ข้อมูลเบื้องต้น
ทีมสุดแกร่งXวันสิ้นโลก
The Strongest team Doomdays!
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นด้วยจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ชื่อ สถานที่ การกระทำต่างๆของตัวละคร เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
#คุยกับนักเขียน
สวัสดีค่ะ แกรนด์ดัชเชสรินเองค่ะ
แอบหนีมาเรื่องใหม่คั่นเวลาเขียนริรินเล่ม 4 ก่อนนะคะ (เล่ม 3 วางขายแล้วน้า!)
ช่วงนี้ไรต์ติดทั้งนิยายและการ์ตูนแนววันสิ้นโลกมากๆเลยเลยงอกน้องทิวาขึ้นมาจนได้
แฮะๆรบกวนเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
***นิยายเรื่องนี้อัพทุกวัน วันละตอนนะคะ! ถ้าวันไหนไม่อัพแสดงว่าติดธุระ!***
กิจกรรมหมดแล้วค่ะ
กรุณากดไลค์เพจ แกรนด์ดัชเชสริน เพื่อติดตามกิจกรรมใหม่ๆ
ทีมสุดแกร่งวันสิ้นโลก#1
ทิวา หญิงสาวโชคร้ายที่โดนคนที่เธอไว้ใจที่สุดหักหลัง
หลังจากรู้ว่าสามีที่เธอแต่งงานด้วยคือผู้อยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชาย
แต่เหมือนว่าสวรรค์เป็นใจ ส่งเธอกลับไปในอดีตก่อนจะเกิดยุควันสิ้นโลก
สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงแค่ 3 อย่าง
1. ยัดลูกตะกั่วใส่คนทรยศ
2. ปกป้องพี่ชายที่เธอรัก
3. สร้างทีมสุดแกร่ง เพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในวันสิ้นโลก
เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่กันนะ?
ใครมีทริกเกอร์กรุณาจิ้มลิงก์นี้เพื่อดูรายละเอียด
>>>>อ่านทริกเกอร์ทางนี้ค่ะ<<<<
ขอความกรุณาอีกครั้งให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการอ่าน คิด วิเคราะห์ แยกแยะ อ่านเพื่อเป็นสิ่งบันเทิง
เหนืออื่นใด กรุณาคอมเม้นท์อย่างอารยชน หากพบเห็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สุภาพหรือการใช้ถ้อยคำที่แสดงการด่าทอ ไรต์จะทำการลบทิ้ง หากบางข้อความเข้าข่ายการหมิ่นประมาท/ผิดพรบ.คอม ไรต์จะดำเนินคดีตามกฎหมายนะคะ ดังนั้นขอให้ทุกคนมีสติและวิจารณญาณในการอ่านและการคอมเมนต์ ไรต์ต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้ามาแสดงความเห็นกันได้โดยปราศจากความรุนแรง ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือจากนักอ่านทุกท่าน
ขอบคุณค่ะ
แจ้งเตือนเรื่องการขายตอนล่วงหน้า
นิยายเรื่องนี้เปิดตอนล่วงหน้าตอนละ 1.5 บาท(3 เหรียญ) /เว็บอื่นขายตอนละ 3-4 บาทค่ะ
โปรดอย่าลดทอนคุณค่างานเขียนของคนอื่น ด้วยการแสดงความคิดเห็นว่าแพงไปหรือตอนสั้นไป
พบเห็นทำการลบคอมเมนต์ทุกกรณีนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ปล.นักเขียนเรื่องนี้อีโก้สูง แต่ฟาดได้ด้วยเงิน ถ้าอยากได้อะไรแจ้งมาค่ะ
แสนนึงปรับเนื้อเรื่องบางตอนให้ตรงใจ/ หมื่นนึงเร่งสปีดการพิมพ์ได้สามตอน /พันนึงต่อการติด TW ในตอนหนึ่งครั้ง
กล้าฟาดด้วยเงินก็กล้าทำค่ะ ช่วงนี้ขาดเงินค่ะ ๕๕๕
#ทุนนิยมครองโลก ¯_( ͡° ͜ʖ ͡°)_/¯
นิยายเรื่องนี้ได้รับการคุ้มครองด้วยพรบ.ปีพ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอกเนื้อหา ภาพประกอบ รวมทั้งดัดแปลง อัดคลิปเสียงลงยูทูปหรือติ๊กตอกโดยไม่ได้รับอนุญาติ พบเห็นจะทำการพูดคุยก่อน แต่ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ขอดำเนินการตามกฏหมายนะคะ (กรณีโปรโมตหรือป้ายยาตอนสั้นๆ จะถือว่าเป็นFair use สามารถทำได้ แต่ถ้าเล่นอ่านทุกอย่างในตอนลงยูทุป อันนี้เราต้องมาคุยกันนะคะ!)
