สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafeสายเมคอัพที่น่ารักทุกคน ♡(.◜ω◝.)♡
เหนื่อยมั้ยคะกับการต้องนั่งแต่งรูป ใส่ฟิลเตอร์แอพใน Meitu, VSCO, Snow หรือแอพแต่งหน้าสำเร็จรูปต่างๆ แล้วค่อยกดโพสต์? ยอดไลก์ในโซเชียลพุ่งกระฉูดมาก แต่ไม่กล้าเอาตัวจริงออกไปให้ใครเห็น?เราเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครอยากสวยอยู่แค่ในโลกเสมือนหรอกใช่ไหมล่ะ คนเราก็ต้องมีสังคมข้างนอก พบปะเพื่อนฝูงบ้าง โดยเฉพาะคนที่ชอบอัพรูปไม่แต่งหน้า ( แต่ที่จริงก็แต่งแอพอะแหละ เพราะตัวจริงเยินมาก ) ลงไอจี เฟสบุ๊ก ก็กลัวเขาจะซุบซิบว่าตัวจริงไม่ตรงปก อับอายขายขี้หน้าเขาไปอีก แถมตอนนี้มีโควิดก็ขี้เกียจแต่งหน้าด้วย ติดแมส อยากหน้าสดหรือกึ่งสดออกจากบ้านเลย แต่ยังสวยอยู่ จะทำได้ไหมนะ?
การันตีแบบไม่จ้อจี้เลยว่า ถ้าเธอมีวินัยดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลย หรือแต่งแค่นิดเดียว เธอก็ดูสวยเป๊ะ มีเสน่ห์ พร้อมออกจากบ้านได้ แค่ใส่ใจผิว ผม เลือกใช้สกินแคร์ อาหารการกิน เพียงทำตาม ' 8 กฎพื้นฐานในบทความนี้ ' เท่านั้น ถ้าเริ่มสนใจแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านข้างล่างนี้กันเลยค่า! (♡´❍`♡)*✧ ✰ ｡*
1. คิ้วต้องเป๊ะปัง เพราะคิ้วคือมงกุฎชั้นดีของใบหน้า!
ถ้าคิดจะหน้าสดแบบไม่ใช้เครื่องสำอางเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดรองจากผิวหน้าก็คือ ' คิ้ว ' นี่แหละค่ะ เพราะคิ้วคือการจัดกรอบใบหน้า เป็นส่วนช่วยบ่งชี้ว่าหน้าจะไปในทิศทางไหนได้เลย หน้าจะสวย หน้าจะดุ ก็อยู่ที่สีและทรงคิ้วเป็นหลักค่ะ! ยิ่งช่วงโควิด ต้องใส่แมสออกข้างนอกกันทุกคน คิ้วก็จะกลายเป็นเซนเตอร์หลักของใบหน้าโดยปริยาย ดังนั้นต้องแต่งคิ้วให้ดูดีที่สุดค่ะ
ถ้าคิ้วบางแล้วขี้เกียจต้องมานั่งแต่งคิ้วทุกวัน เราแนะนำให้ใช้บริการ ' สักคิ้ว ' ไปเลยก็ง่ายดี ตื่นมาหน้าสดก็ยังเป๊ะ สำหรับวัยเรียนก็ต้องสู้ราคานิดนึง แต่ถ้าอยากใช้วิธีธรรมชาติ ถ้าคิ้วหนา ขนคิ้วเยอะ ก็ต้องขยันกันคิ้วให้เป็นทรงบ่อยๆ ถ้าคิ้วบาง ก็ต้องเขียนหน่อย โดยใช้ดินสอเขียนคิ้วที่สีเข้มกว่าสีผม 1 เฉดสี เขียนบางๆ หรือจะใช้มาสคาร่าแบบเจลก็จะยิ่งดูธรรมชาติมากขึ้น
เรามีทริคช่วยเร่งให้ขนคิ้วหนาขึ้นมาฝาก แค่ใช้วิตามิน A และน้ำมันแคสเตอร์ ( Caster Oil ) ทาที่ขนคิ้วทุกวัน ทำต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ เธอจะตกใจกับผลลัพธ์ของขนคิ้วที่งอกขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอนค่ะ
2. เน้น 'ช่วงดวงตา' ให้โดดเด่น กระจ่างใส ไม่คล้ำเป็นแพนด้า
