ขอ “สันติสุข” จงมีแด่ท่าน” นี่ไม่ใช่คำทักทายหรือคำกล่าวลาของชาวมุสลิม แต่เป็น “ธีม” ของเทรนด์ประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในปี 2023 จาก Nelly Rodi! สำนักเทรนด์ชื่อดังอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งปี 2023 นี้ มาในธีม “PEACE หรือ สันติภาพ” นั่นเอง โดยเนื้อหาของเทรนด์ในปีนี้จากสำนัก Nelly Rodi จะแบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ
1) ชีวิตและสไตล์ (Life & Style) เทรนด์หลักของปี พร้อมเปิดมุมมองจากผู้บริโภคทั้ง 4 กลุ่ม
2) แฟชั่นและความงาม (Fashion & Beauty) จากแรงบันดาลใจตามฤดูกาลที่อิงกับสีสันและความงาม
3) รูปแบบการใช้ชีวิต (Living Expression) ที่วิเคราะห์จากศิลปะการใช้ชีวิตของผู้บริโภค รวมถึงเทรนด์การตกแต่งที่น่าจับตามอง
ซึ่ง Creative Thailand จะขอมัดรวบมาเป็นฉบับสรุปสั้น ๆ สำหรับผู้ประกอบการ นักออกแบบ นักธุรกิจ หรือใครก็ตามที่สนใจนำเทรนด์เหล่านี้ไปหยิบจับปรับใช้กัน เพื่อที่จะไม่พลาดเทรนด์สำคัญแห่งอนาคตในอีก 2 ปีข้างหน้านี้
A-Live ส่องวิถีชีวิต (ชีวา) ผู้บริโภค
จากปัญหาและความท้าทายระดับโลกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อัตลักษณ์ (Identity) เศรษฐกิจ (Economic) สิ่งแวดล้อม (Environment) หรือภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) อย่างการแบ่งขั้วของโลกตะวันตกและตะวันออก หรือการแบ่งเขตแดนใหม่ ๆ ที่ทำให้ทั้งโลกประสบภาวะ “หลงทาง” อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากโรคระบาด
เพื่อให้โลกได้ก้าวต่อไปข้างหน้าและเริ่มใหม่ได้ ในปี 2023 นี้ สำนักเทรนด์ Nelly Rodi จึงตั้งชื่อธีมรองในหมวด ชีวิตและสไตล์ (Life & Style) ว่า A-Live ที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของผู้คนในปีหลังจากนี้ พร้อมจัดประเภทกลุ่มผู้บริโภคไว้ 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
1. The Visionaries (ผู้มีวิสัยทัศน์) กลุ่มที่เชื่อว่าชีวิตเปรียบเสมือนโอกาสให้การสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งที่ขับเคลื่อนผู้บริโภคกลุ่มนี้ คือเทคโนโลยีโลกเสมือน MR (Mixed Realities) เมตาเวิร์ส (Metaverse Conquest) โลกของเกม (Gam’in’ Clusivity) และการปลดปล่อยความสร้างสรรค์ (Creative Emancipation) เช่น เมืองลอยน้ำ (Floating Cities) การตกแต่งที่ออกไปในแนวล้ำ ๆ แบบโลกไซเบอร์ทั้งรูปร่างและหน้าตา ผู้คนกลุ่มนี้ยังต้องการผสมผสานระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการสร้างประสบการณ์ทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน โดยจะเน้นเทคโนโลยีบลูเทค (Blue Tech) เทคโนโลยียานยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับโลกอนาคต รวมถึงมีการใส่ความสนุกและความน่ารักลงไปในอาหารด้วย
เฉดสีประจำกลุ่ม คือ “สีรุ้ง” คล้ายกับสีของหางยูนิคอร์น ประกอบไปด้วย Orange Flash, Cold Gold, Spectral Bubble, Light Mauve, Cyber Pink, Deep Purple, Blue Illusion, Digital Azure และ Virgin Blue
