“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะพานักลงทุนมาทำความรู้จักหุ้นไอพีโอน้องใหม่อย่าง บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS โดยถือว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรมานานกว่า 25 ปี และสามารถนำเอาองค์ความรู้ที่มีมาสร้างผลิตภัณฑ์ “สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” หลังจากเพิ่งเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 105 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ราคาไอพีโอ 4.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะเหลือวันจองซื้อเพียง 1 วัน คือวันที่ 25 พ.ย.67 แล้วเดินหน้าเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้กลุ่มสินค้าของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (PERSON) ในวันที่ 29 พ.ย. 67 นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SNPS”
เชี่ยวชาญในธุรกิจด้านสมุนไพรมานานกว่า 25 ปี
รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร SNPS กล่าวว่า รายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ มีจุดเด่นในเรื่องความชำนาญด้านสมุนไพรมานานกว่า 25 ปี จากการก่อตั้งแต่ปี 2542 ทำให้มีฐานข้อมูลสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานจำนวนมากและสามารถนำความรู้และงานวิจัยที่มี รวมถึงการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาต่อยอดเพื่อพัฒนาทั้งสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่าง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและกระแสความนิยมของผู้บริโภค
สำหรับพัฒนาการของ SNPS ที่มีมาตั้งแต่ก่อตั้งปี 2542 ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด หรือ SI ในปี 2555 เพื่อธุรกิจคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงาม จากนั้นในปี 2561 ได้ร่วมมือกับ บริษัท คาเน อินโนเวชั่น จำกัด หรือ KI จากญี่ปุ่น เพื่อขยายองค์กรสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ Products คงทน ก่อนในปี 2564 จึงจัดตั้ง บริษัท เวลโนเวชั่นส์ จำกัด (Well)
โดยที่ผ่านมา SNPS มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาโดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ตลอดจนการให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึง SNPS ยังมีศักยภาพในการเติบโตจากเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยนำ สารสกัดมาตรฐาน (สารสกัดสมุนไพรจากพืชธรรมชาติ) ภายใต้ชื่อเรียกว่า API คือสารออกฤทธิ์ในยาที่ออกฤทธิ์ต่อร่างกายเพื่อรักษาอาการต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติ โดยหลายประเทศในยุโรป อาทิ สวิตเซอร์แลนด์, สเปน และ อิตาลี ได้มีการผลิตสารสกัดดังกล่าวมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ใช้พืชในยุโรป
ขณะที่ SNPS ได้ใช้พืชที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันผลิตสารสกัดมาตรฐาน (API) อยู่ 398 รายการ ซึ่งมีทีมนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งและร่วมกันพัฒนาสูตรอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรครบวงจร (Integrated Sustainability Solution) อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เวชสำอางและเครื่องสำอาง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมี 4 ธีมในการทำธุรกิจคือ ปลูก – ปั้น – เปลี่ยน - ปัน ซึ่งยึดหลักที่ว่าสารสกัดจะต้องปลอดภัยและปลอดสารเคมีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในขั้นตอนการผลิตพืชปลอดสารพิษจาก “แทนคุณฟาร์ม” ที่มีอยู่ 15 จังหวัดทั่วไทยและยาวนานถึง 14 ปี เพื่อตอนสนองการเป็นกิจการที่เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมด้วย
ทั้งนี้สารสกัดดังกล่าวถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ ,ผลิตภัณฑ์เสริมช่วยลดน้ำหนัก, ผลิตภัณฑ์เสริมบำรุงร่างกาย, ธุรกิจวงการอาหารและอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ซึ่งได้สกัดหัวเชื้อใหม่ๆ ที่พร้อมใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสู่บริษัทชั้นนำทั่วไป โดยโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม "อมตะนคร" ถ.บางนา - ตราด กม.57 จ.ชลบุรี ซึ่งใกล้กับคลังขนส่งสินค้าของประเทศ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและ "การดูแลอย่างดีที่สุด" ด้วยเครื่องมืออันทันสมัย และการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวด สร้างมาจากพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบันอยู่เสมอ ซึ่งสร้างคุณภาพและมาตรฐานของกระบวนการผลิต โดยได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากลมากมาย อาทิ ISO22716:2007, FSSC22000, GMP และ HACCP
สำหรับ SNPS แบ่งธุรกิจหลักของบริษัทอยู่ 2 แบบ คือ 1. “OBM” เป็นการผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้า SI ของกลุ่มบริษัท อย่างสินค้าตัวหลักเช่น เจลแก้คัน ฟ้าทะลายโจร สเปรย์ฉีดหน้ากาก โปรตีนจากพื้น และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมล่าสุดอย่าง Colosure และ 2. “ODM” เป็นการรับจ้างพัฒนาและผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าหรือคู่ค้า ซึ่งจากความสำเร็จ 25 ปีจึงทำให้ SNPS เป็นผู้นำในด้านสมุนไพรแบบครบวงจร ส่งผลให้การระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ถูกมองว่าเป็นหุ้น IPO น้องใหม่มาแรง
