โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คุมตัว'ต้า'หัวหน้าแก๊งโอริโอ้สอบปากคำ อ้างส่วนใหญ่ที่ทำเพราะน้องโดนก่อน

แนวหน้า

เผยแพร่ 29 ม.ค. เวลา 17.00 น.

วันที่ 30 มกราคม 2568 จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 หน้าคอนโดแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ของสภ.คลองหลวง มีวัยรุ่นจำนวน 4 คนซึ่งอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งไปทำร้ายวัยรุ่น 2 คนได้บาดเจ็บ เหตุเกิดมาจากแฟนสาวของวัยรุ่น2 กลุ่มนี้ทะเลาะกันจึงไปบอกฝ่ายชาย จึงเกิดทะเลาะกันและเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้นำตัววัยรุ่นทั้ง 4 คนมารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนไปขยายผลหาบุคคลเพิ่มเติมและพิสูจน์ทราบเกี่ยวกับเรื่องอาวุธปืน และอาวุธอื่นๆส่วนคลิปหลายๆคลิปที่เขาเอามาโพสนั้นทาง ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นคลิปเมื่อหลายปีแลก่อน และเมื่อมาโพสต์เสร็จก็ยังไม่ตรงกับพื้นที่ของสภ.คลองหลวง

ส่วนเรื่องการอ้างเป็นลูกของตำรวจหรือคนดังนั้นก็มีแฟนของผู้ก่อเหตุที่อ้างว่านั้นทางเราก็ยังและที่บอกว่าเป็นหลานคนดังนั้นเมื่อเราตรวจสอบแล้วก็ไม่ใช่ และถ้ามีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมทางเราก็ยินดีที่จะทำให้แต่ในส่วนของที่อื่นที่เราก็จะประสานให้เช่นกัน และในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนก็ได้นำตัวนายพร้อม อายุ 18 ปี ซึ่งเป็น1 ในผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติม จนสามารถควบคุมตัว ผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน นายวิทิตหรือต้า อายุ 28 ปี นายอัครวินท์ หรือวิน อายุ19 ปี นายศิวกรหรือไอซ์ อายุ 28 ปี นายเป็นไท อายุ18 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ไว้เมื่อวานนี้ก่อนปล่อยตัวไป

ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้าน ทีมงาน กัน จอมพลัง ได้พานักศึกษาหนุ่ม ม.ดัง เอกชน พร้อมแฟนสาวเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากขอให้ผมช่วยขณะเดินเข้าคอนโดชื่อดัง ถูกแก๊งทะลุถุงFIVE M ได้มองหน้าแฟนสาว แฟนหนุ่มจึงหันไปมอง กลุ่มวัยรุ่นจึงร้องถามว่ามองอะไร จากนั้นได้เข้ามารุมทำร้ายร่างกายภายในคอนโด โดยหนึ่งในนั้นใช้มีดเป็นอาวุธ โดยแฟนสาวได้เข้ามาช่วยห้ามและพาตัวแฟนหนุ่มขึ้นบนห้องพัก แต่กลุ่มที่ทำร้ายร่างกายไม่ยอมจบพากันตามมาถึงหน้าห้องและใช้เท้าถีบประตูจนพังและเข้ามาใช้อาวุธมีดบังคับให้กราบเท้า พร้อมข่มขู่ว่าถ้าแจ้งความจะกลับมาเล่นงานอีกครั้ง นักศึกษาหนุ่ม ม.ดังเห็นยังไม่มีความคืบหน้าในการนำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาลงโทษ และเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ทางด้าน ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเองกับแฟนสาวเดินขึ้นคอนโด จนมาถึงประตูทางเข้า ได้มีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 6 คนได้มองแฟนสาวของตนเอง แล้วกล้าพูดแซว 3 ถึง 4 ครั้งว่าไม่น่ามากับผัวเลย ตนเองจึงหันไปมอง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้พูดประมาณ "มองะไร" ตนเองจึงเดินขึ้นตึก แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่น จำนวน 6 คนได้วิ่งมาทีบตนเอง จำนวน 1 ครั้งจากนั้นจะได้เข้ามาชกต่อย ตนเองจึงชกต่อยกลับเพื่อป้องกันตัว แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้มารุมทำร้ายร่างกายตนเอง และมีการซักมีดออกมาด้วยแต่ปรากฏว่าได้มีวัยรุ่นอีกคนหนึ่งได้ห้ามปราม แต่ตอนที่เขาชักมีดออกมา ได้ทำหารฟัน แต่ไม่โดนกลับไปโดนเพื่อนเขาแทน ก่อนที่เพื่อนเขาจะมาช่วยกันห้าม ตนเองกับแฟนสาวจึงเข้าไปหลบภายในห้อง

จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ทีบประตูห้องห้องเพื่อจะเข้ามาแต่ตนเองไม่ยอมเปิด จนพี่ รปภ. เดินทางมาห้ามเพราะเสียดัง พวกเขาก็เลยด่า รปภ. จากนั้นเมื่อพวกนั้นใจเย็นลงตนเองจึงเปิดประตูเพื่อที่จะพูดคุยซึ่งพวกเขาเข้ามาในห้องกันทั้งหมด ซึ่งเพื่อนของเขาก็บอกให้เขาขอโทษ แต่คนต้นเรื่องไม่ยอมขอโทษ เขาบอกว่าเขาไม่ผิด แต่กลับจะให้ตนเองกราบเท้าขอโทษแถมยังข่มขู่ว่าถ้าเอาปืนมายิงตายไปแล้ว แล้วยังจะให้ตนเองรับผิดชอบเพื่อนของเขาที่ถูกฟันให้เราจ่ายเงิน ซึ่งบาดแผลดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ซึ่งตนเองยืนยันไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ตนเองรู้สึกว่าการที่มาทำแบบนี้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย เพราะยังมีพวกเขาอยู่ในคอนโดเดียวกันกับพวกเรา

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัว นายต้า หัวหน้าแก๊งโอริโอ้ มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามถึงปมในการลงมือทำร้ายผู้เสียหายหลายราย โดยนายต้า เปิดเผยสั้น ๆ ว่า “ผมมาให้การกับตำรวจ ไม่รู้เรื่องอะไรบ้าง จะต้องไปคุยกันข้างใน ซึ่งมีบางเรื่องที่ทำจริง แต่ส่วนใหญ่ที่ทำลงไปเพราะน้องของผมโดนก่อน” ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวเข้าห้องสืบสวนทันที ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวทั้ง 4 คนมาทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากข้อหาเดิมคือข้อหาว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งจะได้แจ้งข้อหาว่าร่วมกันพยายามฆ่าเพิ่มอีก

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากเดิม ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ แต่เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาร่างกายเกินกว่า 20 วัน ก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ กำลังรอผู้เสียหายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ในส่วนที่ใช้อาวุธปืนในการตีที่ศีรษะ ก็จะเเจ้งข้อหาเพิ่มเติม

นอกจากนี้การกระทำผิดในครั้งนี้ มีเพียงแค่บางคนที่กระทำความผิด แต่อยู่ในแก๊งค์ Oreo แต่สาเหตุที่กระทำความผิดนั้นก็มีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนแล้ว ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วก็ลามไปถึงฝั่งของผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องส่วนตัว แต่การทำร้ายร่างกายนั้น ก็มีอาวุธที่เป็นไม้เบสบอล ใช้อาวุธปืนข่มขู่ ซึ่งเป็นส่วนเเรกของการทำร้ายร่างกาย โดยพฤติกรรมของแก๊งค์ ก็จะมีการไปข่มขู่ ไปลุกลาน บังคับเขา ก็จะเป็นอีกส่วน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างการขยายผลอีก อะไรที่อยู่เขตพื้นที่รับผิดชอบเราจะดำเนินการทั้งหมด หรือว่าได้เครือข่าย กลุ่มแก๊งค์ ว่าเข้าข้อหาการกระทำความผิดไหน เราก็จะดำเนินคดีให้หมด ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจก็ทำงานเต็มรูปแบบ ส่วนอันที่ 2 ที่เกิดเกี่ยวกับ สอท. ซึ่งเป็นการโพสต์ ซึ่งทางท่านผู้บัญญชาการก็ดำเนินการซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาดำเนินการในส่วนนี้ซึ่งก็ได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว

โดยในวันนี้ก็มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการทำร้ายร่างกาย ซึ่งที่กลุ่มผู้เสียหายมาแจ้งความก็เป็นผู้ต้องหา 4 ในกลุ่ม Oreo อีก ซึ่งผู้ต้องหาก็จะซ้ำกับผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 อีก ที่เราได้แจ้งทำร้ายร่างกายสาหัส ส่วนคดีที่ 2 ผู้เสียหายได้มีการมาแจ้งไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมแล้ว วึ่งผู้เสียหายได้ขอลงไว้เป็นหลักฐาน ไม่ประสงค์ไปตรวจร่างกาย แต่เนื่องจากมีกระแสเข้ามา เขาก็เลยจะมาเเจ้งความซึ่งเราก็จะได้ดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งในวันนี้ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหามานั้นเรามาเพื่อที่จะเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแล้วก็จะนำตัวไปขออนุญาติศาลเพื่อฝากขัง และกำลังติดตามเพื่อนในแก๊งค์ที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีที่ 2 เพิ่มอีก ซึ่งรวมทั้งหมดเป็น 6 คน ทั้งคดีแรกและคดีที่ 2

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...