แกรนด์ดัชเชสริน
มีคำถามหรือข้อสงสัย รบกวนโพส [Q] ขึ้นต้นเวลาเมนต์นะคะ เดี๋ยวจะไปตอบค่ะ
หรือไม่ก็ทักมาที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค แกรนด์ดัชเชสริน ได้เสมอนะคะ!!!
บทนำ
บทนำ
“เธอจบตรงนี้แล้วทิวา” ชายหนุ่มวัยกลางคนคนยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย มือขวาของเขาถือลูกแก้วสีแดงสด ในขณะที่มือซ้ายของเขาโอบเอวของหญิงสาวผมสั้นที่ดูน่ารักวัยขบเผาะ
‘ทิวา’มองบุคคลตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เขาคือ‘กันต์’ บุรุษผู้ซึ่งสมรสกับเธอ อีกทั้งเขายังเป็นคนสนิทที่สุดของพี่ชายของเธอด้วย ไม่คิดเลยว่าคนที่พี่ชายเธอไว้ใจและฝากฝังเธอไว้จะกล้าทรยศเขาได้ลง
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ที่เธอได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายที่อีกฝ่ายปิดบังไว้ แท้จริงแล้วเบื้องหลังการตายของอดีตผู้นำฐานทัพ เกิดจากการทรยศของผู้ติดตามที่ไม่มีใครคาดคิดอย่างเขา เมื่อเธอรู้เรื่องนี้เข้า เธอจึงได้ตัดสินใจไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
แน่นอนว่าการคุยครั้งนั้นไม่เป็นผล อีกทั้งกันต์ยังเปิดตัว ‘เหมย’ หญิงสาวที่จะมาเป็นภรรยาคนที่สองของเขาอย่างหน้าไม่อาย ดังนั้นเธอจึงพยายามนำเรื่องนี้ไปแจ้งพวกผู้นำระดับสูงของฐานทัพ แต่หารู้ไม่ว่าระดับสูงที่เหลืออยู่ตอนนี้คือพวกที่ร่วมมือกับกันต์ ส่งพี่ชายของเธอไปตาย
“กันต์ แกมันไอ้ชั่ว แกฆ่าพี่ชายของฉัน ถ้าแกฆ่าฉันที่นี่ทุกคนต้องรู้แน่ว่าคนร้ายก็คือแก” ทิวาที่ล้มลงบนพื้น จ้องหน้ากันต์อย่างอาฆาตแค้น ในตอนนี้เธอหมดทางหนีแล้ว ด้านหลังของเธอเป็นขอบของดาดฟ้า แถมในมือของอีกฝ่ายมีคริสตัลขยายพลัง เธอไม่มีทางหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าพ้น
“เธอก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีใครเชื่อเธอหรอก อย่างก่อนหน้านี้ที่เธอไปพยายามกุข่าวเรื่องฉันเป็นคนฆ่าไอ้ทิตย์ ผลเป็นยังไงมีใครเชื่อเธอบ้าง?” กันต์หัวเราะในลำคออย่างเยาะเย้ย
หลังจากที่เธอรู้ว่าพวกระดับสูงโดนกันต์ซื้อไปหมดแล้ว เธอก็พยายามที่จะปล่อยข่าวเรื่องชั่วช้าที่เขาทำ เพื่อให้คนในฐานรับรู้ว่าพวกเขากำลังมีผู้นำที่เชื่อไม่ได้
แต่กันต์ก็ไม่ใช่คนโง่ เขาออกมาเล่นบทโศก ยอมรับผิดร้องให้ทั้งน้ำตาในงานปราศัยผู้นำคนใหม่ พร้อมทั้งปล่อยข่าวว่าเธอมีอาการทางจิตหลังจากสูญเสียพี่อาทิตย์ไป
นั่นทำให้ผู้รอดชีวิตในฐานทัพทั้งหลายต่างพากันเข้าข้างงูพิษอย่างกันต์ไปทั้งหมด แถมตอนนี้เธอยังพ่วงสถานะมีความผิดปกติทางจิตอีก
“ถ้าหากเธอตายที่นี่ วันนี้ ทุกคนก็จะเข้าใจว่าเธอแค่ซึมเศร้าจากการจากไปของพี่เธอ จึงตรอมใจตายตาม เพราะฉะนั้นหยุดก่อปัญหาให้ฉันแล้วบอกมา ว่าไอ้อาทิตย์ทิ้งตราโบราณนั่นไว้ที่ไหน หลังจากนี้ฉันจะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที”
น้ำเสียงของกันต์เริ่มไม่สบอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นพวกสมาธิสั้นและไม่ชอบรอ แต่ว่าจะให้เธอยอมคายความลับที่พี่ชายของเธอฝากเอาไว้ก็ไม่ได้ ต่อให้เธอจะบอกความลับนี้กับใครสักคน คนๆนั้นต้องไม่ใช่บุรุษตรงหน้าเธออย่างแน่นอน
ทิวากัดริมฝีปากเล็กน้อยก่อนที่เธอจะมองไปที่เด็กสาวที่ถูกไอ้คนหน้าไม่อายโอบกอดไว้
“เหมย ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กที่ฉลาด เธอคิดเหรอว่ากันต์จะไว้ใจได้ ขนาดภรรยาที่คบกันมาเกือบหกปีเขายังกล้าทรยศ ในอนาคตเขาก็มีแต่จะทำให้เธอเสียใจอยู่ดีแหละ” ทิวาเอ่ยเตือน
เมื่อไม่สามารถเจรจากับคนชั่วร้ายอย่างกันต์ได้ เธอก็ต้องเจรจากับคนที่จะสามารถเป็นพยานเรื่องในวันนี้หรือการตายของเธอได้ ถ้าหากว่ามันเป็นไปได้อย่างที่เธอคิดก็คงจะดีอยู่หรอก… แต่
“พี่กันต์คะ เหมยกลัวจังเลยค่ะ” เหมยซุกหน้าลงบนแผงอกของกันต์อย่างสั่นเทา เมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถยั่วยุหญิงสาวของเขาได้ กันต์จึงเหยียดยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
บัดซบ!