2. The Virtuosos (พวกอัจฉริยะ) ความต้องการอยากให้ตัวเองเป็นอัจฉริยะ คิดว่าความรู้มีไม่จบสิ้น และสามารถถูกลบล้างได้เสมอ จึงทำให้กลุ่มนี้เปรียบเทียบชีวิตกับวิสัยทัศน์ที่สามารถพัฒนาขอบเขตไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนด้วยตำนานแบบร่วมสมัย (Contemporary Myths) ความรอบรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Omni’ Science) ความอัจฉริยะแบบบุกเบิก (Trailblazing Intelligence) และการก้าวไปสู่ความเป็นเลิศ (Forward Reaching Excellence) ตัวอย่างเช่น การผสมผสานศาสตร์ระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ รวมถึงสถาปัตยกรรม อย่างการสร้างตึกที่มีชีวิตชีวาด้วยการปลูกสาหร่าย (Algae) มีความเป็นช่างศิลป์สูง เน้นงาน แฮนด์เมดที่ละเอียดและเปี่ยมคุณภาพ เทคโนโลยีมีความหรูหรา อย่างรถยี่ห้อ Rolls Royce ที่ประดับเพชร เป็นการกลับมาของโอต์ กูตูร์และโอต์ กูซีน (Haut Cuisine) หรือการกินชั้นสูง กลุ่มนี้จะมีความสนใจและต้องการไปท่องเที่ยวอวกาศ และต้องการให้ตัวเองแตกต่างในแบบที่เต็มไปด้วยความรู้อยู่เสมอ
โทนสีสำหรับกลุ่มนี้ คือ “สีที่ละเมียดล้ำค่า” (Precious Subtlety) ได้แก่ Supreme Gold, Golden Khaki, Bling Green, Imperial Green, Midnight Blue, Vantablack, Precious Brown, Historic Bronze และ External Copper
3. The Agitators (บรรดาผู้ก่อกวน) เป็นกลุ่มที่มองหาเป้าหมาย แนวโน้ม ความเชื่อมั่น และพยายามสร้างความก่อกวน ความเกรี้ยวกราด ด้วยการใช้สีสันฉูดฉาด กราฟิกสไตล์เกม เป็นสื่อในการแสดงออกทางความคิด สร้างคอมมูนิตี้ใหม่ ๆ ในหลากหลายด้าน เช่น เพศ วัย ภูมิศาสตร์ ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงเปรียบชีวิตเหมือนกับการแสดงออกทางความคิดที่รอการเฉลิมฉลอง และแนวคิดที่ขับเคลื่อนได้ดีก็คือ การปฏิวัติที่เน้นความบันเทิง (Revol’ tainment) การใส่ความหัวรุนแรง (Radical Impact) การแสดงจุดยืนด้านอัตลักษณ์ (Identity Manifesto) และพลังของเด็ก ๆ (Kid Empowerment) เช่น การออกมาประท้วงเกี่ยวกับโลกที่จะมีผลต่อกับชีวิตของมนุษย์ทุกคนจากนี้ เพราะพวกเขามีสิ่งที่ต้องการคือความไม่อยากละทิ้งเมืองไว้ข้างหลัง แต่ต้องการให้เดินหน้าไปพร้อมกันต่างหาก และจะแสดงออกมาในรูปแบบของการต่อต้าน
เฉดสีของกลุ่มนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “เสียงจากเมือง” (Urban Manifesto) ที่บรรจุไปด้วย Blu-ray, Fluorescent Green, Acid Yellow, Protest Orange, Shocking Pink, Conscious Blood, Dirty Silver, Dark Concrete และ Carbon Black
4. The Moderators (ผู้ดำเนินชีวิต) กลุ่มสุดท้ายนี้เป็นพวกที่เปรียบชีวิตดั่งความสงบเรียบร้อยซึ่งรอการประกอบร่าง ผู้บริโภคกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยการปรับตัวทางอารมณ์ (Emotional Resilience) พิธีกรรมการทำความรู้จัก (Salutary Ritual) ความนิยมในท้องถิ่น (Local Mania) และทุนมนุษย์ (Human Capital) หมายถึง ให้คุณค่ากับสิ่งของที่มาจากฝีมือมนุษย์มากขึ้น ใช้เครื่องจักรน้อยลง เน้นความเป็นธรรมชาติ และมองหาความยั่งยืนด้วย เช่น เน้นของโฮมเมดหรือแฮนด์เมดจากวัตถุดิบเรียล ๆ ต้องการรู้ที่มาที่ไปของสิ่งของแต่ละอย่าง และรักการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ต้องการเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากขึ้น'
แน่นอนว่าโทนสีประจำกลุ่มนี้ก็ต้องเป็นสีโทนธรรมชาติที่ให้กลิ่นอายเหมือน “การเดินเล่นอยู่ชนบท” (Bucolic Stroll) ซึ่งประกอบไปด้วยสีเหล่านี้ Cochineal Red, Elder Pink, Chamomile Yellow, Lichen Green, Pastel Blue, Noble Pewter, Walnut Stain, Orchre Earth และ Bison Ecru
ตามทันแฟชั่น สำรวจความงามบนธีม “สันติภาพ”
