นี่เป็นคำพูดจากอาจารย์ที่ปรึกษาของเรา
เมื่อเราระบายให้เขาฟัง ถึงความอัดอั้น บีบคั้นของคนไข้ผิวดำของเราที่ต้องเผชิญ
อาจารย์ยกตัวอย่าง ยอดมนุษย์ทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวอะไร ฮีโร่จะเกิดขึ้นได้ ต้องผ่านขวากหนามและความยากลำบาก
จนหยัดยืนขึ้นมาได้อย่างสวยงามทั้งนั้น
–เพราะเราอาจเปลี่ยนสถานการณ์รอบตัวไม่ได้ แต่เราปรับจูนจิตวิญญาณของเราได้
‘ตอนที่ฉันไปประท้วง เห็นผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาร่วมประท้วงกับฉัน พอหมดเวลา ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน ฉันอิจฉาคนที่ไม่ได้มีผิวดำนะ ที่เขามีเวลาพัก แต่คนอย่างฉันต้องอยู่กับความกลัวทุกนาที ฉันขอเวลาเบรกจากมันไม่ได้’
ราเชล ลินด์เซย์ พิธีกรสาวผิวดำที่เราชื่นชอบเคยพูดเอาไว้ เพราะการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมต่อสิทธิของความเป็นมนุษย์ มันเป็นสนามรบที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับคนผิวดำ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งในใจของพวกเขาลึกๆ ก็ยังมีความหวัง ว่าโลกใบนี้จะมองเขาด้วยความเปิดใจและความเท่าเทียม อย่างที่ลึกๆ เชื่อว่าพวกเขาควรได้มันมา
แต่วันนี้ เราจะชวนมาพูดถึงผู้หญิงผิวดำคนหนึ่ง
ที่การกระทำและทัศนคติของเธอนั้นทำเราฉงน
(ต้องใช้คำว่า ฉงน เพราะหลากหลายความรู้สึกประดังประดาเข้ามาเหลือเกิน จนสรุปได้เป็นคำนี้)
ชื่อของเธอคือ แคนเดซ โอเว่นซ์
อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าพรรครีพับบลิคกันของ ประธานาธิบดี ทรัมป์ นั้น
มีความเหยียดชนกลุ่มน้อยขนาดไหน
แคนเดซ เป็นหนึ่งในนักพูดและผู้สนับสนุนพรรครีพับบลิคกัน
หลายคนจับตาการเคลื่อนไหวของเธอ
เพราะเธอไม่ใช่แค่สนับสนุนกลุ่มคนที่เหยียดเชื้อชาติและผิวพันธุ์ของเธอ
แต่เธอกลับด่าทอกลุ่มคนผิวดำ…. ซึ่งเหมือนกับเธอไปอีก….
เธอพยายามเปลี่ยน ‘เส้นเรื่อง’ ของประวัติศาสตร์แห่งการถูกกดขี่ข่มเหงของคนผิวดำมานานหลายร้อยๆ ปี
ซึ่งจริงๆ แล้ว
‘หากเราไม่ยอมรับกับความจริงที่เป็นอยู่ เราจะก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์กับจิตวิญญาณตัวเองได้อย่างไร?’
