ไฮไลต์
- เปิดการทำงานเบื้องหลังของ 'แพทริค คุณ' นักมายากลคนไทยที่ไปสร้างผลงานในเวทีระดับโลกอย่าง America's Got Talent ที่ไม่ได้อาศัยเวทมนตร์ แต่มีขั้นตอนการทำงานที่ละเอียดอ่อนและใช้ประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานเกือบ ๆ 20 ปี เบื้องหลังโชว์หนึ่งโชว์ที่มีความยาวแค่ 5 นาที อาจะใช้เวลาเตรียมงานเป็นหลายเดือน
- การเป็นนักมายากลไม่ได้ใช้แค่สกิลบนเวที แต่มีทักษะรอบด้านที่ต้องทำให้เป็น ทั้งด้านงานครีเอทีฟ งานตัดต่อ งานดีไซน์ ไปจนถึงทักษะในการทำการตลาด
- ความวิเศษของมายากลคือมันสามารถมอบความสุขและเรียกความรู้สึกตื่นตาตื่นใจในวัยเด็กกลับมาโดยที่สิ่งของอย่างอื่นไม่สามารถทำแทนให้ได้ และในเวลาเดียวกัน มายากลในฐานะอาชีพที่สร้างรายได้ก็ไม่ได้ทำให้นักมายากลรู้สึกเบื่อที่จะต้องลงมือทำงาน พวกเขากลับรู้สึกเหมือนได้อยู่กับสิ่งที่รักและสร้างอาชีพจากสิ่งนั้นได้มากกว่า
- โหวตให้กับ แพทริค คุณ เพื่อส่งให้เขาเข้าสู่การแข่งขันรอบต่อไป คลิกที่นี่!
ว่ากันว่าอวัยวะที่ 33 ของคนในยุคนี้คือโทรศัพท์มือถือ แต่สำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว เขาจะปรากฏตัวพร้อมกับไพ่หนึ่งสำรับและมักจะเป็นไพ่ที่มีหน้าตาเก๋ ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครอยู่เสมอ
แพทริค คุณ คือนักมายากลมืออาชีพที่อยู่ในสายงานนี้มาเกือบ 20 ปี ภายในวงการนักมายากลด้วยกันเอง ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขาและฝีมือของแพทก็เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เริ่มต้นเล่นและศึกษามายากลตั้งแต่เด็ก แพทริคหลงใหลในศาสตร์เฉพาะตัวนี้มาก ๆ โดยที่ความรัก ความทุ่มเท และแพสชั่นได้พาเขาไปสู่การทำงานกับนักมายากลชื่อดังระดับโลกหลาย ๆ คน เช่น เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ หรือเซริล ทาคายามะ และในที่สุดก็ผันตัวมาเป็นนักมายากลภายใต้ชื่อของตัวเอง
หลายคนอาจเคยได้เห็นฝีมือของเขาผ่านรายการต่าง ๆ ในประเทศไทย และล่าสุดผลงานของแพทริคก็เป็นที่ประจักษ์ในเวทีโลกเมื่อเขาได้เดินขึ้นไป แสดงกล Time Traveling หรือการเดินทางย้อนเวลาบนเวที America's Got Talent และได้รับการโหวตให้ผ่านเข้ารอบถัดไปโดยทั้งสี่กรรมการ วันนี้ LINE TODAY ได้มานั่งคุยกับเขาอีกครั้ง และในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปเปิดโลกการทำงานเบื้องหลังของนักมายากลชื่อดังผู้นี้กัน
นักมายากลไม่ใช่ผู้วิเศษ
คำถามแรกที่เราสงสัยเกี่ยวกับการเดินบนเส้นทางอาชีพ ‘นักมายากล’ ก็คืออาชีพนี้จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์มากเท่าใด หรือการที่จะมาเป็นนักมายากลได้จะต้องมีเวทมนตร์พิเศษอะไรไหม ซึ่งแพทริคก็คอนเฟิร์มกับเราว่าจริง ๆ แล้วนักมายากลก็เหมือนกับอาชีพอื่น ๆ ที่ต้องสั่งสมประสบการณ์ที่รอบด้านและผ่านกระบวนการฝึกฝนอย่างจริงจังและยาวนาน
“ถ้าเปรียบเทียบกับศิลปิน บางคนอาจจะเห็นว่าพวกเขาออกมาโชว์แค่ 5 นาทีเอง ร้องเพลงง่าย ๆ แต่จริง ๆ เบื้องหลังมันมีการเทรนที่จริงจังที่หลาย ๆ คนไม่ได้เห็น อาชีพนักมายากลก็เหมือนกัน หลาย ๆ คนสกิปสเต็ปไปมองที่ผลงานเราเลยว่าเขาทำแล้วดูง่ายจัง แต่ที่เขาไม่เห็นคือเบื้องหลัง เวลา 18-19 ปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ ที่เราฝึกซ้อมวันนึงเป็น 5-6 ชั่วโมง บางวัน 10 ชั่วโมง เล่นจนมือด้าน นิ้วล็อก (หัวเราะ) ซึ่งแพทคิดว่าถ้าคนเราชอบอะไรจริง ๆ และฝึกฝนมันก็ทำได้ มายากลก็เหมือนกัน”