ถ้าหน้าสดออกจากบ้าน แต่มีคนทักว่าตาหมองคล้ำเหมือนโดนของ คอสเพลย์เป็นแพนด้าคงดูไม่ดีแน่ๆ โดยปกติตาที่ดูง่วง นอนไม่พอ จะมีช่วงตาที่ตี่ๆ แคบๆ ดังนั้นต้องปรับให้ดู ' กลมโตขึ้น 'โดยใช้ที่ดัดขนตา ดัดให้ขนตาแผ่กระจายออก แล้วใช้มาสคาร่าแบบเจลล็อคให้อยู่ทรง เมื่อขนตางอนออก ช่วงตาจะดูกว้างขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไบรท์ กระจ่างใสมากขึ้น ถ้ายังรู้สึกว่าตาเล็กอยู่ จะใช้ขนตาปลอมช่วยเสริมก็ได้ค่ะ
ในส่วนของรอยคล้ำใต้ตา นอกจากอายครีมสูตรไวท์เทนนิ่งที่ควรทาเป็นประจำแล้ว เรื่องอาหารก็สำคัญ บางทีเธออาจกินอาหารผิดอยู่! ที่จริงรอยคล้ำใต้ตาอาจเป็นสาเหตุของการขาด ' ธาตุเหล็ก ' หรือ ' วิตามิน B ' ในร่างกาย ซึ่งเติมเต็มได้ด้วยการกินเนื้อแดงและตับค่ะ ทั้งนี้สารเรตินอลในอายครีม ถุงประคบเย็นผสมใบมินต์และชาเขียวเย็นๆ ก็ช่วยประคบลดรอยคล้ำได้เช่นกัน (•‾⌣‾•)و ̑̑♡
3. ฟันต้องขาวสะอาด ห้ามมีคราบเหลืองเป็นอันขาด!
ถ้าหน้าสดใสบลิงก์ คิ้วเป๊ะ ปากปัง แต่ยิ้มเห็นฟันทีเหลืองอ๋อยมาเชียว จะหน้าสวยยังไงก็ไม่รอดนะจ๊ะ เพราะแค่มี ' ฟันขาวสะอาด ' ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ช่วยเสริมบุคลิก ใครเห็นก็ต้องให้ 10 10 10! ดังนั้นฟันใครมีคราบเหลือง อย่าปล่อยให้คนจ้องฟันแล้วกลั้นขำ ต้องขจัดคราบสกปรกด่วน!
เราแนะนำให้เธอใช้ ' ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่ง ' ถ้าอยากให้ฟันขาวเร็วขึ้น เราแนะนำให้แปรงทันทีหลังดื่มชา กาแฟ เพราะสองอย่างนี้แหละตัวการทำให้ฟันเหลืองค่ะ! แต่อย่าถูฟันแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เคลือบฟันเสียได้ ทั้งนี้ ถ้าฟันของเธอมีสีเทาหรือออกเหลืองโดยธรรมชาติ ยาสีฟันจะไม่ทำให้ขาวขึ้นได้ 100% แต่จะทำให้ดูสว่างขึ้นแทน ถ้ากังวลจริงๆ อาจจะต้องเข้าคลินิกหมอฟัน ทำวีเนียร์ไปเลยจะตอบโจทย์กว่าค่ะ
4. สครับปาก ทาลิปบาล์มอยู่เสมอ ให้ริมฝีปากอมชมพู นุ่มเนียน เป็นธรรมชาติ
หน้าสวยแต่ปากแห้ง แตกระแหงเลือดไหลซึมก็คงจะไม่ดีแน่ ( คนรอบตัวจะสะดุ้งวิ่งหนีซะก่อน ) ดังนั้นการเติมสารอาหาร และบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญควร ' สครับปาก ' เป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ปากเนียนนุ่มสุขภาพดี มีสีชมพูตามธรรมชาติ ถ้าอยากเติมลิปเพิ่มสีสัน ปากเนียนๆ ก็จะช่วยลงลิปได้สวยขึ้นอีกด้วยค่ะ
ลิปบาล์มคือไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้ ควรทาเรื่อยๆ ทั้งวัน รู้สึกปากแห้งเมื่อไหร่ต้องหยิบขึ้นมาทาทันที โดยลิปบาล์มที่ดีควรมีส่วนผสมของน้ำมันตามธรรมชาติ เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก เพื่อบำรุงริมฝีปากอย่างล้ำลึก หากเป็นคนผิวเซนซิทีฟก็เลือกแบบออร์แกนิกที่ไม่ใส่สี กลิ่นและน้ำหอม ทั้งนี้การใช้ขนแปรงสีฟันนุ่มๆ แปรงปากเบาๆ สัปดาห์ละครั้ง ก็เป็นการสครับปากอย่างหนึ่งเช่นกัน โดยจะจุ่มแปรงในผงน้ำตาล เพื่อสครับไปในตัวด้วยเลยก็ยิ่งดีค่ะ
