5 วงดังฟังกันตั้งแต่ยุค“อัลเทอร์เนทีฟ”
ช่วงปี พ.ศ. 2535 – 2545 ของบ้านเรานั้น อิทธิพลของ “เพลงอัลเทอร์” หรือ อัลเทอร์เนทีฟ (alternative) จากฝั่งอเมริกา ได้ข้ามโลกมาเปิดศักราชใหม่ในวงการเพลงไทย ด้วยแนวเพลงเข้มข้น จัดจ้าน ได้รับแรงบันดาลใจจาก พังก์ร็อก ของวงอินดี้ทั้งหลายที่ตบเท้าเข้ามาชวนวัยรุ่นไทยให้ “โดด” ไปพร้อมความมันของดนตรีและเนื้อหาที่หนักแน่น ซึ่งบางเพลงนั้นก็ยังสะท้อนปัญหาสังคมจากสภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตกได้อีกด้วย จนเกิดปรากฏการณ์ “อัลเทอร์ครองเมือง” โดยศิลปินไทยที่ยังครองใจใครหลายคนมาจนทุกวันนี้ วันนี้เราจึงขอชวนคุณผู้อ่านย้อนเวลาไปกับ 5 ศิลปินอัลเทอร์ของเมืองไทย ย้อนระลึกถึงอีกหนึ่งแนวเพลงในดวงใจของวันรุ่ยไทยยุค 90 กันอีกครั้ง !
1. Paradox วงดนตรีสีจัดจ้านแห่งยุค 90
"Paradox" เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนนิสิตภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4 คนคือ "ต้าร์" (ร้องนำ-กีต้าร์), "บิ๊ก" (กีต้าร์), "สอง" (เบส) และ "โจอี้" (กลอง) เจ้าของเพลงฮิตอย่าง “ฤดูร้อน” “น้องเปิ้ล” “ร.ด.Dance” หรือ “บอลลูน” ด้วยดนตรีจังหวะสนุก และสีสันของเนื้อหารวมทั้งการนำเสนอตัวตนเมื่อเล่นคอนเสิร์ตที่ไม่เหมือนใคร ด้วยตำแหน่งในวงที่เรียกว่า “โจ๊กเกอร์-ว้ากเกอร์” ที่จะมีการแสดงประกอบการเล่นดนตรี เช่น พ่นไฟ สาดน้ำ โยนลูกโป่งให้คนดู และการ คอสเพล์ย ชุดเก๋ๆออกมาเสมอ จึงทำให้ Paradox เป็นวงดนตรีที่มีความ สตรองด้วยเอกลักษณ์การเล่นสดและตัวตนที่ไม่เหมือนใคร (เลย)
2. หนักแน่นจริงใจหยิกหัวใจให้ยิ้มแย้มกับ "Smile Buffalo"
“เลิกพูดได้ไหม ว่าฉันดีเกินไป นั่นหรือเหตุผลที่ให้ได้ ไม่รักก็อย่าทำเห็นใจ !” เชื่อว่าถึงแม้จะไม่ใช่วัยรุ่นยุค 90 ใครก็ตามที่ได้ฟังเพลงนี้ก็คงมีความรู้สึกที่ภาษาปัจจุบันเรียกว่า “สะใจเหลือเกินอีช้อย !” เมื่อได้ฟัง “ดีเกินไป” ผลงานในตำนานของวงดนตรีอัลเทอร์แถวหน้าของเมืองไทยอย่าง "Smile Buffalo" ของสมาชิก 4 คน คือ "เต็น" (กีต้าร์), "ดิษ" (เบส,ร้องนำ), "หนึ่ง" (คีย์บอร์ด) และ "เชษฐ์" (กลอง) ที่ปล่อยเพลง “ดีเกินไป” เป็น Single แรกมา ก็ขึ้นอันดับหนึ่ง Chart เพลงตามคลื่นวิทยุอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นต้องไปแก้บนถวายพระพรหมเอราวัณ ด้วยการเล่นคอนเสิร์ตกลางสี่แยกราชประสงค์มาแล้ว ! เพราะได้เคยบนไว้ว่าถ้ายอดขายเกินแสนตลับจะมาเล่นคอนเสิร์ตถวาย ด้วยเนื้อหาเพลงที่ง่ายๆ เหมือนผู้ชายซื่อๆ พูดตรงขวานผ่าซากคนหนึ่ง ที่นำเสนอตัวเองผ่านดนตรีที่หนักแน่น จึงทำให้ผลงานต่อๆ มาของวงได้รับความนิยมได้ไม่ยาก ทั้ง “ฟ้ายังฟ้าอยู่” “อยากจะบอกเธอ” “เส้นขนาน” “ใส่ร้าย” และ “ไม่รักเธอ”