ถ้าอะไรจะไม่เป็นใจให้กันซะขนาดนี้ คงเหลือเพียงแค่สิ่งเดียวที่เธอจะสามารถทำได้แล้วจริงๆ
ทิวาสูดหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาอีกครั้ง
“กันต์ นายรู้ไหมว่าคนแบบไหนที่นายไม่ควรไปตอแยด้วยมากที่สุด” ทิวาเอ่ยเสียงต่ำ
“เธอจะบอกว่านั่นคือเธอรึไง?”
“เปล่า…. ฉันก็แค่ถามเฉยๆ เอาล่ะในเมื่อฉันไม่มีทางจะหนีต่อไปได้แล้ว งั้นในครั้งสุดท้ายนี้ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้นายได้รู้ก็แล้วกัน” ทิวาจับเข่าของตัวเองก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน เธอต้องระมัดระวังอย่างมากเพราะด้านหลังของเธอเป็นขอบตึกแล้ว
“ถ้ายอมบอกความลับนั่นมาตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่ต้องทำขนาดนี้เพื่อบีบคั้นเธอหรอกทิวา” กันต์ทำสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย อย่างไรเสียหญิงสาวตรงหน้าก็คือคนที่เขาใช้ชีวิตร่วมด้วยมาตลอดหกปี อาจเพราะในใจของเขายังมีความเมตตาอยู่ลึกๆ จึงไม่ส่งทิวาให้ไปทำภารกิจพลีชีพพร้อมกับอาทิตย์ก็เป็นได้
ใครใช้ให้อาทิตย์มันโง่ไม่ฝักใฝ่ในอำนาจกันล่ะ ด้วยฐานที่มั่น กองกำลังและวัตถุโบราณที่พวกเขามี กันต์คิดว่าเขาสามารถพาผู้รอดชีวิตไปได้ไกลกว่านี้ การมีอยู่ของผู้นำที่โง่ไม่รู้จักใช้อำนาจในมือ ไม่มีเสียยังจะดีกว่า
“…พาลไง” ทิวาพูดเสียงเบา
“เธอพูดว่าอะไรนะทิวา” กันต์พยายามเรียกสติที่เผลอคิดเรื่องอื่นกลับคืนและตั้งใจฟังในสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูด
“ฉันบอกว่านายไม่ควรไปตอแยกับอันธพาลไงล่ะ!” ทิวารีดเค้นพลังวิเศษเฮือกสุดท้ายออกมาและระเบิดมันออกไป
ทิวาเป็นผู้ใช้พลังวิเศษสายฟ้า เธอต้องคอยส่งกำลังไฟให้ฐานที่มั่นผู้รอดชีวิตเพื่อให้มีกระแสไฟไหลเวียนในฐานที่มั่น ภายหลังแม้กลุ่มผู้รอดชีวิตจะสามารถหาเครื่องปั่นไฟหรือเชื้อเพลิงมาได้ แต่เพราะยุควันสิ้นโลกเชื้อเพลิงจะหมดเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทิวาจึงคอยเติมพลังไฟฟ้าให้กับเครื่องปั่นไฟภายในฐานทัพผู้รอดชีวิตอยู่เสมอ
ใช่แล้ว ที่ทิวาไม่เคยออกไปทำภารกิจกับทีมสำรวจ ไม่ใช่เพราะเธอกลัวหรือไม่มีพลัง เพียงแต่พลังวิเศษของเธอถูกใช้ไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ไปหมดแล้ว
แม้จะมีผู้ใช้พลังวิเศษสายฟ้าเหมือนกับเธอ แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถมอบไฟฟ้าในปริมาณมากให้กับฐานทัพได้เท่าเธอ
แต่ว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ แค่คนเดียวไม่พอ อย่างนั้นก็เพิ่มจำนวนคนแทนเสียสิ น้ำแก้วเดียวไม่พอดับไฟ ก็ต้องเพิ่มน้ำเข้าไปอีกหลายๆแก้วสิ
กันต์เองก็ไม่ใช่คนโง่ หลังๆมานี้เขาจึงเลือกรับผู้มีพลังวิเศษธาตุสายฟ้ามาเข้าฐานที่มั่นเพิ่มขึ้น และยังออกกฎให้ในกลุ่มผู้รอดชีวิตที่จะเข้าร่วมฐานที่มั่นจำเป็นต้องมีผู้มีพลังวิเศษธาตุสายฟ้าด้วย และนั่นคงทำให้เขาสามารถรวบรวมผู้มีพลังวิเศษธาตุสายฟ้าเอาไว้ได้มากพอ เขาจึงกล้าที่จะตัดเบี้ยที่หมดประโยชน์อย่างทิวาในวันนี้
อย่างน้อยถ้าเธอต้องตาย เธอก็ไม่อยากตายง่ายๆเพื่อให้พวกทรยศพวกนี้ใช้ชีวิตได้สบาย ดังนั้น….
