"เพื่อไทย" ทำไมต้องจับมือ "พลังประชารัฐ"
ถามซ้ำซาก นักข่าวถามทำไมนักหนา เพื่อไทยจะจับมือกับใครตั้งรัฐบาล จะร่วมกับพลังประชารัฐหรือเปล่า บรรดาสาวก แฟนคลับ หงุดหงิดรำคาญกับคำถามเดิมๆ เหลวไหลเลอะเทอะสิ้นดี จะไปจับมือกันได้ยังไงมันคนละขั้ว เผด็จการกับประชาธิปไตย บ้าหรือเปล่า! เลือกตั้งเสร็จแล้วก็ต้องจับมือกับพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลสิ ไม่น่าถาม!!
ถ้าการเมืองประเทศไทยไม่มีอะไรสลับซับซ้อน 1+1 เป็น 2 ก็คงจะดี และนักข่าวก็ไม่จำเป็นต้องไปถามอะไรที่มันรู้สึกขัดใจแม่ยก พ่อยก แบบนั้น แต่รู้กันดีว่าการเมืองแบบไทยๆ “ไทยแลนด์โอนลี่” มันน่าเกลียด น่ากลัวขนาดไหน
ประวัติศาสตร์มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วนักต่อนัก โดยเฉพาะมหากาพย์ความสกปรกเลวร้าย ศรีธนญชัยเรียกพ่อ แต่มันถูกนักการเมืองแต่งเติมสีขาวลงไปในความดำมืด นิยามความหมายว่าเป็นการใช้ไหวพริบ ชั้นเชิง อย่างหน้าไม่อาย
เลือกตั้งครั้งนี้ก็น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน หลังเห็นร่องรอย สัญญาณความไม่ปกติซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ยิ่งเดิมพันสูงเท่าไหร่ เกมการเมืองยิ่งโหดร้ายสลับซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น ครั้งนี้เต็งหนึ่งสนามเลือกตั้งอย่างพรรคเพื่อไทยพลาดไม่ได้ตายสถานเดียว ถ้าแพ้พ่ายต้องกลายเป็นฝ่ายค้านดักดาน จุดจบที่เห็นลางๆ คือพรรคแตก แกนนำ-ส.ส.แยกย้ายกลับบ้านเลี้ยงหลาน หรือแปลงกายเป็นงูเห่าในสังกัดพรรคใหม่ขั้วรัฐบาล ขณะที่หนทางกลับบ้านของ “โทนี่ ดูไบ” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขวัญใจคนรากหญ้า ถูกปิดตาย เพราะฝ่ายค้านคงไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ
ดังนั้นทุกย่างก้าวของเพื่อไทยต้องรอบคอบระมัดระวังถึงขั้นระแวง สะดุดหัวทิ่มไม่ได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ทุกอย่างพินาศ ลำพังขั้วประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านเดิมแม้จะทรงดีมีแต้มต่อขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิม แต่แค่นั้นไม่อาจรับประกันความเสี่ยงได้ หากหลังเลือกตั้งแล้วปรากฏว่าแลนด์สไลด์ไม่เกิดขึ้น หรือชนะไม่ขาด ขั้วฝ่ายค้านเดิมรวมกันแล้วเสียงส.ส.มากกว่า เพียงแค่ 20-30 เสียง
จะตกเป็นรองในเกมแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลทันที เพราะไม่มีแบ็กอัปนั่งร้าน 250 ส.ว. ที่ตีตราจองไว้แล้วโดย “2 ลุง”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคืออะไรไม่ต้องสืบให้เสียเวลา ปฏิบัติการฉกชิงวิ่งราวส.ส. ตลบหลังตั้งรัฐบาลสู้ เกิดขึ้นแน่ ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่ทรงพลัง อิทธิพลอำนาจแฝงของขั้วรัฐบาลเดิมเหนือกว่าขั้วฝ่ายค้านหลายเท่า
เดิมพันของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้ง “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและแคนดิเดตนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ก็สูงไม่แพ้กัน หากพ่ายแพ้หมดอำนาจ “ลุงตู่”ต้องซมซานลงจากหลังเสือ เสี่ยงถึงตาย “ลุงป้อม”หมดสภาพ “ทรงอย่างแบด” บริวารหายจ้อยไร้ร่องรอย
หากจะมองหาทางเลือกหรือทางรอดของพรรคเพื่อไทย คือต้องหากำลังเสริม พันธมิตรลับ จับมือแบบหลวมๆกับบางพรรค หรือหลายๆพรรคในขั้วรัฐบาลเดิมเอาไว้ก่อน ทำทุกอย่างเพื่อดีดตัวเองออกจากฝ่ายค้าน หาทางเป็นรัฐบาลทุกสูตรสมการ และหากมันจะต้องแลกด้วยการละทิ้งเพื่อน หรืออุดมการณ์บางอย่าง ก็อาจต้องยอม
ส่วนสาเหตุที่ตัวเลือกอย่าง“บิ๊กป้อม”น่าสนใจเหนือใครสำหรับพรรคเพื่อไทย นั่นคือมิติความมั่นคงปลอดภัย ภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งทุกด้าน เป็นรัฐบาลอายุไม่สั้น เพราะภารกิจบางอย่างไม่อาจสำเร็จได้ด้วยระยะเวลาสั้นๆ เทียบกันระหว่างเพื่อไทยจับมือก้าวไกลแล้วคนละเรื่อง เต็มไปด้วยอันตราย เสี่ยงคุกตาราง กลายเป็นคนไร้บ้าน ตามรอยผู้นำตัวพ่อ
เมื่อชั่งน้ำหนักประเมินผลกำไร-ขาดทุนของพันธมิตรลับขั้วตรงข้ามอย่าง “บิ๊กป้อม” และนายพลรอบกาย รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐแล้ว หมากเกมนี้การันตีผลกำไร ได้คั่วไพ่สองหน้ารอจังหวะกินรวบ ซ้ายลุงตู่ ขวาเพื่อไทย จับมือร่วมกันได้ทุกขั้ว มีสิทธิ์เป็นรัฐบาล 99.99% และหากสบโอกาสก็ฟาดตำแหน่งนายกฯเสียเองเลย วิน-วิน ด้วยประการฉะนี้
กระนั้นทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นเพียงการประเมินเหตุการณ์ในอนาคต แต่มันคงไม่ใช่เรื่องเหลวไหลเพ้อเจ้อแน่
ค้างคาวเขียว