3. โดดให้ยับ กับ "Moderndog"
"Moderndog" เป็นอีกหนึ่งวงดนตรีอัลเทอร์อีกหนึ่งวงที่เรากล้าพูดได้เต็มปากว่า ไม่ใช่แค่เพียงยุค 90 ที่พวกเค้าได้ครองใจคนฟัง แต่เพลงของพวกเขานั้น (โคตร) ดัง และ “อยู่มาทุกยุค !” ด้วยการรังสรรค์อย่างตั้งใจของสมาชิกทั้งสาม "ป๊อด ธนชัย" (ร้องนำ – กีตาร์), "เมธี" (กีตาร์) และ "ปวิณ" (กลอง) ส่งผลงานดนตรีจังหวะมันๆ ที่กระตุ้นหัวใจให้ฮึกเหิมรับกันกับเนื้อหาที่เป็นแรงบันดาลใจให้ออกไปใช้ชีวิตให้สุดทางอย่างใจฝัน นับตั้งแต่เพลงแรกของพวกเขาคือ “บุษบา” ที่เมื่อเปิดตัวแล้ว ไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องได้ยินเพลงนี้ ! ตามมาด้วยเพลงฮิตที่ผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องทั้ง “ก่อน” ที่กลายเป็นเพลงประจำวงไปโดยปริยาย ตามมาด้วย “บางสิ่ง” “หมดเวลา” “ติ๋ม” รวมทั้ง “ตาสว่าง”
4. Y Not 7 วงอัลเตอร์ในตำนานแห่งยุค 90
ในปี พ.ศ. 2538 ยุคต้นๆ ของเพลงอัลเทอร์ในเมืองไทย พวกเราก็ได้รู้จักกับ "Y Not 7" วงดนตรีที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์วงอัลเทอร์ในตำนานในเวลาต่อมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวทำเพลงของสมาชิก 7 คนคือ "เหน่ง" (ร้องนำ), "กอล์ฟ" (เบส--ร้องนำ), "ก้อย" (กีต้าร์), "แป๊ะ" (กีตาร์), "ไก่" (กลอง), "โด๊ด" (คีย์บอร์ด) และ "เชษฐ์" (กีต้าร์) เจ้าของเพลงอกหักแห่งศักราชอย่าง “ทิ้งรักลงแม่น้ำ” ที่ผสานทำนองดนตรีง่ายๆ แต่หนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์ของวงเข้ากับคำร้องจากปลายปากกาของ "ดี้ – นิติพงษ์ ห่อนาค" นักแต่งเพลงมือฉมังของวงการเพลงไทยได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เพลงนี้ได้รับการ Cover มาอย่างต่อเนื่องโดยศิลปินยุคหลังทุกยุคทุกสมัยมาจนถึงทุกวันนี้ ! ไม่เท่านั้น Y Not 7 ยังส่งเพลงดังอย่าง “ค่อยค่อยพูด” “อย่าสั่งให้ฉันตาย (ไม่มีทาง)” “Yeah! Yeah!” และ “เรื่องขี้หมา” ที่ตอกย้ำว่า Y Not 7 ถึงแม้จะเป็นตำนาน แต่ไม่เคยตายไปจากความทรงจำของแฟนเพลงได้เลย !