บึ้ม
“ทิวา เธอทำอะไรลง…” ไม่ทันที่กันต์จะเอ่ยจบก็เกิดแรงระเบิดไปทั่ว
ทิวารีดเค้นพลังสายฟ้าเฮือกสุดท้ายของเธอในการส่งกระแสไฟปริมาณสูงไปที่หม้อแปลงไฟฟ้าและที่อื่นๆในฐานที่มั่น เมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้รับไฟฟ้าที่เกินกำลังวัตต์ก็จะเกิดการระเบิด และนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ!
เมื่อใช้พลังเฮือกสุดท้ายไปจนหมด ทิวาก็หมดแรงที่จะทรงตัวยืน เธอทิ้งน้ำหนักลงไปด้านหลังซึ่งไม่มีคนรับ ผลทำให้เธอหล่นลงจากตึกสูง ร่างของเธอทิ้งดิ่งพสุธาลงพื้นดินอย่างรวดเร็ว
อา… ถ้ามีโอกาสได้เจอหน้าไอ้หมอนี่อีกครั้ง เธอจะใช้ลูกตะกั่วเจาะกะโหลดหนาๆนั่นให้เป็นรู จากนั้นก็จะสับแยกชิ้นก่อนจะโยนให้พวกอมนุษย์กิน
แต่ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอคงถูกลิขิตให้ต้องจบชีวิตลงวันนี้แล้วล่ะ
พลั่ก
เธอรู้สึกเหมือนหัวโดนของแข็งบางอย่างกระแทก ก่อนที่สติของเธอจะดับไป
===================
บางทีไรท์ก็สงสัยนะ ว่าทำไมเปิดเรื่องมาแต่ละเรื่อง นางเอกของไรท์ไม่ตกจากหน้าผาก็ตกจากตึกสูง อืมคิดไปเองล่ะมั้ง อย่าลืมกดเข้าชั้นหนังสือและกดหัวใจเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ สามารถคอมเมนต์พูดคุยหรือแจ้งคำผิดให้ไรท์ได้นะ ขอบคุณค่า
***นิยายเรื่องนี้อัพทุกวัน วันละตอนนะคะ! ถ้าวันไหนไม่อัพแสดงว่าติดธุระ!***
บทที่ 1 ย้อนกลับมา
บทที่ 1 ย้อนกลับมา
เฮือก
ทิวาสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่เธอทำคือการมองไปรอบตัวอย่างระแวดระวัง
นี่เธอยังไม่ตายอีกเหรอ? ตกจากตึกสูงขนาดนั้นเธอรอดชีวิตมาได้ยังไง
ไม่มีทางที่กันต์จะนำเธอไปรักษาหรอกใช่ไหม เทียบกับสิ่งของมีค่าอย่างยารักษาหรืออาหารแล้ว โบราณวัตถุที่เขาต้องการมันสำคัญถึงขนาดที่ต้องช่วยชีวิตคนร้ายที่พึ่งทำลายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในฐานที่มั่นอย่างนั้นเหรอ?
เมื่อพยายามคิดต่ออีกหน่อย เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอแต่งงานกับกันต์มาก็หกปี ก่อนหน้านั้นก็เคยเจอกันมาก่อน จนทำให้ระยะเวลาที่รู้จักกันเกินสิบปี ไม่มีทางที่กันต์จะยอมเสียทรัพยากรที่มีค่าอย่างยาหรืออาหาร ให้กับเบี้ยที่ไร้ประโยชน์อย่างเธอหรอก
ในตอนนั้นเองเป็นตอนที่สติของเธอเริ่มกลับมา เธอมองรอบๆ อย่างถี่ถ้วน ห้องที่เธออยู่ตอนนี้มีผนังสีชมพูซึ่งดูสะอาด ไม่มีร่องรอยคราบเลือดของอมนุษย์หรือร่องรอยการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา
นี่มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?