หนึ่งอาชีพ กับร้อยทักษะที่ต้องมี
“เราต้องฝึกวิธีการพูด ต้องสวมบทเป็นพ่อมด รู้วิธีการดึงดูดความสนใจของคน ต้องอ่านคนออกว่าคนนี้เขามาแนวไหนและเราต้องรับมือกับคนดูประเภทนี้ยังไง ต้องมีหลักทางจิตวิทยา มีความไวฝีมือด้วย มีหลายองค์ประกอบมาก ๆ ที่จะทำให้โชว์มายากลหนึ่งสมบูรณ์ คล้าย ๆ กับว่าเราสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ พาคนดูไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่งและต้องทำให้เขาเชื่อให้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ว่ามันเป็นจริง”
ไม่ใช่แค่การแสดงหน้าฉากเพียงเท่านั้นแต่เบื้องหลังกว่าจะมาเป็นโชว์ ๆ หนึ่งที่มอบความสุขและความบันเทิงให้กับผู้คน มีขั้นตอนและกระบวนการที่พิถีพิถันมาก ๆ และนักมายากลหนึ่งคนจะต้องทำได้ในหลากหลายหน้าที่เพื่อประกอบร่างโชว์ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบ
“มันมีเรื่องของงานด้านครีเอทีฟเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมายากลเป็นอะไรที่มีความลับที่เกิดขึ้นเบื้องหลังค่อนข้างเยอะ และมันไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะฉะนั้นในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนหรืออยู่ในอาชีพนี้นานขนาดไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วคุณจะต้องลงมือควบคุมทุกอย่างเองตั้งแต่ต้นจนจบเพราะไม่มีใครสามารถทำแทนตัวเราเองได้ เริ่มตั้งแต่การเป็นครีเอทีฟนำเสนอไอเดีย เป็นนักแสดงในตัว ก่อนจะถ่ายก็ต้องกำกับมุมกล้องด้วยแบบ เอ๊ย มุมนี้มันสูงไปไม่ดี ต้องแพนเข้ามาแบบนี้ คุมช่างกล้อง คุมการตัดต่ออีก รวมไปถึงการทำ Marketing ฝึกทำเว็บไซต์ การสร้างโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ อีกมากมาย การฝึกมายากลเลยเป็นเหมือนการฝึกสกิลทุกอย่างพวกนี้ของหลาย ๆ อาชีพรวมเข้าด้วยกันในคน ๆ เดียว”
"ความโชคดีอย่างหนึ่งของเราที่อยู่ใน Generation นี้ก็คือลูกค้าเดินเข้ามาหาเราเองผ่านการที่ได้เห็นผลงานทางโซเชียลมีเดีย งานทุกชิ้นที่เราทำเราไม่เคยต้องเดินเข้าไปขอใคร ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อน นักมายากลคงต้องทำนามบัตร แจกนามบัตรตามเวลาที่ไปแสดงตามงานต่าง ๆ ด้วยความหวังว่าว่าที่ลูกค้าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนตามสถานที่พวกนั้น แต่ปัจจุบันทุกอย่างออนไลน์ การโพสต์ผลงานบนโซเชียลมีเดียก็เลยค่อนข้างจะสำคัญที่ทำให้เราถูกค้นพบได้ง่ายมากขึ้น"
“เอาจริง ๆ นะ นักมายากลส่วนใหญ่คือเนิร์ด”
สิ่งหนึ่งที่เติมเต็มชีวิตของนักมายากลก็คือการมีเพื่อนร่วมวงการที่คอยซัพพอร์ตกันและกัน ซึ่งพอถามถึงบรรยากาศของเวลาที่นักมายากลหลาย ๆ คนมาเจอกันเป็นอย่างไรนั้น แพทริคบอกกับเราว่าเหมือนจับเอาคนเนิร์ด ๆ ที่คลั่งอะไรสักอย่างเหมือน ๆ กันมาอยู่ด้วยกัน
