เมื่อตนเป็นที่พึ่งแห่งตน การช่วยตัวเองอาจเป็นการปลดปล่อยที่ดีที่สุด

@Racool_studio | freepix.com" data-width="1920" data-height="1080">

ความต้องการทางเพศเป็นเรื่องที่ปกติที่สุดของมนุษย์..

คนเราต้องการช่วงเวลาที่จะได้การปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศด้วยกันทั้งนั้น แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่มีคู่ คู่ไม่พร้อม หรือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ด้วยได้ ก็ไม่อาจจะกักเก็บอารมณ์ทางเพศที่พลุ่งพล่าน ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ การช่วยตัวเอง

การช่วยตัวเอง คือการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองผ่านการกระตุ้นอวัยวะเพศหรือจุดสัมผัสต่าง ๆ ในร่างกาย เพื่อปลุกอารมณ์ทางเพศ หรือเพื่อทำให้ถึงจุดสุดยอดทางเพศโดยไม่ได้จำกัดว่าจะมีเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือตัวช่วยใด ๆ ก็ได้

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องที่มักถูกเก็บงำ บางทีก็เกิดความเข้าใจผิด ๆ ส่งผลให้บางคนมีภาพของการช่วยตัวเองว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ ส่งผลกระทบกับทั้งร่างกายและจิตใจ จนถึงขั้นนำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปเลย ทั้งที่ความเข้าใจผิดเหล่านี้ไม่ใช่ความจริงสักนิด

● การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี

การช่วยตัวเองไม่ใช่ทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่เป็นเรื่องปกติของร่างกายมนุษย์ที่เมื่อมีความต้องการทางเพศ ก็ต้องมีการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ เรียกว่าเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับมนุษย์ทุกคนเลยก็ได้

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด หรือรู้สึกอาย เพราะความรู้สึกแบบนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตในอนาคต ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรืออาย แถมการช่วยตัวเองก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย นอกจากจะได้ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศแล้ว ยังเป็นเหมือนการได้รู้จักร่างกายของตัวเองด้วย ทั้งผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้จักการถึงจุดสุดยอดผ่านการช่วยตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพทางเพศ และชีวิตรักในอนาคตด้วย

● การมีคู่กับการช่วยตัวเองเป็นคนละเรื่องกัน

ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคนเราช่วยตัวเองมาตั้งแต่ก่อนจะมีแฟนหรือแต่งงานเสียอีก จะเรียกว่าของคุ้นเคยก็คงไม่ผิด ที่สำคัญมีงานวิจัยมากมายบอกว่าคนส่วนใหญ่ช่วยตัวเองกันเกือบตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กยันผู้สูงอายุบางคนยังช่วยตัวเองอยู่เลย เพราะฉะนั้นการมีแฟนกับการช่วยตัวเองมันคนละเรื่องกัน

การช่วยตัวเองไม่ได้แปลว่าการร่วมรักไม่ดีพอ หรือไม่ได้แปลว่ารักกันน้อยลง ของแบบนี้คืออารมณ์ความรู้สึก บางทีการมีคู่ซ้อมมันก็ดี แต่นาน ๆ ทีได้ลงสนามคนเดียวมันก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน

โดยเฉพาะผู้หญิงบางคน การช่วยตัวเองก็ฟินกว่า ถึงจุดสุดยอดแบบหน้ามืดตามัวได้ดีกว่าการร่วมรักกับผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะมีปัญหากับการใช้ชีวิตคู่ อย่าลืมว่าการช่วยตัวเองก็เป็นรสนิยมทางเพศประเภทหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่แปลกอะไรเลยที่อยู่ดี ๆ คู่ของเราจะบรรเลงเพลงรักด้วยตัวเองคนเดียว

● การช่วยตัวเองส่งผลต่อร่างกาย

การช่วยตัวเองไม่ได้ส่งผลอะไรต่อร่างกายทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือทำให้มีอารมณ์ทางเพศสูงกว่าปกติ สำหรับผู้ชายไม่ได้มีผลอะไรกับเชื้ออสุจิ ไม่ได้ทำให้เตี้ย ส่วนผู้หญิงการช่วยตัวเองก็ไม่ได้ทำให้เป็นสิว ไม่ได้ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่ได้ทำให้ตรงนั้นดำ หรือผอมลงแต่อย่างใด

สรุปก็คือไม่ได้ส่งผลอะไรต่อร่างกายและจิตใจทั้งนั้น ถ้าไม่ได้ช่วยตัวเองมากเกินไปจนไปกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

@innamikitas | pixabay.com" data-width="1280" data-height="800">

ช่วยตัวเองก็ไม่แปลก และไม่ช่วยตัวเองเลยก็ไม่ผิด

รสนิยมทางเพศเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ละคนมีความชอบ ความต้องการ และความปรารถนาที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศแบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกทั้งนั้น