ยังมีสถานที่ที่สะอาดมากขนาดนี้อยู่ในยุควันสิ้นโลกด้วย?
กุก กัก
เธอได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก ในตอนนั้นเองเป็นตอนที่เธอล้วงมือเข้าไปใต้หมอนด้วยความเคยชิน ปกติแล้วเธอมักจะซ่อนอาวุธตอนพักผ่อนเอาไว้ในที่ที่คว้าหยิบได้ง่ายที่สุด และสถานที่ที่เธอมักจะซ่อนอาวุธไว้คือใต้หมอน
เพียงแต่ว่าเมื่อคว้าเข้าไปด้านใต้ กลับพบแต่ความนุ่มของทอปเปอร์กับความนิ่มของหมอนยางพาราที่กดทับมือเธอ
เกิดอะไรขึ้น ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธออย่างนั้นเหรอ? ตอนนี้เธอถูกพามาที่ไหนกันแน่?
ไม่รอให้เธอคิด เสียงเดินนั้นมาหยุดลงตรงหน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใครน่ะ” เธอถามออกไปเสียงแข็ง สายตากวาดมองไปทั่วห้องเพื่อมองหาสิ่งที่จะนำมาเป็นอาวุธได้ แต่น่าแปลกที่ยิ่งเธอมองไปทางไหน เธอก็พบแต่กับสิ่งของที่เธอรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว
อย่างทางซ้ายมีตุ๊กตาปลาวาฬตัวใหญ่ที่พี่ชายเธอเคยมอบให้ในวันจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย เธอจำได้ว่าทิ้งตุ๊กตาตัวนี้ไปตั้งแต่บ้านโดนอมนุษย์ลิงยักษ์พุ่งทำลายในช่วงแรกๆของยุควันสิ้นโลก
“พี่เองทิวา ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มนั้นดังมาจากด้านนอกห้อง เสียงนั้นเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เป็นเสียงที่เธออยากได้ยินอีกครั้งมาตลอด แต่เธอกลับไม่สามารถได้ยินเสียงนั้นอีกแล้ว
ทิวาทำใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นและไปหยุดยืนอยู่หน้าประตู
เบื้องหลังประตูบานนี้ อาจจะเป็นสัตว์ประหลาดที่สามารถเลียนแบบเสียงของมนุษย์อย่างมิมิคก็เป็นได้
แต่ทว่าแล้วยังไงกันล่ะ ต่อให้เป็นมิมิคก็ตาม แค่เธอได้พบกับพี่ชายของเธอเพียงชั่ววินาทีหนึ่ง แลกกับความตายของเธอ เธอก็คิดว่ามันคุ้มค่า
แต่ถึงในใจของเธอจะโหยหาพี่ชายของเธอมากแค่ไหน สมองของเธอกลับสั่งการให้เอาตัวรอดอยู่เสมอ อย่างตอนนี้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เธอคว้าโคมไฟเอาไว้ในมือ
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของทิวาต้องสูงมาก เพราะวันสิ้นโลกไม่เคยใจดีกับใครก็ตามที่อ่อนแอ การพลาดนิดเดียวนั้นส่งผลกระทบถึงชีวิต ผู้ที่เอาตัวรอดในวันสิ้นโลกได้เกือบสิบปีแบบเธอย่อมมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอยู่ในระดับสูงมากโดยธรรมชาติ
แกรก
ไม่รอให้เธอได้ทำใจ ประตูบ้านนั้นที่กั้นเธอกับบางสิ่งที่อยู่ข้างนอกก็ได้เปิดออก ก่อนจะเผยให้เห็นถึงบุรุษรูปร่างกำยำ ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนกับเธอ ใบหน้าเรียวคมจมูกเป็นสันโด่ง ไร้ซึ่งรอยแผลเป็นบนใบหน้ากำลังจ้องมองเธอด้วยแววตาห่วงใย
“พี่อาทิตย์…?” เธอมองบุรุษตรงหน้าด้วยความสะเทือนใจ
ในตอนนั้นเป็นตอนที่เธอรู้สึกตัวและก้มมองบนแขนของเธอ แขนของเธอไร้ร่องรอยแผลเป็นจากการโดนสายฟ้าเผาไหม้ หรือร่องรอยเนื้อที่ปริแตกเป็นรอยคล้ายกิ่งก้านต้นไม้จากการใช้พลังที่ไม่ช่ำชองของเธอ
พลัก
พลันมือไม้ของเธออ่อนแรงจนไม่สามารถถือโคมไฟได้ต่อไป ตอนนี้ในสมองของทิวากำลังหมุนความคิดอย่างรวดเร็วดุจกระแสน้ำวน
พี่ชายที่เสียไปแล้วยืนอยู่ตรงหน้าในสภาพที่ดูเด็กลงและไร้ซึ่งแผลเป็นบนใบหน้า ร่างกายของเธอที่ไม่มีบาดแผลหรือรอยไม้ของพลังวิเศษ ห้องที่ดูสะอาดและข้าวของเครื่องใช้ที่ยังดูเหมือนใหม่
นี่มัน… หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้น
เธอย้อนกลับมาในอดีตอย่างนั้นเหรอ?