โดยรายได้หลักของธุรกิจมาจากสารสกัด API ถึง 30% และเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงามและสุขอนามัย 70% และเป็นรายได้จากรายได้ในประเทศประมาณ 90% และมาจากรายได้ Business Partner ต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย และ เวียดนาม อีก 10% ซึ่งอนาคต SNPS ตั้งเป้าตลาดต่างประเทศให้มีการเติบโตเพิ่มสัดส่วนรายได้ในอนาคตอีกด้วย
ระดมทุนขายไอพีโอ 105 ล้านหุ้น
การเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ SNPSได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 5 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการกำหนดราคา IPO ดังกล่าว ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน โดย SNPS ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งบริษัทฯให้ความสำคัญอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาโดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่าง เมื่อผนวกกับเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพดีอย่างยั่งยืนโดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ ภาครัฐยังผลักดันและให้การสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรไทยภายใต้แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติเพื่อช่วยผลักดันให้สมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับระดับสากล ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงสนับสนุนให้ SNPS มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด ประกอบด้วย รศ.ดร. พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ดร. ธีรญา กฤษฎาพงษ์ และบริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล อินโนเวชั่น จำกัด ยังได้สมัครใจทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นในส่วนที่เหลือจากการติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นเวลา 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น ในวันที่หุ้น SNPS เข้าซื้อขายเป็นวันแรกจะมีหุ้นที่ซื้อขายในตลาดได้ทั้งสิ้น 105 ล้านหุ้น ซึ่งเท่ากับจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายในครั้งนี้เท่านั้น
ตั้งเป้าหลังเข้าเทรด SET
ดร.ธีรญา กล่าวเสริมว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ SNPS ในการเพิ่มศักยภาพการเติบโตขององค์กร โดยเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ 1. เพื่อลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีในการสกัดให้ได้สารสกัดสมุนไพรที่มีความบริสุทธิ์มากขึ้น วงเงินประมาณ 441 ล้านบาท 2.ลงทุนในการวิจัย พัฒนา และผลิตวัตถุดิบสมุนไพรสำหรับยาพัฒนาจากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาพัฒนาจากสมุนไพร และอาหารทางการแพทย์หรืออาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ จำนวน 5 รายการ วงเงินประมาณ 80-100 ล้านบาท 3.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน วงเงินประมาณ 45-70 ล้านบาท และ4.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ วงเงินประมาณ 130 ล้านบาท
ด้านกลยุทธ์ในช่วงต่อจากนี้ SNPS จะมุ่งเน้นการเติบโตไปในตลาดใหม่ๆ ที่ต้องการผลิตสินค้าที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีศักยภาพในการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และสัตว์เลี้ยง อุตสาหกรรมอาหารจากแนวโน้มของผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นโครงการที่จะนำเงินที่ได้จาก IPO ไปลงทุนทั้งในส่วนของสารสกัดที่มีความเข้มข้นและความบริสุทธิ์มากขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง Phytoextraction Technology ซึ่งเป็นสารสกัดระดับพรีเมี่ยมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ และการการพัฒนาและผลิตยาพัฒนาจากสมุนไพรเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลการย่อยอาหาร สร้างภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการคลื่นไส้วิงเวียน เป็นต้น ซึ่งถือเป็น New S-Curve ที่สำคัญของบริษัทฯ ในอนาคต
โดยก่อนหน้านี้ SNPS รายงานผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 351.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.07% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 51.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.67% จากงวดเดียวของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ไทยเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย บริษัทมีศักยภาพตอบสนองดีมานด์เรื่องสมุนไพรที่ปลอดภัยและปลอดสารพิษ ที่มีความต้องการสูงเพื่อป้องกันจากโรคภัยและเพื่อรักษาสุขภาพหลังจากคนทั่วโลกผ่านวิกฤตโควิด 19 มาก่อนหน้านี้ โดยทางภาครัฐมีนโนบาย ยกให้เรื่องสมุนไพรของไทยเป็น Soft Power ที่พัฒนายกระดับและสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ ซึ่ง SNPS ถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการสกัดสมุนไพรไทยที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงขยายลูกค้าตลาดต่างประเทศ นอกเหนือจาก มาเลเซีย และเวียดนาม ยังมีลูกค้าจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียติดต่อเข้ามาหลายราย ดังนั้นโอกาสในอนาคตทำให้โอกาสสัดส่วนการเติบโตต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ความเห็น 1