วิธีเลือกใช้ "แก้วไวน์" กับเครื่องดื่มแต่ละชนิด ไฮโซแท้หรือปลอม จะโป๊ะแตกก็ตรงนี้แหละคร่าาา!

เลือกแก้วไวน์ให้เหมาะสมกับไวน์ ช่วยทำให้รสชาติไวน์ดีขึ้น

Last Friday night yeah we danced on tabletops and we took too many shots. Think we kissed but I forgot…last Friday night!! ได้ยินเพลงนี้ทีไร วัยรุ่นอายุ(เหลือ)น้อยอย่างเรา ต้องอยากออกไปปาร์ตี้คืนวันศุกร์ ดริ๊งกับแก๊งค์เพื่อนขาประจำกันแน่นอน พูดถึงเรื่องดริ๊งแล้ว หลายๆคนอาจสังเกตุตอนที่เราไปร้านเหล้า ร้านอาหาร หรือผับ บาร์ ต่างๆ เวลาเราสั่งเครื่องดื่มแต่ละอย่างไม่ว่าจะเป็นเหล้า ไวน์ คอกเทล ทางร้า่นก็จะเสริฟมาในแก้วที่แตกต่างกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการแยกแยะเครื่องดื่มแต่ละชนิดแล้ว การเลือกใช้แก้วให้เหมาะสมกับชนิดของเครื่องดื่มที่เราจะดื่มนั้น มีผลต่องการรับรสของเราด้วย เป็นศาสตร์และศิลป์อย่างนึงเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาบอกวิธีการเลือกใช้แก้วไวน์ที่ถูกต้องกัน

Standard Wine Glass

จริงๆแล้วแก้วในกลุ่มนี้มีหลายแบบ แต่ที่เราเห็นกันทั่วไปคือแก้วไวน์ที่มีก้านจับแบบสูง เหตุผลที่ก้านจับของแก้วไวน์จะต้องสูงเพราะว่าอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ค่อนข้างจะร้อน เพราะฉะนั้นเพื่อให้ไวน์ไม่เสียรสชาติ ต้องทำให้ความร้อนจากร่างกายเราส่งไปถึงไวน์ให้น้อยที่สุด จะเห็นได้ว่าวิธีการถือแก้วไวน์เราจึงต้องจับก้านมันให้ต่ำเข้าไว้ ไวน์แดงจะต้องเทในแก้วที่มีขนาดกว้างกว่าแก้วที่เทไวน์ขาว

Tumbler Glass

แก้วทรงกระบอก นี่ถือว่าเป็นแก้วอเนกประสงค์ที่ใช้กับเครื่องดื่มประเภทคอกเทล มักจะใช้เสริฟเครื่องดื่มที่เน้นปริมาณที่ต้องการคงอุณหภูมิความเย็นให้นาน และเวลาดื่มเรามักจะไม่ถือแก้วไว้นาน จึงไม่ต้องมีก้านถือ ไม่จำเป็นต้องควบคุมความร้อน

Martini Glass

เป็นแก้วขนาด 5-6 ออนซ์ ใช้ใส่เครื่องดื่มตระกูล Martini และ Manhattan เป็นหลัก และเป็นแก้วที่มีก้านจับเพื่อควบคุมอุณหภูมิ เพราะเครื่องดื่มที่เสริฟจะต้องผสมกับน้ำแข็งและเขย่าก่อนเสริฟ แต่เวลาเทใส่แก้วจะไม่ได้ใส่น้ำแข็ง

Flute

ส่วนใหญ่ใช้กับเครื่องดื่มประเภท Champagne และ Sparkling wines แก้วประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก เพื่อลดการสัมผัสกับอากาศ และทำให้ฟองอากาศที่อยู่ในเครื่องดื่มอยู่ได้นานที่สุด จะเห็นได้ว่าเครื่องดื่มจะลักษณะซ่าๆ รสชาติหวาน และเหมาะกับการดื่มเฉลิมฉลองในงานพิธีต่างๆ

Rock Glass (Old Fashioned Glass)

ถ้าคุณอยากดื่มเครื่องดื่มที่เป็นเหล้าเพียวๆ หรือที่เราเรียกกันว่า On the rocks แก้วแบบนี้คือแบบที่มักใช้กัน หรือสามารถใส่เครื่องดื่มประเภทคอกเทลก็ได้ แก้วจะมีขนาดกว้าง ช่วยให้ได้กลิ่นของเครื่องดื่ม เหมาะกับเครื่องดื่มที่ต้องการใส่น้ำแข็ง

Collins Glass

เป็นแก้วรูปทรงกระบอกทรงสูง ใช้สำหรับใส่เครื่องดื่มประเภท Collins หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ เป็นแก้วประเภทคล้ายแก้วที่ใส่เครื่องดื่มประเภท Champagne คือต้องการการเก็บฟองอากาศในเครื่องดื่มให้นาน แต่มีขนาดใหญ่ที่สามารถใส่น้ำแข็งได้ เรามักจะเห็นแก้วแบบนี้เสริฟมาในเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานนิดหน่อย แต่จะไม่เน้นเรื่องกลิ่นหอมของเครื่องดื่ม

Dessert Wine Glass

การที่จะเสริฟเครื่องดื่มประเภท Dessert wine จะต้องเสริฟมาในแก้วที่มีขนาดเล็ก เพราะเครื่องดื่มประเภทนี้มีรสชาติที่หวานอยู่แล้ว จึงไม่การดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ในปริมาณที่มาก และมีก้านจับเพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่ม แต่แก้วมีลักษณะแคบ เพราะด้วยเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานอยู่แล้ว ลิ้นเราจะรับรสชาติมากกว่าการที่จมูกจะได้กลิ่น เพราะฉะนั้นเรื่องกลิ่นของเครื่องดื่มจึงไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญมากนัก

Grappa Glass

เป็นแก้วที่มีขนาดเล็ก มีก้านจับเพื่อรักษาความเย็น และรูปทรงคล้ายหลอดไฟนี้ก็ช่วยรักษาอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ไว้ใช้สำหรับใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิิดหนึ่งของอิตาเลี่ยน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ค่อนข้างแรง แอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35-60 % และมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นเหตุผลแก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มประเภทนี้จะเล็ก คุณคงไม่อยากดื่มมันในปริมาณที่เยอะแน่นอน

จริงๆแล้วแก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มมีหลายชนิดมาก แต่ที่เราพูดถึงไปนั้นเป็นแก้วประเภทหลักๆ เป็นความรู้พื้นฐานที่เราควรจะรู้ไว้ จริงๆแล้ว เราสามารถดื่มเครื่องดื่มกับแก้วอะไรก็ได้ แต่การที่เรารู้จักแก้วที่เหมาะสมกับเครื่องดื่มจะช่วยให้เราดูเป็นคนที่เก่ง มีรสนิยมดี และมีสเน่ห์มากขึ้น