โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

Peter Pan Syndrome เราเข้าข่ายรึเปล่า โรคของคนไม่อยากโต ?

SistaCafe

อัพเดต 06 ม.ค. เวลา 11.00 น. • เผยแพร่ 06 ม.ค. เวลา 11.00 น. • SistaCafe

ใครบ้าง ที่เคยโดนแม่ดุว่า ' โตขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่รู้จักโตสักที ' เมื่อก่อนเราก็จะคิดว่า มันก็เป็นแค่คำพูดทั่ว ๆ ไป ที่แม่ของเราพูดว่าเฉย ๆ แต่ที่ไหนได้ รู้มั้ยว่า อาการไม่อยากโต นี้ มันเป็นอาการของโรค Peter Pan Syndrome นะ เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะไม่รู้จักโรคนี้ ว่ามันคือโรคอะไร แต่ถ้าเคยดูหนังเรื่อง Peter Pan กันแล้ว ก็คงจะเดากันได้ไม่ยากว่า โรคนี้ มันเป็นยังไง วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับโรค Peter Pan Syndrome สาเหตุเกิดจากอะไร อาการเป็นยังไง แล้วต้องรับมือกับมันยังไง มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะ

⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐

Peter Pan Syndrome โรคนี้คืออะไร ?

Peter Pan Syndrome หรือ โรคที่ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นโรคที่เราพูดกันแบบขำ ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งของคนที่ชอบหนีความรับผิดชอบ หรือหน้าที่ของตัวเอง มีความคิดเป็นเด็ก ไม่อยากทำงาน ไม่รับผิดชอบอะไรเลย

แล้วโรคนี้ เป็นโรคทางจิตหรือไม่ จริง ๆ แล้ว เราสามารถอนุมานได้ว่า โรค Peter Pan Syndrome เป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่น มีอาการไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ และมีความคิดเหมือนเด็ก ๆ แม้ร่างกายจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม และโรคนี้ส่วนใหญ่ มักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงด้วย

สาเหตุของโรคปีเตอร์ แพน ซินโดรม ที่เกิดจากพ่อแม่รังแกฉัน

หลาย ๆ คนคงกำลังตั้งคำถาม และพยายามหาคำตอบกันอยู่ใช่มั้ยว่า โรคPeter Pan Syndrome เกิดจากอะไร สาเหตุหลัก ๆ ของโรคนี้ มันมาจากไหน สาเหตุของโรคนี้ เกิดได้หลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลาย ๆ คนมีอาการของคนไม่รู้จักโตนั้น เกิดจาก พ่อแม่รังแกฉัน

มีนักจิตวิทยาจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่า “ การเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป (Overprotective parenting) ” มีส่วนในการทำให้บุคคลเป็นเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ซึ่ง Dan Kiley ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่าPeter Pan Syndrome ก็ได้เพิ่มเติมอีกคำขึ้นมาคือ “ Wendy Syndrome ” ซึ่งหมายถึงผู้หญิงที่คอยปกป้อง Peter Pan ถ้าพูดแบบรวม ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือ การเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป ประคบประหงม หรือพ่อแม่ที่คอยดูแลควบคุมและจัดการทุกอย่างให้กับลูก ทำให้ลูกขาดโอกาสที่จะเรียนรู้ด้วยตนเองและขาดทักษะในการดูแลจัดการตนเอง แต่สาเหตุของโรคนี้ ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูอย่างเดียวนะ แม้แต่คนที่มีบาดแผลทางใจในวัยเด็ก หรือคนที่โดนสภาวะทางสังคมกดดันมาก ๆ ก็สามารถป่วยเป็น Peter Pan Syndrome ได้ด้วยเหมือนกัน

⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐

อาการของคนที่เป็นโรคPeter Pan Syndrome

ต้องบอกก่อนว่า โรคPeter Pan Syndrome สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการของโรค ที่สังเกตุได้ง่าย ๆ มีดังนี้

  • ขาดทักษะในการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ชอบหนีปัญหา กลัวความรับผิดชอบ มักจะหลีกเลี่ยงภาระ และไม่ค่อยเผชิญหน้า
  • ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อารมณ์จะคล้าย ๆ กับเด็กเอาแต่ใจ งอแง ไม่มีเหตุผล
  • เป็นคนไม่มีระเบียบวินัย
  • เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
  • อยากใกล้ชิดพ่อแม่ตลอดเวลา เพราะรู้ว่าครอบครัวคุ้มครองเขาได้

คีย์หลักสำคัญของคนที่เป็นโรค Peter Pan Syndrome ก็คือ การที่ไม่อยากรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ในชีวิตของตัวเอง เพราะคนที่เป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่เลย ความอดทนต่อความทุกข์จะต่ำมาก ทำให้พวกเขารู้สึกว่า จะต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์บางอย่าง เพราะมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถระงับ หรือทนต่อความรู้สึกยาก ๆ นั้นได้

เมื่อไหร่ที่ควรได้รับความช่วยเหลือ?

