โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'ดร.อานนท์' เผยเหตุผลทำไมต้องแก้ไข พรบ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

THE STATES TIMES

อัพเดต 22 พ.ค. เวลา 08.15 น. • เผยแพร่ 22 พ.ค. เวลา 12.00 น. • Hard News Team

(22 พ.ค 68) รศ. ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล (Citizen data sciences) คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊เผยแพร่บทความเรื่อง "ทำไมจึงต้องแก้ไขพรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในปี ๒๕๖๘" มีเนื้อหาดังนี้

สำนักงานพระคลังข้างที่ กลายเป็นหน่วยงานเล็กๆ ในสังกัดสำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง หลังจากมีการจัดตั้งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตาม พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. ๒๔๙๑ และแม้จะมีการแก้ไข พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และ อีกครั้งใน พ.ศ. ๒๕๖๑ แต่สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวังก็ยังคงอยู่ เป็นสำนักงานเล็ก ๆ มาโดยตลอด โดยมีภาระหน้าที่ที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ดังนี้

หนึ่ง ทำหน้าที่ดูแลการจ่ายเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ เงินปีเป็นเงินที่แต่เดิมรัฐบาลจัดถวายให้พระมหากษัตริย์พระราชทานให้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปได้รับพระราชทานไปใช้เป็นการส่วนพระองค์ของเจ้านายแต่ละพระองค์ และรัฐบาลก็ถวายพระมหากษัตริย์ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ ไม่ทรงรับเงินปีจากรัฐบาล พระราชทานคืนกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลังทั้งหมด ต่อมาไม่ทรงรับเงินปีที่รัฐบาลจัดถวายเพื่อให้พระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงส่งคืนกรมบัญชีกลางเช่นกัน และทรงใช้เงินส่วนพระองค์พระราชทานเงินปีให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์แทน โปรดอ่านได้จากบทความ เงินปี งบประมาณประจำปี และเงินรายปีวาทกรรมประดิษฐ์บิดเบือนเป็นเท็จใส่ร้ายป้ายสีสถาบันฯ https://mgronline.com/daily/detail/9640000089488

สอง สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินและเก็บผลประโยชน์ เช่น ค่าเช่า ของพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์

จะเห็นได้ว่าภาระหน้าที่ของสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวังมีไม่มากนัก เพราะได้ถ่ายโอนไปที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ไปจนหมดแล้ว นับแต่ พ.ศ. ๒๔๙๑

เมื่อมีการตราพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕ แล้ว สำนักพระราชวัง ก็ย้ายมาสังกัดหน่วยราชการในพระองค์ สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ย้ายไปสังกัดกรมบังคับการสำนักพระราชวัง จนกระทั่งในปัจจุบัน

จนกระทั่งหากร่าง พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2568 ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และกำลังจะนำไปสู่การลงมติของรัฐสภา และเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดังแสดงในแผนภาพด้านล่างนี้ ดังนี้

หนึ่ง มีการโอน สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ไปสังกัดสำนักงานพระคลังข้างที่ที่เปลี่ยนชื่อมาจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

สอง เปลี่ยนการเรียกชื่อตำแหน่ง จากคณะกรรมการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปเป็น คณะกรรมการพระคลังข้างที่ และผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปเป็นผู้อำนวยการพระคลังข้างที่

แต่กลับเกิดการโจมตีของมีความคิดเห็นอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จากต่างแดน เช่น สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กับ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ว่านี่คือการกลับไปสู่ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างแท้จริง

ประการแรก ตามทฤษฎีองค์การ (Organizational theories) ยังไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์การ (Organizational structure) กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (Political regime) ไปได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหาร (Management system) อะไรไปมากเลย กลับกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปได้ช่างเป็นตรรกะวิบัติ (Logical fallacy) ของนักวิชาเกินโดยแท้

