้วถ้าหมดไฟแล้วควรทำยังไงให้เราไม่รู้สึกเบื่อที่จะมีชีวิต
ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ไม่สดใส ไม่ได้รู้สึกมีความอยากที่จะตื่นขึ้นมาแล้วออกไปใช้ชีวิต มันช่างรู้สึกเบื่อหน่ายอะไรแบบนี้นะ การรู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่เฉย ๆ ไม่รู้คำตอบของการตื่นขึ้นมาอีกต่อไป มันเป็นความรู้สึกหมดไฟหรือรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราจะตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไร หรือเกิดความสงสัยในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ว่ามันจะตอบโจทย์ความสุขของเราหรือเปล่า เราว่าความหมายของการมีชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอก และแน่นอนว่าทุกคนนั้นมีชีวิตที่มีความหมายกันอยู่แล้วแค่บางครั้งเราก็ตั้งคำถามให้กับชีวิตผิด จนทำให้เราเกิดอาการที่แน่ใจกับการตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรสักอย่าง
ความหมายของการมีชีวิตอยู่ หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า อิคิไก ในภาษาญี่ปุ่น มันคือการตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าวันนี้เราอยากจะทำอะไร แล้วชีวิตเราอยากที่จะรีบ ๆ ตื่นขึ้นมาเพื่อทำในสิ่งที่เราชอบ ใช่แล้วมันคือสิ่งที่เราทำแล้วเรารู้สึกชอบ สิ่งที่สร้างความหมายให้กับชีวิตเรามันอยู่รอบตัวเราต่างหาก ลองมองให้ดี ๆ ว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุข หรือทำให้เราอยากที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อทำมัน และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมันเป็นส่วนประกอบหนึ่งของความสำเร็จในการมีชีวิตเลยด้วยซ้ำ หลายคนที่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น โทมัส เอดิสัน ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จ นั้นเขาได้พบความหมายของการที่มีชีวิตอยู่ คือการได้ตื่นขึ้นมาแล้วหาวิธีทดลองเป็นพัน ๆ ครั้งเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ และสุดท้ายมันก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จ การไม่ย่อท้อ หรือไม่ถอยถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยง มันทำให้แน่ใจว่าการตื่นขึ้นมานั้นไม่สูญเปล่าเลยกับสิ่งที่เรากำลังรอที่จะทำมัน
จริง ๆ ความหายของการมีชีวิตมันไม่ได้มียากหรอก และอาการหมดไฟมันก็เกิดได้ไม่นานถ้าเราได้เจอสิ่งที่ชอบจริง ๆ ลองหามันให้เจอจากการออกไปใช้ชีวิต หยุดพักกับการวิ่งตามเส้นทางที่เราเชื่อว่ามันดีที่สุด และออกไปเดินทางใหม่ที่เราคิดว่ามันยากและเป็นไปไม่ได้ที่จะไปได้เลย ถ้าเราได้ลองค้นหาสิ่งใหม่ เราจะพบความหมายมากมายที่รออยู่ในการมีชีวิต
ติดตามบทความของ เพจเสียงที่ไม่ได้ยิน บน LINE TODAY ทุกวันพฤหัสบดี