สำหรับหมวดแฟชั่นและความงามนี้จะฉายภาพเทรนด์ของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในปี 2023 ซึ่งนำไปใช้กับงานด้านโฆษณาและมาร์เก็ตติงได้ เพื่อให้สามารถออกแบบการเล่าเรื่องโปรดักต์หรือธุรกิจ รวมถึงพัฒนาสินค้าและคอลเล็กชันของคุณให้เหมาะและทันกระแส “Peace” โดยสำนักเทรนด์ Nelly Rodi แบ่งผู้บริโภคเป็น 4 กลุ่มเช่นเดียวกัน คือ
1. Clarity (ความชัดแจ้ง) สันติภาพของลัทธิมินิมอลรูปแบบใหม่
“ความคิดที่ชัดเจนของฉัน คือกุญแจสู่ความสุข” เป็นคำนิยามที่ Nelly Rodi ให้ไว้กับผู้บริโภคกลุ่มแรกนี้ มีคำสำคัญ คือ วิสัยทัศน์ที่ชาญฉลาด (Smart Vision) ซึ่งไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มนี้ พวกเขาจะมองหาของธรรมดา ๆ ที่มีมาตรฐานสูง พร้อมด้วยความโก้เก๋ (Smart High Standards) และมีความเป็นเรโทรผสมกับความล้ำสมัย (Retro-Futurist) ด้วย โดยมีสีที่บ่งบอกตัวตนได้ดีอย่างโทนคัลเลอร์บล็อก (Block) และมินิมอล (Less) ที่เน้นความเรียบง่าย คลาสสิก สีสันชัดเจนและสดใสตามธีมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ มีไอเดียการออกแบบ เช่น การใช้เส้นโค้ง การออกแบบเสื้อผ้าที่มีช่องหรือรูเพื่อเปิดเผยเนื้อหนังบางส่วน การใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติ ลุคการแต่งตัวและการออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่ซ่อนความซับซ้อนเอาไว้ด้วยรูปทรงและรูปร่าง เน้นการใช้เส้นเพื่อเน้นรูปทรงต่าง ๆ และสีสันกับตัวโปรดักต์ เป็นต้น
คู่สีที่น่าสนใจ Evanescent Yellow + Ceramic Grey / Mourge Mint + Cardin Navy
2. Harmony (ความสงบเรียบ) สันติภาพจากธรรมชาติและความยั่งยืน
“ตรงกลางของความเป็นเมืองและความเขียวขจี คือโซนสงบที่ช่วยให้ฉันได้เป็นตัวของตัวเอง” ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติที่ผสมผสานกับความเป็นเมืองแบบนีโอฮิปปี้ โดยมีคีย์เวิร์ดคือ งานฝีมือ (Craftfulness) ผู้บริโภคกลุ่มนี้มองหาความยั่งยืน ด้วยการใช้ซ้ำหรืออัพไซเคิล (Second Life) ใส่ใจข้าวของโฮมเมดพื้นบ้าน และการผสมผสานระหว่างเมืองและชนบท (Urban – Rural) โดยมีเฉดสีที่เกี่ยวกับการฟื้นฟู (Revival) และทุ่งไม้ใบหญ้า (Pastoral) ที่ให้อารมณ์ความเป็นชนบทและความสดใสจากสีพืชผักผลไม้ ซึ่งมีไอเดียที่สามารถนำไปสร้างสรรค์เป็นโปรดักต์หรือธุรกิจได้ ดังนี้ การใช้ดอกไม้มาใส่ในอาหาร หรือเสื้อผ้า การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ ๆ เช่น รองเท้าใบไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์จากกิ่งก้านต้นไม้ การใช้ลวดลายและการพิมพ์แบบ การออกแบบเสื้อผ้าแบบเด็กสาวในทุ่งหญ้าแพรี่ที่มีระบายขอบเสื้อ ขอบปลอกหมอน หรือแม้แต่การใส่ดอกไม้ในการตกแต่งแนววิกตอเรียน
คู่สีที่น่าจับตา Blue Overall + Verbena / Choggia Beet + Terracotta
3. Illusion (ภาพมายา)สันติภาพระหว่างชีวิตประจำวันและโลกเสมือน
“จริงหรือหลอกไม่ต่างกันเลย เพราะฉันอยู่ในที่ทางของตัวเอง” เป็นคำอธิบายของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่อยู่ในภวังค์แห่งความฝัน เทคโนโลยีเสมือนจริงอย่าง MR (Mixed Realities) ความปกติใหม่ (New Normality) และมองหาโลกแห่งความฝันอยู่ตลอดเวลา (Dreamscape) สีของดอกไม้ในโลกเสมือน (Avatar Florals) ทั้งสดใสและแสบสัน กับสีแบบฝันอันแสนหวาน (Sweet Dream) จึงบ่งบอกลักษณะของความเป็นโลกเสมือนได้ดี ซึ่งแนวทางการออกแบบจะเป็นแนวดิจิทัล ทั้งการใช้สีแบบเมทัลลิก สีสะท้อนแสง หรือสีรุ้งฟุ้ง ๆ เสมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน รวมถึงการใช้สีเงาวับแบบเปล่งปลั่ง การใช้โทนที่สื่อถึงโลกอนาคต การใช้วัสดุที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิงและสปอร์ตเข้าด้วยกัน