ตอนที่ อาบัด อาร์เบอร์รี่
ชายผิวดำที่เสียชีวิต ขณะวิ่งจ็อกกิ้ง เพราะโดนนายตำรวจเก่าผิวขาวสองคนยิง ‘เพราะพวกเขาคิดว่าอาบัดหน้าเหมือนคนร้าย’
เธอก็บอกว่า ‘อาบัดก็ผิดนะ กล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเขาเดินเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลของคนอื่นเขา’
หรือจะเป็นตอนที่จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตเพราะโดนตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอจนขาดอากาศหายใจ
เธอก็บอกว่า ‘ไม่ต้องทำให้จอร์จเป็นฮีโร่ขนาดนั้นได้ปะ จอร์จเขาใช้ยาเสพย์ติดนะ’
ซึ่งความจริงก็คือ
เธอกำลังเมินเฉยกับการใช้อำนาจในทางที่ผิด ของ ‘ผู้ที่ต้องปกป้องประชาชน’ แต่กลับใช้ความรุนแรงปลิดชีวิตคนที่ไม่มีทางสู้ (และหลายครั้งเหยื่อ ไม่มี ความผิดใดๆ ด้วยซ้ำ)
เธอกำลังมองข้ามความจริงที่ว่า ‘ผู้ที่สมควรจะต้องปกป้องประชาชน’ มีความลำเอียงโดยใช้สีผิวที่ตัวเองเหยียดเป็นเกณฑ์ตัดสินในความดีความชอบของใครสักคนที่ไม่มีทางสู้
เธอกำลังเมินเฉย ต่อความจริงที่ว่า ประวัติศาสตร์อเมริกาใช้คนผิวดำเป็นทาส และปฎิบัติต่อคนผิวดำเหมือนไม่ใช่มนุษย์ มันยังมีอยู่ไม่ไปไหน คนผิวดำต้องสังเวยชีวิต ให้กับความอยุติธรรมนี้มาหลายครั้งนัก
และเหนือสิ่งอื่นใด
เธอกำลังพยายามจะทำให้การ ‘ฆาตกรรมจากตำรวจ’ แต่ละครั้ง ‘มันสมเหตุสมผล’ ด้วยสิ่งที่คนผิวดำทำ ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่มีใครสมควรจะถูกลดค่าความเป็นมนุษย์และฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้
และแน่นอน ทุกการกระทำของเธอ ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์…
คนที่คอยย่ำยีชาติพันธุ์ของเธอมาโดยตลอด…
ทำให้เรานึกถึง เหตุการณ์สมมุติ
ถ้ามีใครสักคนที่ไม่ชอบสีผิวเข้มของตัวเอง
แล้วก็ไปกินยา ทาครีมฟอกขาว จนขาวปิ๊งเป็นประกายสมใจอยาก
เท่านั้นไม่พอ
คนๆ นั้นยังหันกลับมาด่าคนที่สีผิวเหมือนเธอเมื่อก่อนด้วยถ้อยคำรุนแรงต่างๆ นานา
พยายามจะปฎิเสธความจริง ที่ถึงแม้จะเจ็บช้ำ เพื่อก้าวไปอีกฝั่งอยู่บนบัลลังก์อันปลอดภัย
เทียบกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่รับรู้ความโหดร้ายจากการถูกกระทำที่ไม่เท่าเทียมกับมนุษย์อื่นเขา ทุกวันที่รู้สึกหนักกับปัญหาที่ไม่สามารถจะยกออกไปจากอกได้ซะที เพราะมันถูกตราตรึงเอาไว้บนสีผิวซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดจากคนทั่วไป
หากแต่เขาพร้อมจะสู้ ด้วยพลังโกรธเกรี้ยวแต่เปี่ยมไปด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่
ซึ่งแน่นอน สมรภูมินี้ ย่อมไม่ได้เป็นไปด้วยความง่าย แต่มันมีความหมายต่อหัวใจเขายิ่งนัก
คนเราไม่ว่าจะเลือกมอง เลือกใช้ชีวิตยังไง
คงขึ้นอยู่กับ ‘สิ่งไหนบ่งบอกคุณค่าชีวิตของเรามากกว่า’
คุณค่าของชีวิตอยู่ที่ความเลิศหรูสะดวกสบาย
หรืออยู่ที่ ‘สิ่งที่สัมผัสได้ ซึ่งเป็นความจริง’
อ้างอิง
https://variety.com/2020/digital/news/candace-owens-gofundme-george-floyd-1234627289/
https://www.independent.co.uk/topic/candace-owens?CMP=ILC-refresh
https://theblackwallsttimes.com/2020/05/10/candace-owens-downplays-ahmaud-arberys-murder-on-twitter/
ติดตามบทความใหม่จากเพจ Beautiful Madness by Mafuang ได้ทุกวันอังคาร บน LINE TODAY
