โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พาชมประวัติเมือง 'พาราณสี' มนต์เสน่ห์แห่งแดนพุทธภูมิ

แนวหน้า

เผยแพร่ 26 ก.พ. เวลา 17.00 น.

“พาราณสี” ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของประเทศอินเดีย และเป็นสัญลักษณ์แห่งวิถีชีวิตของชาวอินเดีย ผ่านแม่น้ำคงคาที่ทอดยาวให้แก่ผู้คนนานกว่า 4,000 ปี ทำให้ผู้มาแสวงบุญยังแดนพุทธภูมิจะต้องมาเยือนแม่น้ำคงคาที่ทอดยาวให้เห็นวิถีชีวิตอันงดงามของชาวอินเดีย ซึ่งผูกพันกับแม่น้ำคงคามาอย่างยาวนาน

ในหนังสือ มือค้นปนปากพูด ตอน หอมกลิ่นพาราณสี โดย “พระธรรมโพธิวงศ์”(วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) หรือ สมณศักดิ์ในปัจจุบันคือ "พระราชรัตนรังษี" เจ้าอาวาส วัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมฑูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล ได้เขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า ประวัติที่ยาวนานนับ 4,000 ปี ของเมืองพาราณสียังไม่เสื่อมทรุดบุบสลาย คงมีชื่อเป็นอมตะ มีชีวิตชีวาอยู่ยงคงที่ ด้วยมีวัฒนธรรมประเพณีที่เข้มแข็งเป็นแบบฉบับของตัวเอง แม้ว่าเมื่อปี พ.ศ.1692 จะเป็นยุคที่มุสลิมของสุลต่านเดลี ได้แผ่แสนยานุภาพรุกรานครอบงำเมืองพาราณสี และได้ทำลายเทวสถานซึ่งเป็นฐานแห่งความเชื่อของชาวเมืองพาราณสีลงเป็นอันมาก ด้วยเหตุผลทางด้านการเมือง ที่พยายามทำลายโครงสร้างทางสังคม ซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงได้เปลี่ยนชื่อจากเมืองพาราณสีมาเป็น มุฮัมหมัดดาบาด แต่กระนั้นก็ไม่สำเร็จ เมืองนี้ยังคงถูกเรียกขานว่า เมืองพาราณสี หลังหมดยุคมุสลิมเรืองอำนาจ ได้เข้าถึงยุคการล่าอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งได้แผ่แสนยานุภาพเข้ามาทางอินเดียตะวันตกและอินเดียทางเหนือ ส่วนอังกฤษที่พร้อมด้วยกำลังทหารและสรรพาวุธเข้ายึดครองพาราณสีได้สำเร็จในปี พ.ศ.2318

เรื่องราวของเมืองพาราณสียังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะแม้ว่าในยุคนั้น อังกฤษจะอยู่ในฐานะผู้ปกครอง แต่ด้วยความที่เมืองพาราณสีมีความเข้มแข็งทางด้านวัฒนธรรม จึงทำให้อังกฤษประสบปัญหาในเชิงบริหาร จึงพยายามเปลี่ยนชื่อเมืองเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่มุสลิมได้เคยพยายามจะเปลี่ยนชื่อให้เมืองนี้ใหม่ โดยถูกเรียกว่า เบนารัส (Banaras)

ในหนังสือยังระบุด้วยว่า แม้จะถูกเปลี่ยนชื่อใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ชาวเมืองยังคงเรียกชื่อที่คุ้นหู และ ติดปากว่า "พาราณสี" จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2490 อินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ พร้อมกับความเป็นไทของเมืองพาราณสีอีกครั้งหนึ่ง และสภาพสังคมของเมืองพาราณสียังเป็นเมืองป้อมปราการที่แข็งแกร่งของศาสนาฮินดู เป็นเมืองที่คงความเป็นอินเดียไว้มากที่สุด ทั้งความเชื่อ ประเพณี วิถีชีวิตและศรัทธาในศาสนา ปรัชญา

ปัจจุบันเมืองพาราณสีเป็นอำเภอหนึ่งของรัฐอุตตรประเทศ มีเมืองหลวงคือ เมืองลักเนาว์ โดยอยู่ห่างจากนครนิวเดลี 764 กิโลเมตร และ ห่างจากเมืองกัลกัตตา 677 กิโลเมตร รวมทั้งอยู่ห่างจากเมืองมุมไบ 1,476 กิโลเมตร และเมืองพาราณสียังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่เป็นอันดับสามของโลก คือ มหาวิทยาลัยเบนารัส ฮินดู (Hindu Banaras University) ซึ่งก่อตั้งโดย บัณฑิต มะดัน โมฮัน มาลาวิยะ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อศึกษาและอนุรักษ์วัฒนธรรมของอินเดียรวมทั้งเมืองพาราณสี

เมื่อได้มีโอกาสลงไปสัมผัสกับเมืองพาราณสี โดยได้รับความเมตตาของ "พระครูธีรธรรมปราโมทย์" (หลวงพ่อสำเริง สุวรรณละม้าย) เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และ ในฐานะประธาน"โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา"ได้นำพาสื่อมวลชนทำสารคดีใน 4 สังเวชนียสถาน เพื่อบอกเล่าเรื่องในดินแดนพุทธภูมิ ทำให้คณะสื่อมวลชนก็ได้มีโอกาสมาเยือนเมืองพาราณสี สัมผัสกับแม่น้ำคงคาอันเป็นสายน้ำแห่งศรัทธาของศาสนาพราหมณ์ที่สีต่อมีคัมภีร์พระเวท และความศรัทธาในเทพเจ้าของผู้นับถือศาสนาฮินดู

ชนชั้นจันฑาลก็ยังปรากฎให้เราได้พบเห็นริมแม่น้ำคงคาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอินเดียที่สะท้อนให้เห็นความเอื้อเผื่อแผ่ของผู้ที่ร่ำรวยกว่าที่พร้อมแบ่งปันต่อผู้ยากไร้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดในดินแดนพุทธภูมิ

ส่วนสุนัขและแกะสามารถมานั่งอาบแดดได้อย่างสบายๆริมแม่น้ำคงคาแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสะพานรถไฟทอดผ่านข้ามสองฝั่งของแม่น้ำคงคา นับเป็นวิถีชีวิตที่หาดูได้ยากในประเทศอื่นๆ ท่ามกลางชาวอินเดียที่ยังคงรักษากลิ่นอายของวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำคงคาแห่งนี้ได้อย่างตราตรึงชาวโลก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...