โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คนญี่ปุ่นก็เรียนรู้บางสิ่งจากคนไทยในช่วงเกิดภัยพิบัติเช่นกัน - เพจ Eak SummerSnow

TALK TODAY

เผยแพร่ 25 ต.ค. 2562 เวลา 19.49 น. • เพจ Eak SummerSnow

ในช่วงเดือนที่ผ่านมาที่ญี่ปุ่นถือเป็นฤดูแห่งมรสุมครับ ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็จะโดนพายุอยู่ทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้ค่อนข้างเป็นข่าวใหญ่เพราะว่าเจ้าพายุหมายเลข 19 หรือพายุ Hagibis นั้น เป็นพายุลูกที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี และว่ากันว่ามันใหญ่ที่สุดลูกหนึ่งงในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าพายุ Hagibis ก็ได้ผ่านไปโดยทิ้งความเสียหายเอาไว้ มีผู้คนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นในครั้งนี้เช่นกัน 

แต่ก็ถือน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก ซึ่งคาดว่าจะมีความเสียหายที่มากกว่านี้เนื่องจากความใหญ่ของพายุไต้ฝุ่น นั่นก็ต้องชื่นชมการป้องกันภัยของชาวญี่ปุ่น ที่ถือว่ารับมือกับมันได้ดี จึงสามารถรับมือกับภัยพิบัติใหญ่แบบนี้ได้ เพราะว่าพายุไต้ฝุ่นนั้นเป็นภัยพิบัติที่สามารถทราบล่วงหน้าถึงการมาของมันได้ ไม่เหมือนสึนามิหรือแผ่นดินไหว ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้มากนัก ทำให้การเตรียมตัวรับมือนั้นมีความพร้อมมากกว่านั่นเองครับ

จากการรับมือกับภัยพิบัติคราวนี้ ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราควรจะเรียนรู้จากคนญี่ปุ่นนะครับ ทั้งการเตรียมตัวเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับภัยพิบัติ เนื่องจากญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศที่เจอกับภัยพิบัติค่อนข้างบ่อย คนญี่ปุ่นเองเขาก็ได้ถูกฝึกให้เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติมาตั้งแต่เด็ก (เด็กอนุบาลเขาก็มีซ้อมฝึกหลบภัยแผ่นดินไหวกันเป็นเรื่องปกติแล้ว) ทำให้คนญี่ปุ่นแทบทุกคนมีสกิลด้านการรับมือภัยพิบัติกันเป็นเรื่องปกติ จนเราสามารถกล่าวได้ว่า “คนญี่ปุ่นเป็นมืออาชีพในการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ยังไงอย่างงั้นเลย รวมไปถึงการแก้ปัญหา การซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย การกู้ภัย จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่จากหลากหลายส่วนก็ถือว่าทำได้รวดเร็วฉับไว

ที่ผ่านมาก็อาจมีกระแสที่คนไทยหลาย ๆ คนอาจรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไปบ้าง เมื่อมักจะมีการเปรียบเทียบความแตกต่างในการรับมือจากภัยพิบัติของไทยกับญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ ว่าทำไมบ้านเราถึงไม่สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้ดีเหมือนเขา แต่รู้ไหมครับว่า ในการเกิดภัยพิบัติครั้งนี้ ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คคนญี่ปุ่นเอง ก็มีคนญี่ปุ่นหลายคนที่คิดว่า เขาควรต้องเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในการรับมือกับภัยพิบัติจากคนไทยเหมือนกัน !

อย่างแรกเลยที่คนญี่ปุ่นเห็นว่าควรจะเรียนรู้จากคนไทยก็คือ ความตื่นตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติ เรื่องนี้มันเป็นเพราะว่าประเทศญี่ปุ่นเขาเจอภัยพิบัติบ่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องแผ่นดินไหว จนบางครั้งมันทำให้ความตื่นตัวและความระแวดระวังภัยนั้นลดน้อยลง ประมาณว่าเจอบ่อยแล้ว ชินแล้ว พอมีคำสั่งให้อพยพก็มีคนญี่ปุ่นจำนวนมากที่เกิดอาการ “ดื้อ” ไม่ยอมอพยพ เนื่องจากมั่นใจว่าเจอมาหลายครั้งแล้ว มันไม่เป็นไรหรอก ไม่จำเป็นต้องอพยพก็ได้ 