5. Big Ass อัลเทอร์มาตั้งแต่ยุคนั้นมันกันจนยุคนี้
นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับเพลง “ทางผ่าน” จากอัลบั้มแรก ชื่อของ "Big Ass" ก็ไม่เคยห่างหายจากวงการเพลงไทยอีกเลยจนทุกวันนี้ แม้จะมีการสลับสับเปลี่ยนสมาชิกของวงเกิดขึ้น แต่ตัวตนของ Big Ass ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย ด้วยดนตรี Rock เข้มข้นที่มีพัฒนาการโดยนำเอาแนวดนตรีใหม่ๆมาปรับใช้กับการทำเพลงอยู่เสมอ จึงทำให้ผลงานของวงนี้ได้รับความนิยมในทุกครั้งที่ออกอัลบั้ม หรือผลิต Single ใหม่นั่นเอง จึงทำให้วัยรุ่นหลายๆ คน ในยุคนี้ อาจจะไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว Big Ass เป็นวงดนตรีที่มีอายุงานในวงการมากว่า 20 ปีแล้ว ! เสิร์ฟเพลงฮิตมากมาย ทั้ง “เล่นของสูง” “ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก” “ดีแต่ปาก” “เกิดมาแค่รักกัน” “คนไม่เอาถ่าน” “ข้าน้อยสมควรตาย” “พรหมลิขิต” “ฝุ่น” “อย่างน้อย” และ “ลมเปลี่ยนทิศ” ลองนึกดูซิว่า คุณร้องตามเพลงที่เราพูดได้ทั้งหมดกี่เพลง !
และนอกจากทั้ง 5 ศิลปินที่เราเลือกมาพูดถึงในฐานะศิลปินอัลเทอร์แห่งยุค 90 แล้ว ก็ยังมีศิลปินตัวพ่อตัวแม่ในตำนานอีกมากมาย ทั้ง "วงพราว" เจ้าของเพลง “เหรียญสลึง” และ “เธอคือความฝัน” / หรือเจ้าของเพลง “ตากลมๆ” อย่าง "วงบาร์บี้ส์" / "วง Nursery Sound" เจ้าของเพลง “หวาน” ที่ได้นำกลับมา cover จนเกิดกระแสอีกครั้งโดยป๊อป ปองกูล / "วงอะลาดิน" เจ้าของเพลง “ศรีทน” และ “In Pub” ที่ส่งให้พวกเค้าเป็นนักร้องหน้าใหม่รางวัลสีสันอวอร์ดไปในทันที และนอกจากนี้ยังมีศิลปินที่แค่พูดชื่อ ก็ลือไปถึงกิตติศัพท์แล้วอย่าง "Bodyslam" / "Potato" และตัวพ่อขา Rock อย่าง "พี่ป้าง นครินทร์" เท่านี้ก็รู้แล้วว่าวงการเพลงในยุคนั้นจะมันกันเบอร์ไหน !
ความเห็น 15
‘ ต้ ' อ ' ง ‘
เท่าที่ทราบ อัลเทอร์เนทีฟ มันคือแนวทางการทำวงดนตรี (นอกกระแส ทางเลือกใหม่ไม่ซ้ำกับที่มีอยู่ในปัจจุบัน) ไม่น่าจะใช่แนวเพลง หรือยุคสมัยแต่อย่างใด
ส่วน smile buffalo Y not 7 Big Ass ผมว่าเขามาในแนว Rock ค่อนข้างชัดเจน
05 มิ.ย. 2561 เวลา 03.01 น.
RiE
ออดี้ ล่ะคร้าบบบ
y not 7 กับ big ass ใช่หร้า?!!
05 มิ.ย. 2561 เวลา 02.37 น.
Son
A-mob ก็ดังนะท่าน
05 มิ.ย. 2561 เวลา 02.31 น.
ดังเพราะว่า copyเค้ามา ในตอนนั้นใครมีจานดู MTV ก้จะรุ้ได้ดูเพลงของเมืองนอก ว่าสุดจิง กอปปี้แม้งกะทั่งการแต่งตัว เพลงก้มาแปลง ไปหาฟังได้ gun&roses Nirvana bon Jovi
05 มิ.ย. 2561 เวลา 02.49 น.
EntertainMenT
สงสัยสื่อสับสน
05 มิ.ย. 2561 เวลา 02.28 น.
ดูทั้งหมด