สำหรับการช่วยตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติและปกติที่สุด ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็สามารถปลดปล่อยอารมณ์แบบนี้ออกมาได้ด้วยตัวเอง หรือจะมีตัวช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด

ในทางกลับกัน คนที่ไม่เคยช่วยตัวเองเลยก็ไม่แปลก โดยเฉพาะผู้ชายที่ร้อยทั้งร้อย ต้องเคยสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมาแล้วทั้งนั้น แต่ถ้าบังเอิญมีสักคนที่ไม่ช่วยตัวเอง แถมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาระยะหนึ่ง ก็ไม่ได้แปลว่าเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด

สำหรับผู้ชาย ปกติน้ำอสุจิสร้างภายในอัณฑะ ซึ่งเป็นถุงเก็บน้ำอสุจิ หากมีการสำเร็จความใคร่ หรือมีเพศสัมพันธ์ น้ำอสุจิจะไหลออกผ่านทางท่อนำอสุจิ และผสมกับน้ำหล่อลื่น น้ำเลี้ยงอสุจิ หลั่งออกมาเป็นน้ำกาม หากไม่มีการช่วยตัวเองนาน ๆ น้ำอสุจิที่เก็บในถุงเก็บน้ำอสุจิจะเต็มและไหลออกมาเองตามธรรมชาติ เรียกว่าฝันเปียก ฉะนั้นถึงแม้ไม่มีการช่วยตัวเอง ตามธรรมชาติของร่างกายจะมีการขับน้ำอสุจิส่วนเกินออกมาอยู่แล้ว และไม่เกิดผลเสียหายใด ๆ ต่อร่างกาย

ส่วนผู้หญิงยิ่งเป็นเรื่องปกติมากถ้าไม่เคยช่วยตัวเองเลย เพราะโดยธรรมชาติผู้หญิงไม่ได้มีอารมณ์ทางเพศมากเท่าไหร่อยู่แล้ว ยิ่งไม่มีอะไรมากระตุ้น ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องปลดปล่อย ที่สำคัญการช่วยตัวเองเป็นเรื่องของรสนิยมทางเพศ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเรื่องแบบนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้หญิงบางคนจะไม่ชอบ ไม่รู้จักและไม่เคยช่วยตัวเองเลย

@senivpetro | freepix.com" data-width="3500" data-height="2333">

มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี

การช่วยตัวเองทุกวันไม่ได้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ตราบเท่าที่การช่วยตัวเองนั้น ไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มเสพติดการช่วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการนึกถึงภาพนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีสมาธิในการทำอย่างอื่น ว่างเป็นต้องเปิดเครื่องมือ ไปจนถึงไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ แสดงว่าเริ่มมีอาการผิดปกติเข้าข่ายเสพติดการช่วยตัวเอง

อย่างที่บอกว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องปกติ แต่การเสพติดการช่วยตัวเองนั้นเป็นอีกเรื่อง เพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตในอนาคตได้ เช่น ตื่นตัวกับคนรักน้อยลง มีปัญหาเรื่องการระงับอารมณ์ทางเพศ การมีเซ็กซ์ปกติไม่สามารถเติมเต็มความต้องการได้อีกต่อไป เป็นต้น

ดังนั้น อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ย่อมไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะคนที่ทำเป็นประจำ วันละหลาย ๆ รอบ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่อวัยวะเพศ โดยผู้ชายที่ช่วยตัวเองบ่อย ๆ และใช้เวลาสั้น ๆ ในแต่ละครั้ง อาจจะทำให้อวัยวะเพศบวม และหากช่วยตัวเองหนักหน่วงรุนแรงเกินไป อาจเกิดอาการแสบหรือมีรอยช้ำที่อวัยวะเพศได้

นอกจากนี้ มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าการงดเว้นจากหนังโป๊และการช่วยตัวเองช่วยให้ร่างกายและสมองเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยร้อยละ 35 พบว่าเมื่อไม่ได้ช่วยตัวเอง 1-2 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามีพลังและแรงขับทางเพศมากขึ้น

ในด้านการใช้ชีวิตประจำวันเมื่อเว้นจากการช่วยตัวเองไป 1-2 สัปดาห์ ร้อยละ 60 พบว่าตัวเองไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศแถมรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น มีแรงมากขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร้อยละ 56 พบว่าตัวเองมีความมั่นใจที่จะคุยกับเพศตรงข้ามากขึ้น ดังนั้นแม้การช่วยตัวเองจะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องทำด้วยความถี่ที่ปกติด้วยเหมือนกัน