“ทิวา เป็นอะไรไป” มือหยาบกร้านของบุรุษตรงหน้าเอื้อมมาจับไหล่ของเธออย่างระวัง
พี่ชายของเธอมือหยาบด้านเพราะต้องทำงานตั้งแต่เธอยังเล็ก เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวที่ไร้ซึ่งพ่อแม่ พี่รับทำงานทุกอย่างที่มีคนจ้างจนพอเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจึงมาเปิดธุรกิจเล็กๆ และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ธุรกิจของพี่ค่อยๆขยายไปจนกลายเป็นบริษัทใหญ่อย่างในทุกวันนี้
ในขณะที่ชีวิตของสองพี่น้องกำลังจะสบายขึ้น ก็ดันมาเกิดวันสิ้นโลกไปเสียก่อน เงินทั้งหมดกลายเป็นเพียงกระดาษที่ไร้ประโยชน์ ทั้งสองพี่น้องจึงต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง
ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีโอกาสได้ย้อนกลับมาในอดีตอีกครั้ง นี่มัน…
ในตอนนั้นเองเป็นตอนที่น้ำตาของเธอเอ่อล้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แขนขาของเธอพลันไร้เรี่ยงแรง ทรุดตัวลงไปนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างคนเสียสติ
“ฮึก โฮ” ทิวาปล่อยเสียงร้องออกมาอย่างเต็มที่ ความอัดอั้นทั้งหลายพุ่งออกมาจากขอบตาเรียวสวย แต่ว่าภาพการปล่อยโฮของหญิงสาวตรงหน้าอาจไม่น่าดูเท่าไหร่นัก ทั้งน้ำตาที่พุ่งออกมาเป็นสายน้ำ หรือแม้แต่น้ำมูกที่ไม่สามารถห้ามไม่ให้มันไหลออกมาด้วยได้ ทั้งสิ้นล้วนทำให้ผู้มองดูรู้สึกสงสาร
===================
สวัสดีค่ะแกรนด์ดัชเชสรินเองค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้มากๆเลยนะคะ อย่าลืมกดเข้าชั้นหนังสือและกดหัวใจเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยน้า สามารถคอมเมนต์พูดคุยหรือแจ้งคำผิดให้ไรท์ได้้เสมอไม่ต้องเกรงใจ ขอบคุณค่า
นิยายเรื่องนี้อัพทุกวัน วันละตอนนะคะ! ถ้าวันไหนไม่อัพแสดงว่าติดธุระ!
บทที่ 2 วันนี้วันที่เท่าไหร่
บทที่ 2 วันนี้วันที่เท่าไหร่
“ทิวา!? น้องเป็นอะไร เจ็บตรงไหนรึเปล่า ทำไงดีเนี่ย” อาทิตย์มองน้องสาวของตนอย่างทำอะไรไม่ถูก
เขาตกใจที่อยู่ๆน้องสาวของเขาก็ทรุดลงไปนั่งบนพื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด แต่ถึงเขาจะทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามประคองร่างของเด็กสาวที่ร้องไห้ด้วยความระมัดระวัง
วันนี้เขาแค่จะมาปลุกน้องสาวให้ลงไปทานอาหารเช้ากับคนอื่นๆเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นตั้งแต่ตอนเช้า
“พี่อาทิตย์.. ฮือ พี่.. โฮ” ทิวาปล่อยโฮออกมา เธอพูดไม่เป็นคำพูด มีเพียงแค่มือเรียวบางเท่านั้นที่กำเสื้อสีขาวสะอาดของอาทิตย์เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
อาทิตย์ทำตัวไม่ถูกจึงได้แต่ลูบหลังหญิงสาวเพื่อปลอบประโลม ก่อนจะเอ่ยปลอบหญิงสาวว่า
“ไม่เป็นไรพี่อยู่นี่แล้ว… ไม่เป็นไรแล้วนะ” ถึงจะไม่รู้ว่าน้องสาวของตนทำไมถึงร้องไห้ แต่เขาเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังเล็ก น้องสาวของเขาตอนเล็กๆนั้นเป็นเด็กขี้แยเป็นอย่างมาก แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่น้องสาวของเขาหยุดร้องไห้และเติบโตขึ้น
บางทีคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น แต่เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยสอบถามในภายหลังก็ได้ ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็คงมีแต่การปลอบน้องสาวขี้แยคนนี้
เมื่อทิวาได้ยินคำปลอบของอาทิตย์ เธอก็ร้องไห้ออกมาสุดเสียงจนแม้แต่คนที่อยู่ชั้นล่างก็ยังได้ยิน
“ไอ้ทิตย์เกิดอะไรขึ้น?” ชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่งเดินขึ้นบันไดมาเพื่อสอบถามสถานการณ์
บุคคลที่ขึ้นมามีเรือนผมสีดำเงา ใบหน้าหวานสวย ถ้าไม่ติดว่าเสื้อโปโลที่เขาสวมมีรอยร่องกล้ามเล็กๆ คนที่เดินผ่านคงคิดว่าชายตรงหน้าเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน เขาคือไตเติ้ล เพื่อนสมัยมัธยมปลายและหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนในบริษัทของอาทิตย์
“เดี๋ยวลงไป” อาทิตย์ตอบ
“ทิวาเป็นอะไร ให้ตรวจร่างกายไหม?” ไตเติ้ลเสนอ เขาเคยเป็นแพทย์สนามมาก่อน ทันทีที่เรียนจบแพทย์เขาก็ลงชื่อเป็นแพทย์อาสาไปในสงครามของประเทศซี พอสถานการณ์สงครามดีขึ้นเขาจึงกลับมาและลงทุนร่วมกับธุรกิจของอาทิตย์ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแพทย์โรงพยาบาลในปัจจุบัน แต่การดูแลรักษาคนป่วยเขาก็พอมีความรู้อยู่บ้าง
“ไว้ก่อนแล้วกัน” อาทิตย์ตอบเสียงเรียบ
เมื่อเห็นว่าอาทิตย์ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา ไตเติ้ลก็เดินลงไปชั้นล่าง ทิ้งอาทิตย์และทิวาที่กอดกันกลมดิ๊กไว้
ทิวาร้องไห้ต่ออีกครู่หนึ่งจนเธอเริ่มแสบคอ เธอจึงค่อยๆหยุดร้องไห้
ถ้าหากว่าตอนนี้เป็นยุควันสิ้นโลก ก็ไม่รู้ว่าเสียงร้องไห้ของเธอจะดังเกินจนล่ออมนุษย์เข้ามาหรือไม่ แต่ตอนนี้เป็นตอนที่เธอจะสามารถร้องไห้ได้อย่างเต็มที่
“ดื่มน้ำนี่สิ” อาทิตย์รินน้ำใส่แก้วก่อนจะยื่นให้น้องสาวของตน
“ขอบคุณ..” ทิวารับแก้วน้ำมาอย่างว่าง่าย และกระดกลงคอช้าๆ
น้ำที่แสนสะอาด เธอไม่ได้ดื่มน้ำที่รสชาติสะอาดขนาดนี้มานานแค่ไหนกันนะ ไม่รู้ว่าเธอแสบคอเพราะร้องไห้เยอะเกินไปหรือไม่ ทำให้เธอดื่มน้ำยากขึ้นนิดหน่อย
แต่ว่าน้ำที่เธอดื่มนั้นมันอร่อยมากกว่าปกติ ทำให้เธอกลั้นใจดื่มจนหมดแม้จะยังเจ็บคอ
ทันทีที่ดื่มน้ำหมดแก้ว เธอก็มองหน้าอาทิตย์อีกครั้ง รู้สึกเหมือนน้ำตามันคลอเอ่อขึ้นมา เธอตัดสินใจที่จะหยุดร้องไห้แล้ว เธอจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาออก
ใช้เวลาทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็หยุดร้องไห้
เมื่ออาทิตย์เห็นน้องสาวของตนหยุดร้องแล้ว เขาจึงเดินเข้ามานั่งข้างๆเธอ
“ร้องพอแล้ว?” อาทิตย์เอ่ยแซว
“…” ทิวาเงียบ แต่พยักหน้าหนึ่งครั้ง
อาทิตย์เห็นน้องสาวของตนเองดีขึ้นเขาก็ลูบหัวเธอโดยไม่ถามอะไร
นั่นยิ่งทำให้ทิวารู้สึกอารมณ์อ่อนไหวเป็นอย่างมาก พี่ชายของเธอดีกับเธอมากขนาดนี้ แต่เธอกลับปล่อยให้เขาไปตาย กว่าจะรู้เรื่องสิ่งที่เหลือกลับมาก็มีแค่เศษร่างที่ไม่สมประกอบที่หน่วยสำรวจที่สองของฐานที่มั่นไปเจอเข้า
ยิ่งเธอมองหน้าพี่อาทิตย์มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจมากเท่านั้น
แต่ก่อนอื่นมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่เธอต้องทำ
