คุณชนัญชิดา ทองสวัสดิ์ หรือ พี่หน่อย อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองไผ่ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์บ้านนา ลงทุนเดินทางไปทำงานต่างแดนเพื่อเก็บเงินมาสานฝันสมัยวัยเด็กให้เป็นจริง คือการเป็นเกษตรกร ได้ทำงานที่เธอรักและได้อยู่กับครอบครัว ซึ่งเธอบอกว่าฝันของเธออาจจะไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่การได้เป็นเกษตรกรคือความฝันอันสูงสุดของเธอ และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาสานฝันให้เป็นจริงแล้ว ทั้งได้กลับมาอยู่ที่บ้านกับครอบครัว และได้ทำงานเกษตรที่รัก แค่นี้ก็สุขใจแล้ว
พี่หน่อย เล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำเกษตรว่า อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝันอยากจะทำอยู่แล้วตั้งแต่สมัยเด็ก และพื้นฐานครอบครัว ญาติพี่น้องก็เป็นเกษตรกรกันมาอยู่แล้ว ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าการอยากที่จะเป็นเกษตรกรของตนเองก็ดูไม่ใช่เรื่องยากอะไรใช่ไหม เพราะก็แค่เข้าไปทำสานต่องานของที่บ้านได้เลย โดยที่ไม่ต้องพยายามดั้นด้นไปทำงานไกลถึงต่างประเทศ แต่ที่ตนเองต้องทำแบบนี้ก็เพื่ออยากที่จะมีเงินทุนเป็นของตนเองสักก้อน เพื่อกลับมาพัฒนางานเกษตรของบ้านที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และอยากที่จะลงทุนทำอะไรใหม่ๆ ให้ต่างไปจากการปลูกข้าวที่บ้านทำไว้ และเมื่อทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็ไม่รอช้าที่จะกลับมาทำเกษตร ที่เป็นอาชีพที่อยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการกลับมาริเริ่มปลูกเตยหอม ที่เป็นพืชปลูกดูแลง่าย ลงทุนน้อย ปลูกครั้งเดียวเก็บขายได้นานเป็น 10 ปี และสามารถสร้างรายได้เข้ามาจุนเจือได้ทุกวัน โดยที่ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนกับปลูกพืชชนิดอื่นๆ
“ปลูกเตยหอม **1 ไร่” ลงทุนน้อย
ปลูกครั้งเดียวเก็บขายได้นาน
สร้างรายได้เข้าบ้านได้ทุกวัน**
เจ้าของบอกว่า หลังจากที่กลับมาจากที่ไปทำงานต่างประเทศ ตนเองกำเงินเก็บที่มีอยู่ประมาณ 1 แสนบาท เพื่อกลับมาทำการเกษตรโดยเฉพาะ ซึ่งในช่วงแรกที่ได้เริ่มต้นลงมือทำก็เกือบไปไม่รอด ด้วยเงินเก็บที่มีไม่มากนัก ประกอบกับปัจจัยอีกหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ แต่ก็อดทนสู้จนผ่านพ้นวิกฤตตรงนั้นมาได้ และด้วยความคิดที่แหวกแนว อยากทำอะไรที่แปลกใหม่ไปจากของที่บ้านทำอยู่ จึงพยายามมองหาความแตกต่าง ปลูกพืชที่ชาวบ้านเขาไม่ค่อยปลูกกัน และที่สำคัญคือต้องสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่อนข้างฝืดเคือง เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องเลือกปลูกพืชที่สามารถสร้างรายได้ ได้ทั้งรายวัน รายเดือน และรายปี ลงทุนครั้งเดียวสามารถเก็บผลผลิตได้นาน เก็บขายทุกวัน สุดท้ายคิดไปคิดมาจึงมาจบที่การปลูกเตยหอม