“อย่างล่าสุด แพทได้มีโอกาสไปงาน Convention ที่อังกฤษมา ในงานนี้มีนักมายากลจากทั่วโลกมารวมกัน 5,000 คน ซึ่งถ้าเป็นคนทั่ว ๆ ไปหลุดเข้าไปในงานคงคิดว่าไอ้คนพวกนี้มันประหลาดจริง ๆ มันคงไม่มีใครที่อยู่ดี ๆ จะลุกขึ้นมาศึกษาอะไรพวกนี้ ยกเว้นแต่ว่าเขาชอบและอยากที่จะเล่นมันให้ได้จริง ๆ นักมายากลส่วนใหญ่เลยเป็นพวกที่เนิร์ดเพราะมายากลคืออะไรที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ
เวลาเจอกัน เราก็จะแชร์ไอเดียกัน เราอาจจะคิดทริคใหม่ ๆ แล้วเพื่อนก็จะช่วยกันคอมเมนต์ว่าทำยังไงให้มันเจ๋งขึ้น ซึ่งความสนุกอย่างหนึ่งของนักมายากลเวลาที่อยู่ด้วยกันก็คือการได้คิดอะไรใหม่ ๆ ที่หลอกนักมายากลด้วยกันเอง ซึ่งถ้าทำได้มันเป็นเหมือนสเต็ปเทพเลย”
เวที America’s Got Talent กับโชว์มายากล 5 นาที และการเตรียมงานอีกหลายเดือน
หนึ่งในผลงานโบว์แดงชิ้นล่าสุดของแพทริคในฐานะนักมายากลก็คือการได้ผ่านเข้ารอบออดิชั่นของรายการ America’s Got Talent เรียลลิตี้โชว์ยักษ์ใหญ่ในอเมริกาที่ออนแอร์ไปทั่วโลก ซึ่งกว่าจะมาเป็นโชว์ความยาว 5 นาทีที่เขาได้แสดงให้กับกรรมการทั้งสี่ในรายการตัดสิน มีขั้นตอนเตรียมตัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นเวลาหลายเดือน
“เริ่มต้นจากการ Pitching หรือการขายไอเดียของกลที่เราอยากจะหยิบไปโชว์ในรายการ ความท้าทายคือรายการนี้ออนแอร์มาแล้ว 16 ซีซั่น เราก็ต้องไปศึกษามาว่ามีอะไรที่ยังไม่เคยถูกหยิบมาแสดงบ้างแล้วคิดไอเดียแปลกใหม่ขึ้นมา และต้องเป็นไอเดียที่มีวิธีทำได้จริง
เสร็จแล้วก็เขียนสคริปต์ ทำวีดีโอม็อกอัป โดยเฉพาะถ้าเป็นกลใหม่จะต้องทดลองหลาย ๆ ครั้งเลยว่าขึ้นกล้องได้ไหม เล่นแล้วคนที่อยู่ตรงนั้นจะเห็นภาพเป็นยังไง แล้วก็ซ้อมเหมือนจริง กว่าจะได้ที่เห็นในรายการ เราใช้เวลาไปประมาณ 2 เดือน”
ไม่ใช่แค่การเตรียมงานที่ชวนให้เครียด แต่หนทางสู่เวที America’s Got Talent ยังรวมไปถึงการเดินทางเกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ ข้ามทวีป การ Swab จมูกเพื่อตรวจโควิดนับครั้งไม่ถ้วน และเรื่องที่ชวนให้ลุ้นในทุก ๆ ก้าว
"วันที่ไปถ่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ซึ่งเวลาส่วนใหญ่คือการรอให้เขาเรียกเราขึ้นเวทีไปเล่น ยิ่งนานเราก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กังวล ในใจตอนนั้นคืออยากจะเล่นให้มันจบ ๆ ไป แต่การที่เราจะได้แสดงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผลการตรวจโควิดหน้างานอีกด้วย ถ้าผลตรวจออกมาเป็นบวกก็คือกลับบ้านเลย เป็นสิ่งที่เรากลัวมาก ๆ คือการติดโควิดระหว่างทาง ก่อนหน้าที่จะถึงวันออดิชั่นเราระวังกับทุกอย่างมาก ๆ ล้างมือวันละหลาย ๆ รอบ พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุด
เราตรวจตอน 7 โมงเช้า รู้ผลตอน 5 โมงเย็นว่า โอเค เซฟนะ ก็เตรียมตัวให้พร้อมรอเรียกคิว จังหวะที่เราติดไมโครโฟนพร้อม กำลังจะก้าวขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงแล้ว โปรดิวเซอร์รายการดันได้รับสายโทรศัพท์แล้วเบรกเราเอาไว้ ปรากฏว่ามีความขัดข้องหน้างานเล็กน้อย เขาเลยบอกให้เรากลับมาใหม่อีกครั้งในวันต่อไป ในใจตอนนั้นคือเรารอมาเกิน 12 ชั่วโมงแล้ว อยากจะแสดงเต็มที่ แต่ก็ต้องกลับบ้านไปก่อน แล้วกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง"
ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนอยู่ในความฝัน
ผ่านความขรุขระมาเล็กน้อยในวันแรก แต่เมื่อถึงวันออดิชั่นจริงและโมเมนต์ที่อยู่บนเวทีต่อหน้ากรรมการทั้งสี่จริง ๆ แพทริคบอกว่าความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
"มันลอย ๆ มันวื้ง ๆๆ อยู่ในหู เหมือนเราพูดกับเขา คุยกับเขา แต่เราเองก็ไม่แน่ใจว่าโมเมนต์นี้คือความจริงหรือเปล่า มันลอย ๆ แปลก ๆ และ Surreal มาก ๆ มีเรื่องตลกที่เกิดขึ้นก็คือพอเราตื่นเต้นแล้วปากจะแห้ง เวลายิ้มทีริมฝีปากก็ชอบไปติดกับเหงือกข้างบน จะต้องคอยทำให้ตัวเองดูปกติที่สุด (หัวเราะ)
พอเล่นจบ ทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ยังงง ๆ นะ คงเป็นเพราะเรารอโมเมนต์นี้ในชีวิตมานาน และมันกลายเป็นหนึ่งในความฝันที่เกิดขึ้นจริงกับเราด้วย"
อยากให้คนไทยได้มีโอกาสเห็นมายากลมากขึ้น
ถามถึงความฝันและก้าวต่อไปของแพทริค คุณ เขาบอกว่าอยากจะสร้างโรงเรียนที่ถ่ายทอดประสบการณ์ด้านมายากลของตัวเองเล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อให้คนที่สนใจศาสตร์ด้านนี้สามารถมาศึกษาได้อย่างจริงจัง
"ยิ่งมายากลเป็นที่นิยมในทุกที่ แพทก็อยากเห็นวงการมายากลไทยเติบโต เราอาจจะยังไม่ค่อยมีแหล่งข้อมูล หรือมีตัวอย่าง ตัวแพทเองเลยอยากจะเป็นแบบอย่างที่ทำให้มายากล Popular ให้ได้ อยากทำให้ลูกค้าได้มองเห็นว่ามายากลก็เป็นอีกช่องทางนึงที่เราสามารถเอนเตอร์เทนคนได้ ช่วยรักษาจิตใจ สร้างความสุขให้กับคนได้ สามารถโฆษณาได้ เป็นส่วนหนึ่งในหนังได้ จริง ๆ แล้วมายากลอยู่ในทุกอย่างได้หมด แต่คนเรายังไม่รู้ว่ามันมีออปชั่นนั้นอยู่"
ขอบคุณมายากลที่ทำให้ความรู้สึกตอนเด็ก ๆ ยังคงอยู่
"ถึงจะอยู่กับมายากลมาเกือบ ๆ 20 ปีแล้ว เราไม่เคยรู้สึกเบื่อมันเลย ทุกวันนี้ก็ยังคงตื่นเต้นที่จะได้คิดไอเดียใหม่ ๆ และตื่นตาตื่นใจเวลาได้เห็นงานเจ๋ง ๆ ของคนอื่น ทุกวันตื่นเช้ามาเราจะต้องเข้าไปเช็ก YouTube แล้วว่ามีใครโพสต์กลใหม่ ๆ มาหรือเปล่า เวลาต้องทำงาน มันก็เลยไม่ได้รู้สึกเหมือนการทำงานแต่เป็นการอยู่กับสิ่งที่เรามีความสุข ทำให้เรามีมุมมองความคิดใหม่ ๆ ทุกอย่างมีเหตุผล ทุกอย่างมีวิธีทำ เพราะการเล่นมายากลก็คือการสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เห็นเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นการที่เราเล่นมายากลจะทำให้เราเห็นอีกหนึ่งมุมมองของสิ่งรอบ ๆ ตัว
ความพิเศษของมายากลคือเราสามารถสร้างสิ่งที่วิเศษขึ้นมาได้ด้วยตัวเรา มันคือของขวัญที่สิ่งของอย่างอื่นมอบให้กับคนไม่ได้ที่จะดึงความรู้สึกตื่นเต้นตอนเด็ก ๆ กลับมาเหมือนตอนที่เราได้รับของเล่นชิ้นใหม่ และอีกอย่างคือมายากลไม่มีการแบ่งแยก เป็นภาษาสากลที่ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน ผู้ใหญ่หรือเด็ก คนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา หรือแม้แต่สัตว์ก็สามารถเข้าใจได้เหมือน ๆ กัน และเราก็มอบความสุขให้พวกเขาได้อย่างเท่าเทียม มันคือความรู้สึกที่อะไรอย่างอื่นก็ทดแทนไม่ได้"
ติดตามอัปเดตล่าสุดและร่วมเป็นกำลังใจให้กับ แพทริค คุณ ได้ที่อินสตาแกรม @patrickkun, เฟซบุคเพจ Patrick Kun และชมคอนเทนต์มายากลทั้งหมดได้ที่ YouTubePatrick Kun