ทิวาพยายามมองไปรอบห้องเพื่อหาปฏิทินแต่ก็ไม่พบ เธอเกือบลืมไปแล้วว่าก่อนยุคสิ้นโลกเธอดูวันเวลาจากที่ไหน ในตอนนั้นเองเป็นตอนที่เธอนึกถึงโทรศัพท์ขึ้นมาได้
ในยุคสิ้นโลกนั้นช่วงแรก ขอแค่มีไฟฟ้าก็ยังจะพอใช้โทรศัพท์ต่อไปได้ แต่พอผ่านเข้าปีที่สองเครื่องมือสื่อสารต่างๆก็เริ่มจะใช้ไม่ได้ ได้ข่าวว่ายังมีบางสถานที่ที่สามารถใช้คลื่นโทรศัพท์ต่อได้ถึงปีที่สามของยุควันสิ้นโลก แต่ตั้งแต่ปีที่สี่เครื่องมือสื่อสารทั้งหมดล้วนใช้การไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่สามารถใช้พลังวิเศษสายเทเลพาธีได้ย่อมเป็นที่ต้องการของทุกฐานที่มั่น
ทิวามองไปรอบห้องจนพบกับสิ่งที่ตัวเองตามหา ไม่รอช้าทิวาหยิบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดดูวันที่และเวลา
วันที่ 11 เดือน ตุลาคม ปีค.ศ. 20XX เวลา 10.16 น. โดยประมาณ
ก่อนยุคสิ้นโลก 1 เดือน
ทันทีที่เห็นวันที่ ทิวาก็รู้สึกเหมือนว่าสวรรค์ได้มอบโอกาสที่แสนล้ำค่า ไม่เสียแรงที่เธอเฝ้าสาปแช่งพระเจ้าเช้าเย็นทุกวัน
ในเมื่อประทานโอกาสอันดีมาให้เธอแบบนี้ เธอก็ขอรับไว้ด้วยความเต็มใจก็แล้วกัน
อาทิตย์มองน้องสาวของตนที่เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวก็ร่าเริงด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งร้องไห้อย่างกับโลกจะแตก แต่พอเดินไปเล่นมือถือกลับทำหน้ายิ้มแย้มเหมือนได้รับชีวิตใหม่ เขามองน้องสาวอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
โครก
ทันใดนั้นเอง จู่ๆอาทิตย์ก็ได้ยินเสียงท้องร้องของใครบางคนเข้า เขาหลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่นทำให้ใบหน้าของทิวาแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย
“หิว?” อาทิตย์เอ่ยถามน้องสาว
“อื้ม” ทิวาพยักหน้า
“ถ้างั้นก็ลงไปกันเถอะ”
ไม่รอช้า อาทิตย์ลุกขึ้นและเดินตรงไปที่หน้าประตู
ทิวายืนอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อยเหมือนมีเรื่องอยากจะคุยกับอาทิตย์ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจกลืนคำพูดพวกนั้นลงไปและเดินตามพี่ชายของเธอไปอย่างว่าง่าย
เอาไว้หาเวลาเหมาะๆให้ได้ก่อนค่อยคุยกับพี่อาทิตย์ให้เป็นเรื่องเป็นราวก็แล้วกัน เมื่อคิดได้แบบนั้นทิวาจึงเริ่มวางแผนเรื่องราวต่างๆอยู่ในใจ ในขณะที่เดินลงบันใดเพื่อไปยังห้องทานอาหาร
===================
สวัสดีค่ะดัชเชสคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือความน่ารัก! ช่วงนี้ไรต์ติดนิยายแนววันสิ้นโลกมากๆเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นแนวชายหญิงนะคะ(อีกนานเลยค่ะกว่าพระเอกจะมา) ล่าสุดอ่านนิยายวายเรื่องโอตาคุวันสิ้นโลกแล้วชอบมากๆเลย ก่อนจะเห็นว่ามีนิยายแนววันสิ้นโลก/ซอมบี้เรื่องอื่นๆเต็มไปหมด อยากปลีกวิเวกแล้วไปอ่านนิยายยาวๆจังเลย //พลั่ก โดนนักอ่านเรียกกลับมาแต่งทิวาต่อก่อน ๕๕
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้มากๆเลยนะคะ อย่าลืมกดเข้าชั้นหนังสือและกดหัวใจเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยน้า สามารถคอมเมนต์พูดคุยหรือแจ้งคำผิดให้ไรท์ได้้เสมอไม่ต้องเกรงใจ ขอบคุณค่า
นิยายเรื่องนี้อัพทุกวัน วันละตอนนะคะ! ถ้าวันไหนไม่อัพแสดงว่าติดธุระ! :(´ཀ` 」 ∠):