ประการสอง ทรัพย์สินในพระองค์ กับ ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์ ยังคงแยกออกจากกันอย่างชัดเจน อันเป็นไปตาม พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. ๒๕๖๑ เช่นเดิม ทั้งนี้ทรัพย์สินในพระองค์ เป็นทรัพย์สินของราชสกุลมหิดล นับตั้งแต่ก่อนครองสิริราชสมบัติ เดิมมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์ตั้งอยู่ในวังสระปทุม แต่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าเป็นการจัดโครงสร้างองค์การที่ซับซ้อน เพราะมีคณะกรรมการชุดเดียวกัน ควรนำมารวมหน่วยงานกันเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการจัดการมากขึ้น แต่ยังแยกออกจากทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์ อันเป็นทรัพย์สินที่จะตกทอดต่อไปยังพระมหากษัตริย์ในภายภาคหน้าให้สามารถทรงใช้เพื่อบำเพ็ญพระราชกรณียกิจทำนุบำรุงแผ่นดินได้สืบไป

ประการสาม การเปลี่ยนชื่อกลับไปใช้คำโบราณ อันเป็นคำที่เรียกมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บเงินที่ทรงค้าสำเภาได้ไว้ในถุงแดง ข้างพระแท่นที่บรรทม จึงทรงเรียกว่าพระคลังข้างที่ การกลับไปใช้คำโบราณ อันเป็นคำเก่าเฉย ๆ ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (Political regime) ได้แต่ประการใด ไม่ทราบว่าคนพวกนี้ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ กันมาได้อย่างไร

อันที่จริงร่าง พรบ. ฉบับนี้ก็ได้เขียนเหตุผลในการตรากฎหมายไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า โดยที่พระคลังข้างที่เป็นหน่วยงานที่มีภาระหน้าที่ในการจัดการดูแลพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์มาแต่โบราณกาล ซึ่งต่อมาได้มีการจัดตั้งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพื่อทำหน้าที่แทน เพื่อเป็นการสืบทอดประวัติความเป็นมาให้สอดคล้องกับโบราณราชประเพณี จึงสมควรเปลี่ยนชื่อสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เป็นสำนักงานพระคลังข้างที่ และสมควรรวมกิจการของสำนักพระราชวังเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานพระคลังข้างที่เดิมเข้ามาบริหารจัดการโดยสำนักงานพระคลังข้างที่ตามพระราชบัญญัตินี้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ประการที่สี่ การรวมกิจการของสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวังเดิม มาสังกัดสำนักงานพระคลังข้างที่ที่เปลี่ยนชื่อจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ นั้นเป็นการถูกต้องตามหลักการทางการจัดการการเงิน เพราะสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เดิม มีความชำนาญ (Specialization) ในการจัดการทรัพย์สินมากกว่า มีบุคลากรพร้อมกว่า อันน่าจะตอบโจทย์ในภารกิจที่สองของสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง (เดิม) ได้ดีมีประสิทธิภาพกว่า

นอกจากนี้ในเชิงการบัญชีและการเงิน การจ่ายเบี้ยหวัดเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นการใช้จ่ายเงินส่วนพระองค์ อันน่าจะเกิดจากผลประโยชน์งอกเงยของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่บริหารการเงินและทำบัญชีโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (เดิมอยู่แล้ว) ย่อมทำให้ลดขั้นตอนในการทำงาน ทำให้ทำงานได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องโอนเงินไปมาข้ามหน่วยงานอีกต่อไป ทำให้น่าจะตอบสนองต่อภารกิจในการจ่ายเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะน่าจะลดขั้นตอนในการโอนเงินระหว่างหน่วยงานได้

ประการที่ห้า การเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อเดิมในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงค้าสำเภาได้กำไรเป็นเงินตราต่างประเทศ เหรียญทองปีกนกเม็กซิโกเป็นจำนวนมาก แล้วทรงใส่ไว้ในถุงผ้าสีแดง ไว้ข้างพระแท่นที่บรรทม จงทรงเรียกว่าพระคลังข้างที่ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เงินถุงแดงนี้ในการกอบกู้ชาติบ้านเมืองเมื่อคราววิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 การที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะเปลี่ยนชื่อสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ไปเป็นสำนักงานพระคลังข้างที่อันเป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณ จึงมีนัยยะที่มีพระราชประสงค์ถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยอีกประการหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้จึงมิใช่การเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นการสืบทอดประวัติความเป็นมาให้สอดคล้องกับโบราณราชประเพณีแต่ประการเดียว และไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใด ๆ ทั้งสิ้นด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...