มีหลาย ๆ คน ที่อาจจะมีเพื่อน ที่เป็นโรคนี้ หรือตัวเองมีอาการข้างต้น แต่ไม่รู้ตัว หรืออาจจะรู้ตัว และเกิดความสงสัยว่า ต้องถึงขนาดไหน ถึงควรจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ รู้มั้ยว่า มีนักจิตวิทยาได้เทียบเคียงอาการของ Peter Pan Syndrome เอาไว้ว่า มีความคล้ายคลึงกับ โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบหลงตัวเอง (narcissistic personality disorder (NPD) เพราะนอกจากจะมีนิสัย หรือพฤติกรรมที่ไม่รู้จักโตแล้ว ยังมีนิสัยที่ชอบควบคุมบงการให้คนรอบ ๆ ตัวยอมทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการอีกด้วย คนที่เป็น NPD จะมีลักษณะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และอ่อนไหวมากเป็นพิเศษต่อคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น ซึ่งจะทำให้พวกเขาแสดงอาการเกรี้ยวกราด หรืออาละวาดออกมาได้ง่าย พฤติกรรมจึงมีความคล้ายคลึงกับคนที่เป็นโรค Peter Pan Syndrome เลยค่ะ

เพราะฉะนั้นแล้ว ใครที่เป็น หรือมีคนใกล้ตัวที่เป็นโรค Peter Pan Syndrome สิ่งสำคัญคือ คุณต้องคอยสังเกตพฤติกรรมอาการของตนเอง และคนใกล้ชิด เพื่อที่จะได้รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งบางคนที่เป็นโรค Peter Pan Syndrome ที่มีสาเหตุเกิดจากกบาดแผลทางใจในวัยเด็ก อาจใช้วิธีการแบบ “ self-help ” ไม่ได้ผล คนที่กดดันมาก ๆ รู้สึกหวาดกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น หรือพยายามผลักตัวเองให้หลีกหนีออกจากสังคม หรือคนที่แสดงอาการต่อต้านขั้นรุนแรง อาจจะต้องได้รับการทำจิตบำบัดด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ในการเข้าไปเยียวยาบาดแผลทางใจ เพื่อให้พวกเขารู้สึกเข้าใจตัวเองมากขึ้น รวมไปถึงจะต้องได้รับการเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อการเติบโต เช่น การสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นต้น

⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐

วิธีรับมือกับโรค Peter Pan Syndrome

สำหรับคนที่รู้ตัวว่า ฉันกำลังป่วยเป็นโรคไม่รู้จักโต นี้อยู่ แล้วอาการไม่ได้รุนแรงมาก อยู่ในขั้นที่สามารถปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ วิธี self-help ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้ ง่ายมาก ๆ เพียงทำตามนี้เลยค่ะ

✅ เข้าใจตัวเองก่อน : วิธีการรับมือที่ดีที่สุดคือ เริ่มจากตัวเองก่อนค่ะ เราต้องรู้ก่อนว่า ทำไมเราถึงพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราควรทำ เมื่อเราเข้าใจสาเหตุ และมองว่า มันเป็นปัญหาแล้ว เราจะหยุดพฤติกรรมนี้ได้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ง่ายขึ้นเช่นกันค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่า นี่มันยากจังเลย ยังไงก็ไม่รู้ ยังไงก็ไม่เข้าใจ อาจจะต้องเริ่มจากการขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว เพื่อน หรือ คนรัก ให้พวกเขาช่วยเตือนสติ และกระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ หรือถ้ารู้สึกว่า คนเหล่านี้ ช่วยไม่ได้ การไปพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีค่ะ

✅ เปลี่ยนแปลงตัวเองทีละนิด : พยายามทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเองดู ใช้ความสามารถ และกำลังของตัวเอง ในการทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จดู อาจจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป้าหมายของเรา ให้มันใหญ่ขึ้น บางคนอาจจะรู้สึกว่า การขอให้คนอื่นช่วย มันง่าย สะดวก และสบาย แต่การที่เรากล้าเผชิญหน้า และได้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง แล้วมันสำเร็จ มันอาจจะยากนะ แต่มันภูมิใจกว่า เพราะฉะนั้นเราต้องกล้าที่จะบอกพวกเขาว่า เราจะไม่รับความช่วยเหลือจากพวกเขาอีกแล้ว และเราจะลองทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองดู มันจะเป็นก้าวแรกที่ช่วยให้เราเลิกเป็น Peter Pan Syndrome ได้

