เรื่องความสัมพันธ์เนี่ย ยกมาพูดกันกี่รอบก็ไม่มีวันจบสิ้นนะครับ พอความสัมพันธ์มันจบลง เราอาจจะทำใจได้บ้าง มีวันที่ดีเกิดขึ้นบ้าง แต่สักพัก พอมันมีอะไรมากระตุ้น ความรู้สึกต่าง ๆ มันก็วนกลับมาอีก
คือก็ Move on อยู่แหละ แต่เป็นในลักษณะที่เป็นวงกลม เท่านั้นเอง
ในบางวันมันก็ยังมีช่วงที่เรารู้สึกว่า เราไปต่อไม่ได้ จุกอก ไม่ไหว ทำไมถึงยังคิดถึงช่วงเวลาอะไรแบบนั้น
ช่วงเวลาที่คิดว่า มันดีมากเลยนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ชอบไปเลือกจำแต่ช่วงที่มันดี ๆ ช่วงที่ตีกันจะเป็นจะตาย
ช่วงที่ทำให้เจ็บแบบน้ำตาไหลจนน้ำในร่างกายจะหมดตัวนี่ไม่เคยเอามาจำ
คนรอบตัวส่วนใหญ่ที่พอเจอเราในสภาพที่ไปต่อ ไม่ไหว มักจะบอกว่า – แก ปล่อยวาง อย่าไปคิดถึงมัน หาอะไรทำ
เอาจริง ๆ ก็อยากจะบอกนะว่า เราทำมาแล้วทุกอย่างแล้ว แต่ทุกอย่างที่ไปทำ มันก็ยังคิดถึงเขาอยู่ มันยังมีความทรงจำตอนนั้นซุกซ่อน ผุดมาให้เห็น ให้ทรมานกับมันอยู่
ผมไม่เรียกความทรงจำตอนนั้นว่าความสุขนะ ผมว่ามันเป็นเครื่องมือทรมานความเป็นอยู่ในปัจจุบันมากกว่า
ซึ่งถามว่าเพราะใคร
ใช่แล้ว ก็เพราะเราเอง
คุณคิดเหมือนผมมั้ยว่า *การที่เราคิดถึง เราเดินหน้าต่อไปไม่ได้ มันต้องมีสาเหตุอะไรในใจลึก ๆ ที่เราไม่ยอมรับ หรือไม่รู้ว่ามันคืออะไร *
ทำไมก่อนหน้านี้ก็อยู่ได้ ทำไมใครสักคนที่แวะเข้ามาแล้วเดินจากไป ทำไมเดินต่อไปไม่ไหว
แล้วถ้าเราได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไร มันจะทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้มั้ย
และนี่คือ 8 เหตุผล ทำไมคนส่วนใหญ่ ถึงเดินหน้าต่อไปเมื่อจบความสัมพันธ์กับใครสักคนไม่ได้สักที
*1. *
*ความรู้สึกไม่มั่นคงในตัวเอง ภาษาอังกฤษเค้าใช้คำว่า Insecure *
เป็นเรื่องธรรมชาติเลยที่ใคร ๆ ก็เป็น คือเราจะรู้สึกสบายใจ มั่นคงทางความรู้สึก แต่เมื่อมีอะไรสักอย่าง หรือเมื่อใครสักคนทำให้เรารู้สึกถึงความว่างเปล่า ความไม่แน่นอน เป็นความรู้สึกระดับลึกที่จะเกิดขึ้น
บางคนก็สามารถผ่านมันไปได้ ด้วยความที่ร่างกายจะมีกลไกในการที่จะฟื้นฟูให้เรากลับมาให้สมดุล แต่สำหรับบางคนที่เจ็บปวดกับความรู้สึกเหล่านี้ในระดับที่ลึกเข้าเส้นความรู้สึก บางคนก็ใช้เวลานานมาก ๆ กว่าจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ อาจทำให้เรารู้สึกศูนย์เสียความมั่นใจ ในตัวเอง ในการเริ่มต้นใหม่ รู้สึกไม่เชื่อมั่นในความรักแล้ว
ความเจ็บปวดมันเอ่อล้นเกินกว่าที่กลไกของร่างกาย จะปรับความรู้สึกให้กลับมาเหมือนเดิม
*2. *
*เพราะเราคิดว่ามันคือความรักที่ดีที่สุดของเราแล้ว *
หลังจากที่เราได้พบ รักที่สุดยอด แล้วต่อจากนั้น เขาเดินจากไป นั่นอาจทำให้เราคิดไปเองว่า เราจะไม่สามารถหาความรัก หรือความรู้สึกแบบนี้ได้จากใครอีก
คนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นตัวเอง คนที่สบายใจที่จะเล่าความเป็นไปในชีวิตให้ฟังแบบที่ไม่ต้องเคอะเขิน เซ็กที่ดุเดือดน่าจดจำ
เราคิดว่าคนนี้แหละที่สุด เราจึงทุ่มเทความรัก ความหวังทั้งหมดที่เรามี ใส่ลงไป โดยที่ไม่เคยสังเกตสัญญานบางอย่างที่บางครั้งมันกำลังสื่อออกมาว่ามันไม่ใช่ มารู้อีกทีก็สายไปแล้ว
ซึ่งพอเป็นแบบนี้แล้วเราก็จะมองอยู่ที่เดิม โดยที่คิดว่า คนใหม่ รักใหม่ ก็ไม่มีใครที่จะมาทำให้ความรู้สึกข้างในมันอิ่มเอมได้แบบอีตานี่อีกแล้ว
Move on ต่อไปไม่ได้เลย
*3. *
*กลัวการอยู่คนเดียว *
