โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โง่บ้างก็ไม่ตาย..3 ความจริงที่ทำให้เราต้องยอมโง่ เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 15 พ.ย. 2563 เวลา 17.49 น. • เพื่อนตุ้ม

ในโลกนี้คงไม่มีใครอยากดูโง่ในสายตาคนอื่น ทุกคนอยากดูเก่ง ดูฉลาดด้วยกันทั้งนั้น แต่รู้ไหม..ความโง่ก็มีข้อดีของมัน และบางครั้งการยอมโง่ในบางเรื่องก็ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น

แน่นอนว่าคำว่า “โง่” ดูเป็นการตัดสินสติปัญญา เป็นคำดูถูก ดูแคลนที่ไม่มีใครควรใช้กับใครทั้งนั้น แต่บางครั้งเราก็ต้องยอมโง่ ยอมรับว่าไม่รู้จริง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ ยิ่งเป็น 3 เรื่องต่อไปนี้ เรายิ่งต้องยอมโง่ เพราะถ้าไม่เคยโง่ ไม่เคยไม่รู้มาก่อน ก็ยากที่จะเปิดใจรับอะไรได้จริง ๆ

ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง

ไม่มีใครอยากดูโง่ในสายตาคนอื่น แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ไม่รู้บ้างก็ได้ แกล้งไม่รู้บ้างก็ได้ ความโง่ไม่ได้ฆ่าใคร การยอมโง่ก็ไม่ได้ทำให้ใครตาย คนเราต้องรู้จักโง่และฉลาดให้ถูกเรื่อง บางครั้งไม่รู้บ้าง โง่บ้าง งงบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะการอยากรู้ไปหมดทุกเรื่องอาจทำให้เจ็บปวด เสียใจ และท้อแท้มากกว่าที่เดิมก็ได้

โลกนี้มีความสมดุลในแบบที่หลายคนนึกไม่ถึง มีโง่ มีฉลาด มีคนยอมโง่แล้วก็มีคนอวดฉลาด ทุกอย่างมีสมดุลในตัวของมันเอง เรื่องบางเรื่อง ถ้ารู้แล้วมีแต่ทุกข์ใจ ก็ยอมโง่ไม่รู้เลยดีกว่า หรือถ้ารู้แค่บางเรื่องแล้วจะอยู่ง่าย คิดง่ายและสบายกว่าเดิมก็ขอเป็นคนโง่ไม่ต้องรู้สักเรื่องคงใช้ชีวิตได้ง่ายกว่า

ยังไงซะต่อให้อยากรู้แค่ไหน ต้องรู้ให้ได้มากแค่ไหน แต่ข้อจำกัดต่าง ๆ ก็ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้หมดทุกเรื่องอยู่ดี เพราะฉะนั้นยอมรับซะว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ยอมรับซะว่าโง่บ้าง งงบ้างก็ไม่แปลกอะไร

ไม่รู้ก็คือไม่รู้

โดยธรรมชาติแล้ว เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโง่เขลากันได้ทั้งนั้น ต่อให้เป็นปราชญ์ เป็นอัจฉริยะ หรือต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะรู้ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นถ้าไม่รู้ก็จงยอมรับว่าไม่รู้ ยอมโง่ ยอมไม่รู้ในวันนี้เพื่อเปิดใจให้ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่

คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ กลัวว่าถ้าไม่รู้แล้วจะดูโง่ ดูแปลกในสายตาคนอื่น แต่หารู้ไม่ว่า..การยอมโง่แค่เพียงครั้งเดียวนำไปสู่การเรียนรู้ได้อีกนับไม่ถ้วน

อย่าลืมว่าคนเราจะพัฒนาได้ก็ต้องทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว รู้จักยอมรับความโง่เขลาของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา รู้จักยอมรับความผิดพลาดของตัวเองอย่างเข็มแข็ง ถ้าไม่รู้ก็แค่บอกว่าไม่รู้ ถ้าทำไม่เป็น ก็แค่บอกว่าทำไม่เป็น เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งนั้นในแบบที่ถูกต้องจากคนที่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ

ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมองว่าโง่ เอาจริง ๆ ไม่มีใครคิดว่าคนไม่รู้แล้วยอมรับว่าตัวเองไม่รู้คือคนโง่ คนส่วนใหญ่พร้อมจะช่วยเหลือเสียด้วยซ้ำ แค่ยอมรับความจริงแล้วพูดออกไปตรง ๆ ความไม่รู้ก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้ได้เอง แต่ถ้าไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ ยังไงซะก็ไม่มีวันรู้

เรื่องแบบนี้อาจทำใจยอมรับยากหน่อย แต่การเผชิญหน้ากับความจริงคือสิ่งที่ถูกต้อง ไม่รู้ก็คือไม่รู้ คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง ต่อให้เรียนเก่งทุกวิชา เป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารก็ต้องมีบางเรื่องที่ไม่รู้ ดังนั้นการบอกว่าตัวเองไม่รู้แล้วถามคนที่รู้จึงเป็นเรื่องปกติ แม้คนที่รู้จะอายุน้อยกว่า ประสบการณ์น้อยกว่าหรืออะไรก็ตาม การถามหรือขอความรู้ไม่ได้ทำให้เราดูโง่หรือดูไม่ดีอะไรเลย