ในขณะที่คนไทยค่อนข้างตื่นตัวกับภัยพิบัติมากกว่าคนญี่ปุ่น (อาจะเพราะไม่ได้เจอบ่อย ๆ) โดยเฉพาะในคราวนี้ สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คของไทย รวมถึงสื่อช่องหลักก็ทำข่าวเจาะลึกสถานการณ์ในการเกิดภัยพิบัติครั้งนี้เป็นอย่างดี และอาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำจนทำให้เกิดการวิตกกังวลในหมู่คนไทยที่อยู่ในไทยมากกว่าคนญี่ปุ่นเสียอีก 

แม้มันจะดูเป็นการวิตกกังวลที่มากเกินไปบ้าง แต่คนญี่ปุ่นเองเขาก็มองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีในการรับมือกับภัยพิบัติ เพราะการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลานั้นจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากกว่าที่จะทำตัวชิล ๆ หรือทำตัวชินกับเรื่องแบบนี้ และถ้าคนญี่ปุ่นมีความตื่นตัวกับภัยพิบัติที่มากกว่านี้ อาจจะทำให้จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากพายุในคราวนี้ลดลงก็เป็นได้ (แต่การตื่นตัวนี่ต้องควบคู่ไปกับการมีสติด้วยนะ ไม่ใช่แตกตื่นสติแตกไปเรื่อยนี่ก็ไม่ไหว …)

อีกเรื่องหนึ่งก็คือคนญี่ปุ่นมองว่าคนไทยก็มีสกิลในการรับมือจากภัยพิบัติด้วยตัวเองที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในเรื่องน้ำท่วม คนญี่ปุ่นเขาทึ่งกับการที่เห็นคนไทยนำเอาพลาสติกมาห่อรถไว้กันน้ำท่วม ไม่ก็ทำแพลอยน้ำ ทำเรือพายด้วยตัวเอง พายเรือออกไปธุระตอนน้ำท่วมแทนขับรถ คือในเวลาที่น้ำท่วมก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้เกือบจะปกติ 

ทั้งนี้ก็เพราะไทยเราถูกน้ำท่วมค่อนข้างบ่อยและการท่วมแต่ละครั้งก็เป็นเวลานานกว่าน้ำจะลด และมีแนวโน้มที่น้ำจะท่วมในจุดเดิมทุก ๆ ปี รวมถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐอาจจะมาช้าหรือไม่ทันการ ทำให้ชาวบ้านที่ต้องประสบภัยพิบัติน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีนั้นมีสกิลในการยังชีพด้วยตัวเองมากกว่าคนญี่ปุ่นที่เป็นมืออาชีพในการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซะอีก !

เราสามารถมองภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเป็นบทเรียน สิ่งที่ดีก็นำกลับมาประยุกต์ใช้ในบ้านเรา เพราะภัยธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น บางครั้งก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ สิ่งที่เราควรเรียนรู้ก็คือการรับมือกับมัน และทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดครับ

ข้อมูลอ้างอิง: japantoday, mainichi.jp, twitter

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY  จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม 

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube : Eak SummerSnow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 33

  • nattapong😶bank.AIA
    คนในประเทศเราป้องกันตัวเอง โดยตัวเอง เพื่อตัวเองก่อน ภาครัฐค่อยตามมาทีหลัง
    26 ต.ค. 2562 เวลา 01.25 น.
  • Tickety-Boo!!!🐈
    บ้านเราระเบียบการเบิกจ่ายมันยุ่งยาก​ กว่างบจะออกมามันหลายขั้นตอน.​ รอรัฐบาลคงเละทั้งหลัง.​ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด!!!
    26 ต.ค. 2562 เวลา 01.30 น.
  • งั้นก็แสดงให้รู้ได้ว่าบ้านเราก็ยังขาดในเรื่องของระบบในความพร้อมกับในการรับมือหากว่ามีภัยพิบัติต่างๆเกิดขึ้น.
    26 ต.ค. 2562 เวลา 01.53 น.
  • Rich ST
    คนฉลาดมักเรียนรู้จากคนอื่น แล้วนำสิ่งดีๆมาปรับใช้ ส่วนคนโง่มักไปเสพสุขจากคนอื่น แต่ไม่ยอมนำมา..
    26 ต.ค. 2562 เวลา 02.12 น.
  • เราต้องเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนสิว่าประเทศที่เขาเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติกับประเทศเรา เขาทำอย่างไรให้ความเสียหายน้อยลง เสียชีวิตน้อยลง ไม่ใช่ละเลยและคิดว่าว่าไม่เป็นไร
    26 ต.ค. 2562 เวลา 01.09 น.
ดูทั้งหมด