โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คนนินทา..หมาดูถูก

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 26 มิ.ย. เวลา 00.01 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. เวลา 00.00 น. • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นวันต่อวันโดยใช้ยอดซื้อขายของ “กองทุน “กับ “ต่างชาติ”เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญจะเห็นว่า กองทุนยังเล่นในลักษณะ “ชงเอง..กินเอง”ส่วนต่างชาติยังเล่นแบบ “ขายบน..ซื้อล่าง” ซึ่งทำให้ภาพของตลาดหุ้นไทยมีลักษณะเหมือนกับ M-Shapeและเรื่องนี้ดูได้จากต้นเดือน เม.ย. ลงมาทำโลว์ที่ 1,050 จุดขณะที่กลางเดือน พ.ค. ขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 1,130 จุด และล่าสุดพยายามขึ้นมายืนเหนือ 1,100 จุดนะจ๊ะ

เหล่านี้เป็นภาพการเคลื่อนตัวที่เด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ และถ้าเชื่อในสมมติฐานที่เกริ่นให้ฟังในตอนต้น ก็หมายความว่า ดัชนียังมีโอกาสถีบตัวขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง (ช่วงนี้เล่นเรื่องวินโดว์เดรสซิ่ง) ต่อจากนั้นอาจเป็นช่วงที่ดัชนีทิ้งตัวลงอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1,107.69 จุดบวกไป 7.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย6.26 หมื่นล้านบาท เหมาะต่อการสวมวิญญาณเป็นชาวไล่ขนาดไหนเจ้าคะ

ส่วนเรื่องสงคราม และเรื่องขัดแย้งที่ปะทุขึ้นมาเป็นรอบ ๆ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เกิดจากจอมเสี้ยมอย่างประเทศอเมริกาไปจุ้นจ้านกับประเทศอื่นมากเกินไป ส่งผลให้สถานการณ์หลายอย่างเละเทะเกินบรรยาย ส่วนปัญหาพิพาทของ “ไทย”กับ “เขมร”ก็มีแค่คนทั่วไปส่งเสียงเชียร์ให้เปิดชื่อนักการเมืองที่ไปใช้บริการฟอกเงิน แต่เชื่อเถอะว่า ฮุนเซนที่เป็นผู้นำจิตวิญญาณไม่กล้าเปิดไพ่ใบนี้ และทำได้แค่เห่าไปวัน ๆ เพื่อเรียกคะแนนนิยม..อิอิอิ

ในขณะเดียวกันจะเห็นว่า นักการเมืองไทยต่างอยู่ในภาวะหุบปากเงียบ พร้อมกับส่งเสียง แบะ..แบะ..เบะ กันเป็นแถว ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “รวมไทยสร้างปัญหา”ก็ออกมาจวกแทงกันเองอย่างหนักหน่วง ซึ่งทำให้คนทั่วไปสะอิดสะเอียนการเมืองไทยมากขึ้น ผนวกกับมีเรื่องใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.50 แสนล้านบาทไปกับเรื่องน้ำเป็นส่วนใหญ่แบบนี้..กระตุ้นได้จริงเหรอ?เพราะคนในแวดวงการเมืองรู้ได้ทันทีว่า นี่คือการเปิดหัวจ่ายให้กับหัวคะแนนนะซี

ทั้งหมดเหล่านี้เป็นภาพที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกไม่สบายใจเหลือเกิน เพราะคนในวงการตลาดหุ้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขืนลากกันไปเรื่อย ๆ ก็มีแต่ทรุดกับทรุด แถมนโยบายที่เข็นออกมาก็ไม่เห็นจะช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางเล็กมีความคล่องตัวกว่าเดิม จึงสงสัยว่า เราจะไปต่ออย่างไร? และเรื่องทั้งหมดก็ได้รับคำเฉลยจากปากของ “จักรภพ”ที่ออกมาพูดแทนนายใหญ่อย่างฉะฉานว่า หากประกาศยุบสภาในตอนนี้ เพื่อไทยแพ้อย่างแน่นอน..พวกหญ้าหวานเจ็บจี๊ดไหมคะ

เม้าท์ถึงเรื่องเจ็บกระดองใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูสถานการณ์ของหุ้น KTC หลังมีกองทุนเข้ามาช่วยอุ้มหุ้น ก็ทำให้ทุกอย่างพลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ระดับ 26.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.50 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนของหุ้นบันเทิงเริงรำอย่าง BEC กลับโดนกระทำชำเราอย่างหนักตลอดทั้งวัน จนหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1.83 บาท ลบไป 0.79 บาท หรือลงไป 30%ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.23 พันล้านบาท ถือเป็นการส่งท้ายที่เจ็บปวดสำหรับแมงเม่า เพราะหุ้นที่เอาไปตึ๊งมีมากถึง 320 ล้านหุ้น และหุ้นที่ถูกถล่มขายวานนี้ ดันมียอดหุ้นที่เทรดสูงถึง 650 ล้านหุ้นเจ้าค่ะ

ตบท้ายกันที่ควันหลงของหุ้น KAMART เพื่อให้เข้ากับเรื่องตึ๊งหุ้นสักหน่อย เพราะรายนี้มีหุ้นที่เอาไปวางประมาณ 83 ล้านหุ้นซึ่งคิดเป็น 6.47% ของหุ้นทั้งหมดแบบนี้ มันก่อให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่า การประกาศซื้อหุ้นคืนโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนหน้านี้ (แจ้งผ่านกลุ่มไลน์เฉยเลย) อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความกังวลว่า หุ้นจะโดนฟอร์ซเซล?จึงต้องออกมาแก้เกมก่อนจะเกิดปัญหาอะป่าว?..แมงลือเขาเม้าท์กันอย่างนี้จ้า!

โมนิก้าและทีมงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...