ที่ยังเดินต่อไม่ไหว อาจเป็นเพราะยังทำใจยอมรับการอยู่คนเดียวไม่ได้ มันก็ไม่เชิงอยู่คนเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ทุก ๆ วันก็มีคนรายล้อม แต่ช่วงที่ต้องเลิกงาน เลิกกิจกรรมแล้วกลับมาที่บ้าน ที่ห้อง ปิดห้องมาปุ๊บ เสียงประตูดังจบเงียบสนิท เราก็เริ่มบรรเลงความหลังหลังประตูบานนั้น
*4. *
*เราเอาความสุขของตัวเองไปขึ้นอยู่กับใครอีกคน *
อันนี้เรียกว่าอันตรายมาก แต่เห็นหลายคน รวมถึงตัวเองก็เคยเป็น
การที่ให้คนอื่นเป็นคนบ่งบอกคุณค่าของตัวเรา การที่เรามีความสุขได้ด้วยการที่มีใครอีกคน พอเค้าหายไปแล้วเรารู้สึกหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง
แค่เริ่มก็ขาดทุนแล้ว
เพราะถ้ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก พอเค้าหายไป เรานี่แหละจะคิดว่าทุกอย่างมันเป็นความผิดของเราเอง
กลายเป็นคิดไม่ดีกับตัวเองอีก
*5 *
*จมอยู่ในความรักของโลกแฟนตาซี *
รักสวยงาม รักแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แบบที่โรแมนติก งอนแล้วง้อ แล้วทั้งสองคนก็รักกันตลอดไป
คือมันมีแค่ในหนังในละครไง พอมันหายไป เราก็ฟูมฟายว่าทำไมมันไม่ใช่อย่างที่คิด พอยังออกมาไม่ได้
ก็เดินต่อไปไม่ไหวเหมือนกัน
*6 *
*ไม่ยอมปล่อยวาง คิดว่าเราจะรักไปจนวันตาย *
อันนี้คล้ายๆ ข้อแรกๆ แต่ต่างกันตรงที่ เราไม่ยอมปล่อยวางว่านี่แค่รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป พูดแล้วเพลงลอยมาเลย
เราเอาตัวเองไปเชื่อว่า เรารักได้แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่า เขาจะปล่อยลอยแพเราไปแล้ว แต่เราก็ยังศรัทธาในรักครั้งนี้ มีความรอยอลตี้กับแบรนด์นี้มาก ใช้หมด ซื้อซ้ำ ไม่หันไปหางไหนแน่นอน ลูกค้าชั้นดี ซึ่งสุดท้ายมันก็มีแต่การเปรียบเทียบ ว่าไม่มีรักไหน จะถึงไหนเท่ารักนี้แล้วแหละ
*7 *
*เพราะเขาเติมใช้เราเต็ม *
บางความสัมพันธ์เรารู้สึกดีกับมันเพราะใครสักคนทำให้เรารู้สึกว่า เขาให้ในสิ่งที่เราขาด มันเป็นความรู้สึกว่า อยู่ด้วยกันแล้วมันเติมเต็ม มันอิ่ม มันมีความสุข พอมีความรู้สึกแบบนี้แล้ว ถ้ามันหายไป เราก็จะรู้สึกว่า อยู่ต่อไม่ไหว พอจะหาใหม่ก็จะมองหาแต่คนที่มันต้องมาเติมสิ่งที่ชั้นเว้าแหว่งนะ
ถ้าไม่ใช่ก็ไม่อยากได้ ทั้ง ๆ ที่เราเองก็ไม่รู้หรอกว่า อะไรคือสิ่งที่เราแหว่งไปจริง ๆ
*8 *
*เพราะยังคอย stalker ชีวิตเขาอยู่ *
คือเราไม่จบไง เราทนไม่ไหว เรายังคงไปส่องชีวิตเค้า ไปดูเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไอจี จะส่องสตอรี่ไอจีก็ไม่ได้ เดี๋ยวเค้ารู้ ก็ต้องไปสร้างแอ็คหลุมขึ้นมา แล้วก็ไปส่อง พอเค้ารู้ เค้าบล็อก ก็ไปสร้างใหม่
ทั้ง ๆ ที่ทำไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ แต่บางทีก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ โทรศัพท์มันอยู่ใกล้มือไง เราก็พลอยตามความรู้สึกเข้าไปดูมัน
จริง ๆ ใจเราอาจจะนิ่งแล้วก็ได้นะ แต่การที่เราไปตามดู ตามส่อง มันก็เหมือนยิ่งกวนให้มันขุ่น พอมันขุ่นเราก็ตามความรู้สึกตัวเองไม่ทันอีก ล่องลอยตามมันไปเรื่อย ๆ
แบบนี้จะมูฟออนได้ยังไงกัน….
และนี่ก็คือ 8 สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เค้าเป็นกัน แล้วคุณละเป็นข้อไหน อันนี้ต้องตอบตัวเองให้ได้
ส่วนตัวก็เคยเป็นอยู่หลายข้อ จะพูดว่าเป็นทุกข้อเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเก่งเป็นพระอิฐพระปูน
ไม่สนสิ่งใดซะเมื่อไหร่ มันก็มีช่วงมีแวบมาบ้าง แต่ก็พยายามบอกกับตัวเองว่า แล้วมันจะผ่านไป แต่อย่าลืมว่า เวลาไม่ช่วยอะไร ถ้าเรายังวนเวียนความคิดเดิม ๆ คอยแกะแผลแล้วก็เอาความทรงจำที่คิดว่าดีขึ้นมาดูอยู่เรื่อย ๆ อีก