รู้ไม่จริงก็อย่าทำเป็นรู้

หลายคนต้องเคยสัมผัสกับคนประเภทนี้ คนที่มีนิสัยแปลก ๆ อยู่อย่างคือไม่รู้แล้วทำเหมือนรู้ทุกอย่าง อวดภูมิว่าตัวเองรู้ไปซะทุกเรื่อง ทั้ง ๆ ที่รู้ไม่จริง รู้ไม่รอบด้าน แต่ก็ยังทำตัวเป็นคนอวดรู้ อวดฉลาดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง ใครมาบอก มาเปลี่ยนความเข้าใจเป็นไม่ได้ ต้องไม่ยอม เพราะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองรู้ถูกต้องที่สุด

คนแบบนี้น่ากลัวกว่าคนไม่รู้แล้วปิดปากเงียบเสียอีก เพราะคนไม่รู้แล้วเงียบจะไม่นำความเดือดร้อนไปให้ใคร นอกจากตัวเอง แต่คนรู้ไม่จริงแล้วอวดทำเป็นรู้ มักจะเอาความที่รู้มาผิด ๆ ส่งต่อไปให้คนอื่นพร้อมความเชื่ออย่างหนักแน่นว่าสิ่งที่รู้มานั้นถูกต้อง ใครจะเปลี่ยนความคิดไม่ได้เด็ดขาดจนอาจทำให้ทั้งตัวเองและคนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว

ที่น่าแปลกก็คือคนรู้ไม่จริงมักชอบทำตัวอวดรู้ เอาความเชื่อผสมกับสิ่งที่ได้ยินมาบวกกับจินตนาการอีกเล็กน้อย อวดตัวเองว่ารู้ไปหมดทุกเรื่อง พูดได้ อ้างอิงได้ว่าข้อมูลมาจากไหน แถมดูน่าเชื่อถือเสียด้วย

คนประเภทนี้มักไม่ค่อยรู้ตัวเอง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองรู้มานั้นไม่จริง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในโลกโซเชียลเรานี่แหละ มีเรื่องที่รู้ไม่จริงวนเวียนอยู่ในโลกเสมือนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ใครก็สามารถตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญกันได้ง่าย ๆ แถมยังส่งต่อความรู้ไม่จริงนี้ไปยังคนในโลกโซเชียลได้อีกเป็นจำนวนมากอีกต่างหาก คนให้ก็เอาเรื่องที่รู้ไม่จริงส่งมา ส่วนคนรับก็เชื่อโดยไม่กลั่นกรอง ไม่ตรวจสอบ ผลที่ได้ก็คือข่าวเท็จ ข่าวไม่จริงวนเวียนอยู่เต็มโลกโซเชียลไปหมด

ทีนี้พอจะมาค้นหาว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรจริง อะไรไม่จริง ข้อมูลก็ปะปนกันมั่วซั่วจนแยกไม่ออกว่าเชื่อถือได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้คือผลกระทบที่เกิดจากคนรู้ไม่จริงแล้วอวดรู้ด้วยการส่งต่อเรื่องที่ไม่จริงไปเรื่อย ๆ ทำให้ข้อมูลผิดพลาดไม่น่าเชื่อถือลอยล่องอยู่ในโลกโซเชียลมากมายมหาศาล

อย่างที่บอกว่าคนอวดรู้มักไม่ค่อยรู้ตัวเอง แต่คนอื่นมักจะรับรู้ได้ถึงพฤติกรรมของคนอวดรู้ เพราะสิ่งที่คนเหล่านี้ทำเป็นประจำจนกลายเป็นความเคยชินก็คือ การชอบตำหนิ กดขี่ และดูถูกคนอื่น ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำก็ตาม เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่บ้าง คุณอาจทำตัวอวดรู้อยู่ก็ได้

อันที่จริงก็ไม่แปลกถ้าคนเราจะยอมโง่ดูบ้าง

โง่…ที่ไม่รู้ทุกเรื่อง

โง่…ที่ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้

หรือโง่..ที่รู้ไม่จริงก็เลยไม่แสดงออกมา

เพราะการยอมโง่แล้วใช้ชีวิตง่ายขึ้น คงดีกว่าฉลาดแต่ใช้ชีวิตไม่เป็น~

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 77

  • ใช้กับปากล้วนๆเลยคอลัมน์นี้
    30 ส.ค. 2565 เวลา 23.57 น.
  • กิตติ สุพรรณรัตน์
    บางครั้งต้องศึกษาด้วยว่า"เขาจะแกล้งโง่ไปทุกเรื่องหรือเปล่า" ถ้าเขาแกล้งโง่กับเราเองด้วยเขาทำๆไหม! เขาจึงแกล้งโง่กับเราเขาต้องการอะไรจากเราด้วยหรือเปล่า
    29 ส.ค. 2565 เวลา 01.49 น.
  • Pui k.
    อ่านจบ เย็น เบาสบาย เข้าใจโลกมากขึ้น ขอบคุณนะคะ
    22 พ.ย. 2563 เวลา 10.30 น.
  • บทความดูดีมาก ทุกอย่างมันมีสองคมสองด้านทั้งนั้น สำคัญคือคุณจะสื่ออะไรในเวลานี้?????
    22 พ.ย. 2563 เวลา 10.11 น.
  • jinnie jinnie
    โง่ได้แต่ต้องยืนบนศักดิ์ศรี
    22 พ.ย. 2563 เวลา 09.55 น.
ดูทั้งหมด