โดยเตยหอมที่ปลูกจะมีลักษณะเด่นที่ใบเรียว สีเขียวเข้ม และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีสรรพคุณช่วยดับกระหายคลายร้อน อีกทั้งยังนำมาแปรรูปได้ทั้งอาหารคาวและหวาน ปลูกครั้งเดียวเก็บผลผลิตได้นาน ซึ่งในปัจจุบันที่สวนปลูกเตยหอมเพียง 1 ไร่ ใช้แรงงานปลูกกับแม่ 2 คน แต่ก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายๆ
การปลูก
เตยหอมเป็นพืชที่ปลูกดูแลง่าย ชอบแสงแดดรำไร แต่ถ้าไม่โดนแดดเลยจะโตช้า เตยหอมเป็นพืชที่ชอบน้ำ ดังนั้น หากดินปลูกไม่มีส่วนผสมของดินเหนียว จึงควรต้องรดน้ำให้ชุ่มแฉะ ยิ่งมีน้ำขังจะยิ่งแตกกอได้ไว และสามารถปลูกได้ทุกฤดู แต่ฤดูที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงฤดูฝน จะไม่ต้องดูแลมาก
การเตรียมดิน
เริ่มจากการปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน แล้วบำรุงดินด้วยปุ๋ยคอกทั่วไป โดยของที่สวนจะทำแปลงปลูกคล้ายๆ กับการทำนาเมื่อปรับพื้นที่ให้เรียบสม่ำเสมอแล้ว จากนั้นปล่อยน้ำเข้าไปให้ขังอยู่ในแปลงสัก 2-3 ชั่วโมง แล้วลงมือปลูกได้เลย
โรงเรือนปลูก ใช้เพียงเสาปูน และทำหลังคาซาแรนสีดำพรางแสงที่ 60 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นขุดหลุมปลูกต้นเตยหอมให้ห่างกันต้นละประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อสะดวกในการเก็บใบเตยและดูแลทำความสะอาด
การดูแล
ให้หมั่นกำจัดวัชพืชที่มีอยู่ในแปลงออก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี ลดการเกิดโรคระบาด ซึ่งแนะนำให้กำจัดวัชพืชด้วยการดึงออกด้วยมือ ไม่ควรใช้สารเคมี และที่สำคัญควรมีการรดน้ำให้สม่ำเสมอเพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดหรือถ้าหากท่านใดมีเวลาน้อยก็แนะนำให้ติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ได้เพื่อความสะดวก โดยจะรดน้ำวันละ 2 รอบ คือช่วงเช้าและเย็น และต้องเป็นช่วงที่มีแสงแดดไม่จัด
ปุ๋ย ควรบำรุงต้นด้วยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในช่วงเดือนที่ 2 เป็นต้นไป โดยการใส่ปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้น ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี 2-3 เดือนใส่ครั้ง เพราะถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้ดินเค็มไม่เป็นผลดีต่อพืช ส่วนอาหารทางใบจะใช้น้ำหมักที่ทำขึ้นมาเอง มีทั้งน้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย ฮอร์โมนนมสด และฮอร์โมนไข่ โดยจะเน้นให้อาหารทางใบเป็นส่วนใหญ่ ด้วยวิธีการปล่อยไปพร้อมกับน้ำ 2 อาทิตย์ ให้ปุ๋ยทางใบ 1 ครั้ง จะทำให้ต้นเตยเจริญเติบโตได้เร็ว ใบเขียวเข้ม และเป็นที่ต้องการของตลาด
ปริมาณผลผลิต เตยเป็นพืชประเภทที่ยิ่งตัดยิ่งแตกใบ ใช้เวลาการปลูกประมาณ 8 เดือนให้เก็บผลผลิตครั้งแรก แล้วหลังจากนั้นก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้อีกเรื่อยๆ
การจำหน่ายเตยหอม แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 1. แบบขายใบ ซึ่งในแต่ละเดือนสามารถตัดใบขายได้ประมาณ 4 ครั้ง โดยจะตัดในช่วงก่อนวันพระ 1-2 วัน ในการตัดก็จะเลือกตัดเฉพาะใบที่ไม่มีตำหนิ ตัดจากใบด้านล่างขึ้นมา ปัจจุบัน สามารถเก็บใบเตยได้ครั้งละกว่า 100-200 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท 2. แบบขายต้นแขนง ซึ่งจะเลือกเก็บเฉพาะต้นที่สมบูรณ์ รูปทรงสวย ในราคาแขนงละ 50 สตางค์ โดยลูกค้าจะนำไปมัดรวมกับดอกไม้กำ หรือนำไปขยายพันธุ์ต่อไป และ 3. ขายให้กับแม่ค้าคนกลางสำหรับการนำไปแปรรูปทำชา ทำเตยแห้งส่งขายตลาดต่างประเทศ ในราคาขายแบบเหมายกสวนกิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งหากคิดเป็นรายได้ต่อวันรวมกันทั้งหมดเฉลี่ยได้วันละพันกว่าบาท ถือเป็นอาชีพที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนเพียงครั้งเดียว เหมาะสำหรับมือใหม่อยากทดลองปลูกทำเป็นอาชีพเสริม แนะนำให้ปลูกได้ ใช้พื้นที่ไม่ต้องถึง 1 ไร่ ก็สามารถปลูกได้ ราคาต้นพันธุ์ที่ขายจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 บาทต่อต้น 1 ไร่จะปลูกได้ประมาณ 3,000 ต้น ขึ้นอยู่ที่ระยะห่างระหว่างต้นด้วย
ตลาดอยู่ที่ไหน
- ตลาดในชุมชน ใช้วิธีการเจาะกลุ่มแม่ค้าที่ไม่เล่นโซเชียล ด้วยการเดินเข้าไปหาและนำสินค้าที่มีอยู่ไปนำเสนอ ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ
- ตลาดออนไลน์ ใช้วิธีการดึงดูดความสนใจด้วยการหมั่นโพสต์เรื่องราวภายในสวน ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
- ตลาดแม่ค้ากลุ่มกลาง คือกลุ่มแม่ค้าที่นำไปทำสินค้าแปรรูปจากใบเตย
**ฝากถึงผู้ที่สนใจอยากปลูกเตยหอม
เป็นอาชีพเสริม ตลาดยังไปได้ดี**
“การปลูกเตยหอมไม่มีอะไรยุ่งยาก สำคัญที่น้ำอย่าให้ขาด และหมั่นดูแลกำจัดวัชพืชอยู่สม่ำเสมอ และในบางครั้งอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของการทำเกษตร จึงอยากให้ทุกท่านที่สนใจ ค่อยๆ เรียนรู้ลองผิดลองถูก ใช้เวลาไม่นานก็จะเกิดความชำนาญได้ไม่ยาก เพราะถ้าหากท่านผ่านช่วงเวลาที่ล้มลุกคลุกคลานมาแล้วก็จะเจอกับความสดใสได้ไม่ยาก เพราะผลตอบแทนจากการปลูกเตยก็ดีไม่น้อย ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ก็สามารถทำเงินได้ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือความสุขที่ได้รับจากอาชีพเกษตร คือการได้อยู่กับครอบครัว ได้ทำในสิ่งที่รัก ได้เป็นนายตัวเอง ได้ทำงานอิสระ ซึ่งอาชีพเกษตรก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นอีกอาชีพทางรอดในยุคโควิดได้ดี เพราะในช่วงที่ผ่านมาหลายธุรกิจต้องปิดตัวลงเพราะพิษโควิด แต่การปลูกเตยของที่นี่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ยังมีออเดอร์เข้ามาอยู่ตลอดไม่มีพัก และอยากให้ใครหลายคนที่เคยมองข้ามอาชีพการปลูกเตยไปให้คิดใหม่ เพราะว่าบางคนปลูกแต่ไม่รู้ว่าจะไปขายไหน แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำตลาดได้หลายด้านมาก ถ้าคิดเป็น ถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เป็นพืชที่ตลาดต้องการ” พี่หน่อย กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 083-346-5677
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2564
ความเห็น 0