คู่สีห้ามพลาด Virtual Orchid + Translucent China Rose / Composite + Artificial Rudbeckia
4. Celebration (การเฉลิมฉลอง) สันติภาพในการเคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม
“สมบัติอันล้ำค่าต่างอยู่ในตัวเรา” คือสิ่งที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้คิด จากการวิเคราะห์ของ Nelly Rodi ซึ่งคำสำคัญที่น่าสนใจก็คือ การหลอมรวมและขยายออก (Include & Amplify) หมายถึงการรวมคนเป็นหนึ่งเดียวเพื่อที่จะสามารถแบ่งบานไปได้ไกลขึ้น โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้รสนิยมสูง ชอบและมองหาการหนีไปอยู่บนเกาะ และมีและไลฟ์สไตล์แบบคูล ๆ (Island Evasion & A Cool Lifestyle) โดยมีสีดอกไม้ชาวเกาะ (Floral Island) ที่แสดงเฉดต่าง ๆ ของสีชมพู ส้ม และแดง อาหารเหล่าชาติพันธุ์ (Ethical Food) ที่ต่างสื่อถึงความสุขและความลงตัวของหลากหลายวัฒนธรรม ภาพไอเดียสำหรับคนกลุ่มนี้จึงเป็นการเล่นกับกราฟิก สีสัน และลวดลาย การหยิบสมบัติชิ้นจิ๋ว ๆ อย่างเปลือกหอยชายฝั่งมาทำเป็นเครื่องประดับ การใช้สีจากดอกไม้ที่สีสันฉูดฉาด การใช้กลิ่นอายของความเป็นชนเผ่า แรงบันดาลใจจากสีของแมลงหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ ในโซนร้อนชื้นมาใส่ในเครื่องแต่งกายและแต่งหน้า เป็นต้น
คู่สีประจำกลุ่ม Turmeric Flower + Anthurium / Curacao + Nori Seaweed
ตกแต่งอย่างไร ไม่ตกเทรนด์
มาถึงหมวดสุดท้ายที่สำนักเทรนด์ Nelly Rodi ได้วิเคราะห์ถึงศิลปะการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มและเทรนด์การตกแต่งที่กำลังจะมาในอนาคตอันใกล้นี้ โดยสรุปสั้น ๆ 5 เป็นประเด็นหลัก ดังนี้
สงบด้วยพื้นที่สีเขียว เพิ่มความสดชื่นแจ่มใส และดึงความมีชีวิตชีวาออกมาจากห้องนอน ตัวบ้าน มุมพักผ่อนหรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ด้วยสีเขียว ที่ไม่ใช่แค่ต้นไม้ แต่เป็นการใช้สีเข้าช่วย
วัตถุดิบจาก “โลก” หยิบเอาวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้งานเพื่อเคารพระบบนิเวศ เช่น งานสานจากฝีมือของชุมชนที่ใช้ความรู้และความสามารถแบบคนพื้นเมืองล้วน ๆ
เก้าอี้นั่งชิลล์ สัมผัสกลิ่นอายความย้อนยุคแบบแท้ ๆ ด้วยอาร์มแชร์และเก้าอี้โยกจากไม้ จะใช้ตกแต่งบ้าน หรือเอนหลังพักผ่อนก็สบาย
เรียบง่ายสไตล์ฤดูร้อน แต่งแต้มสีสันและความสดใสแบบฤดูร้อน ด้วยงานพิมพ์บล็อกสีเป็นลวดลายดอกไม้ หรือสัตว์ประจำฤดู บนกระดาษรูปทรงต่าง ๆ
ของแต่งบ้านสไตล์เกลียว ให้เส้นโค้งช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของคุณ จากของแต่งบ้านเกลียวสีซอฟต์แบบพาสเทล หรือจะสีสันสดใสก็ดี เช่น เทียนเกลียว กรอบรูปขอบเกลียว เฟอร์นิเจอร์ขาเกลียว
4 ทริกจับกลุ่ม 4 ผู้บริโภคให้อยู่หมัด
- Clarity ตามหาความจริงแท้ และความล้ำค่า
- Harmony เชื่อมโยงกับความเป็นชนบท และมีความงดงามแบบชาวเมือง 2.0
- Illusion การเลียนแบบโลกดิจิทัลที่สมจริง
- Celebration หรูหราฟู่ฟ่า ทว่าเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต
ที่มา : สัมนาออนไลน์ “Trends SS23” จากสำนักเทรนด์ Nelly Rodi
เรื่อง : วนบุษป์ ยุพเกษตร
ความเห็น 0