✅ ไม่ต้องรีบ ช้า ๆ ก่อนก็ได้ : บางคนอาจจะคิดว่า ต้องรีบทำ ต้องรีบเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เพราะถ้าเรายิ่งคิดว่าต้องรีบ มันจะยิ่งเป็นการกดดันตัวเองค่ะ เมื่อเราเริ่มลงลงมือทำในสิ่งที่เราไม่คุ้นชิน หรือสิ่งที่เราเคยกลัว เช่น การตัดสินใจ การอยู่คนเดียว หรือการรับผิดชอบงาน มันไม่ง่ายเลย ช่วงแรก ๆ เราอาจจะรู้สึกอึดอัด และไม่สบายใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะงั้นแนะนำว่า ให้เริ่มทำทีละนิดก่อน ค่อย ๆ เริ่มช้า ๆ ก็ได้ เมื่อเราเริ่มคุ้นชิด และสบายใจที่จะทำมันแล้ว ก็ค่อยเพิ่มเป้าหมายใหม่ หรือเพิ่มเลเวลให้มันยากขึ้นอีกนิด

✅ หาแรงบันดาลใจ : ถ้าเราต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างแบบเลื่อนลอย เราจะเอากำลังใจจากตรงไหนมาอยากทำสิ่ง ๆ นั้น เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง ลองหาแรงบันดาลใจให้กับตัวเองดูก่อน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีแรงบันดาลใจ เราจะเริ่มทำบางสิ่งได้อย่างมีเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

สรุป

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ตกอยู่ในสภาวะของโรค Peter Pan Syndrome อย่างแรกคือ เราต้องสังเกตตัวเองก่อนว่า ทุกวันนี้ที่เราเอาแต่ใจ และมีอาการชอบหนีปัญหา เป็นแค่พฤติกรรมทั่วไป ที่มักจะเกิดขึ้น แล้วก็หายไป หรือเพราะกำลังตกอยู่ในสภาวะของโรค Peter Pan Syndrome กันแน่ แม้โรคนี้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เราก็ไม่ควรปล่อยปะละเลยมันนะ ในระยะยาว มันอาจจะกลายเป็นปัญหาได้ค่ะ หากพบว่า ตัวเราเองมีอาการบ่งชี้ว่า เข้าข่ายเป็นโรคPeter Pan Syndrome ควรรีบหาทางออก ถ้าอาการไม่ได้ถึงขั้นรุนแรงมาก แนะนำให้ทำตามวิธี self-help ที่เราหยิบมาแนะนำได้ แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่า มันรุนแรง มันมีผลกระทบมาก ๆ กับชีวิต ควรรีบไปขอคำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะจ๊ะ

ทั้งนี้ ขอฝากถึงคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน การรักลูก เป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ต้องรักลูกให้ถูกทางด้วยนะ การประคบประหงมเขามากเกินไป ปกป้องเขามากเกินไป บางทีมันก็อาจจะสร้างบาดแผลให้กับเขาได้เช่นกัน หรือแม้แต่พ่อแม่ที่คอยควบคุม บงการลูกเกินเหตุ เพราะคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้น ดีที่สุดสำหรับลูก ก็อาจจะเป็นการทำร้ายเขา โดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะฉะนั้นควรรักและปกป้องเขา ไปพร้อม ๆ กับปล่อยให้เขาได้ลองทำอะไรด้วยตัวเองด้วย หน้าที่ของพ่อแม่ ไม่ใช่โล่ที่คอยปกป้องลูกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นครูคนแรกในชีวิต ที่คอยสอน คอยตักเตือน คอยแนะนำ และคอยรับฟังเขาด้วยนะคะ ทำทุกอย่างให้อยู่ในความพอดี เราว่าแบบนี้ น่าจะดีต่อทั้งตัวคุณพ่อ คุณแม่ และตัวลูกด้วยนะคะ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก IG : @imyourjoy และเว็บไซต์ Disney Plus

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Peter Pan Syndrome อาการของคนที่ไม่รู้จักโตและไม่อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Peter Pan Syndrome อาการไร้วุฒิภาวะ ในวัยที่ควรมี (ซักทีเถอะ)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ปีเตอร์ แพน ซินโดรม หยุดโรคนี้ด้วยการไม่เลี้ยงลูกแบบตามใจ

⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐

บทความแนะนำเพิ่มเติม

อ่านบทความต้นฉบับได้ที่: SistaCafe.com ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...