5. ทำทรงผมที่เซ็ตง่ายที่สุด สีผมใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด
เมื่อเราคิดจะหน้าสด การทำสีผมแปลกๆ เช่น สีแดง สีชมพู สีทอง หรือทรงผมที่เซ็ตยากเกินไป อาจไม่เข้ากับลุคเปลือยหน้าตามธรรมชาติ ซ้ำสีผมบางอย่าง ถ้าไม่แต่งหน้าจะยิ่งดูป่วย ดูซีดกว่าเดิมด้วย ดังนั้นเลือกตัดทรงผมง่ายๆ เซ็ตง่ายๆ และทำสีผมโทนธรรมชาติจะดีที่สุด ดูไม่ขัดหูขัดตา ข้อดีคือ สีผมเข้มๆ จะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างไบรท์ กระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ
เนื่องจากผิวหน้าไม่ได้แต่ง อีกจุดที่คนจะโฟกัสก็คือ ' เส้นผม ' ดังนั้นการดูแลผมให้นุ่มสลวย มีวอลลุ่มนั้นสำคัญมากควรเล็มผมแตกปลายทิ้งเป็นประจำ เลี่ยงให้เส้นผมสัมผัสความร้อนโดยตรง หากต้องไดร์ ม้วน หรือหนีบ ให้ฉีดสเปรย์กันความร้อนทุกครั้ง ( แต่เลี่ยงไม่ทำเลยจะดีที่สุด ) หาเวลานวดและหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวสัปดาห์ละครั้ง ช่วยให้ผมหนานุ่ม กำจัดรังแค ลดอาการหนังศีรษะแห้ง และล้างผมด้วยน้ำอุ่นผสมสมุนไพร จะทำให้เส้นผมของสาวๆ ดูเงางามขึ้นด้วยค่ะ
6. อยากผิวปัง ไม่ต้องไปคลินิกก็ได้ แต่ต้องทา 'ครีมกันแดด' ทุกวัน
ผิวหน้าแทบเป็นสิ่งที่คนภายนอกจะเห็นก่อนเป็นอันดับแรก จึงต้องคอยดูแลรักษาไม่ให้ขาด โดยเฉพาะการป้องกันจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตของแสงแดด! เพราะรังสียูวีเข้มข้น จะทำให้คอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย เร่งผิวแก่ มีริ้วรอยก่อนวัย จะเห็นได้ว่าคนที่ไม่ค่อยทากันแดด พออายุเริ่มเยอะหน้าจะไปเร็วมากๆ ดังนั้นต้องทา ' ครีมกันแดด ' ทั้งผิวหน้าและผิวตัวอยู่เสมอ สำหรับบ้านเราที่แดดค่อนข้างจัด SPF50+ PA++++ จะป้องกันได้ดีที่สุดนะคะ
การดูแลผิวในเรื่องอื่นๆ ก็สำคัญ เช่น การล้างหน้าไม่ควรล้างบ่อยเกิน 2 ครั้งเพราะจะทำให้หน้าแห้ง แต่ระหว่างล้างก็ควรใช้โฟมล้างหน้าล้าง 2 ครั้ง ( double cleansing ) เพื่อให้สะอาดหมดจด หากไม่ใช่คนผิวมัน ตอนเช้าเราแนะนำให้ไม่ต้องใช้โฟม แต่เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งน้ำนม โทนเนอร์ หรือน้ำเปล่าธรรมดาแทน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว ใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า รวมถึงมาส์กหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็นประจำ หากผิวไม่เซนซิทีฟจนเกินไป ให้สครับหน้าด้วย จะช่วยให้ผิวเนียนเรียบ ดูสว่างใสขึ้นค่ะ
7. อาหารที่เลือกกิน ก็เพิ่มความสวยจากภายในได้!
มีงานวิจัยออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า ผิวจะสวยนั้นขึ้นอยู่กับอาหารที่กินด้วย เพราะมีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงระหว่างสภาพผิวและประเภทอาหารที่กินในชีวิตประจำวันค่ะ! หากกินอาหารดี ผิวจะนุ่มเนียน ชุ่มชื้นอิ่มน้ำ มีชีวิตชีวา อ่อนกว่าวัย แต่หากกินอาหารทำลายผิว ผิวก็จะหมองคล้ำ จับแล้วแห้งกร้าน ดูแก่กว่าอายุจริง
เราแนะนำให้สาวๆ กิน ' ไขมันดีจากปลาธรรมชาติ ' บ่อยๆ เพราะปลาเหล่านี้มีคอลลาเจนที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวได้ อาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันพืช ถั่วและธัญพืชก็ช่วยบำรุงผิวเช่นกัน เพราะมีทั้งกรดไขมัน, วิตามิน E และแคโรทีนที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมก็ควรกิน เพราะมีจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบขับถ่าย เมื่อลำไส้สะอาด ผิวก็สวยด้วยนั่นเองค่ะ
8. รู้จักเฉดสีที่เหมาะสมกับ 'โทนสีผิว' ของตัวเอง ก็ดูดีขึ้นได้หลายเท่า!
แม้ข้อนี้จะไม่เกี่ยวกับการดูแลตัวเองโดยตรง แต่การเลือกโทนสีเสื้อผ้า เครื่องประดับให้เหมาะกับตัวเอง ( ญี่ปุ่นจะเรียกว่า Personal Color ) จะช่วยทำให้ลุคในวันนั้นของสาวๆ ดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผิวดูสม่ำเสมอกัน ซ่อนจุดด้อยในร่างกาย จะบอกว่าทำให้ดู ' แพง ' มากขึ้นก็คงไม่เกินความจริงนัก
หากใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับสีผิว จะยิ่งทำให้หน้าดูหมองคล้ำกว่าเดิม เช่น ผิวที่ไม่ทาเครื่องสำอางจะดูซีดอยู่แล้ว ก็ไม่ควรใส่สีดำเน้นให้เห็นชัด หรือใส่สีขาวที่ทำให้ยิ่งดูซีดกลืนกันไปทั้งตัว แต่แนะนำให้ใส่เสื้อ ' สีสดใส ' เช่น สีน้ำเงิน สีเขียวน้ำทะเล สีพีช สีชมพูช็อกกิ้งพิงค์จะดูดีกว่า ทั้งนี้ต้องดูจากสีอันเดอร์โทนของผิวควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ลุคออกมาดูเหมาะกับเธอที่สุดค่ะ
---------------------------
จบกันไปแล้วกับกฎพื้นฐานในการดูแลผิวทั้ง 8 ข้อที่ทำง่ายสุดๆ หากอยากมีลุคสวยเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ควรทำอย่างมีวินัย สม่ำเสมอ ไม่ทำๆ หยุดๆ เพราะทุกข้อต่างเป็นวิธีธรรมชาติ ต้องอาศัยเวลา แต่เมื่อแสดงผลลัพธ์แล้วก็จะดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรปรุงแต่งจริงๆ เหมาะกับช่วงนี้ที่ไม่อยากแต่งหน้าให้เลอะแมส หรือคนที่ไม่ชอบแต่งหน้าจัดเป็นทุนเดิม ก็น่าจะนำข้อมูลในบทความนี้ไปปรับใช้กันได้เยอะเลย ^^ สาวซิสทุกคนสวยอยู่แล้ว แต่ถ้าได้ดูแลตัวเองดีๆ ก็จะยิ่งสวยขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน สำหรับวันนี้เราขอตัวลาไปก่อนแล้วน้า บ๊ายบายค่า (⋈◍＞◡＜◍)。✧♡
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore
