โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘ศิริกัญญา‘ มองรัฐบาลกู้ 5 แสนล้าน ก็กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ เหตุไม่มีแผนชัดเจน

The Reporters

อัพเดต 24 เม.ย. เวลา 08.09 น. • เผยแพร่ 24 เม.ย. เวลา 08.09 น.

‘ศิริกัญญา‘ มองรัฐบาลกู้ 5 แสนล้านบาทก็กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ เหตุไม่มีแผนชัดเจน ถามเชื่อใจได้ไหม ไม่กู้มาแจกเหมือนดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมเชียร์เต็มที่หากเอาเงินไปปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

วันนี้ (24 เม.ย.68) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงการศึกษาความเหมาะสมในโครงการลงทุน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ วงเงินไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท เพื่อประคองการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากประมาณการณ์เดิม ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3

นางสาวศิริกัญญา ระบุว่ารัฐบาลยังไม่ได้ระบุที่มาของเงิน 5 แสนล้านบาทอย่างชัดเจนว่าจะกู้หรือไม่ หลังจากที่นายพิชัย พูดเรื่องตัวเลข 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นแพ็คเกจในการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ซึ่งตนเองมีความเห็นว่า หากกระทรวงการคลังใช้เม็ดเงินในงบประมาณปี 2568 ที่เตรียมไว้สำหรับทำดิจิทัลวอลเล็ต 1.5 แสนล้านบาท มาใช้ด้วย ถ้าจะกู้จริงก็น่าจะกู้น้อยลง ความเป็นจริงอาจจะไม่ต้องกู้เลยก็ได้ เพราะเรามีเม็ดเงินเหลือจากดิจิทัลวอลเล็ต 1.5 แสนล้านบาทนี้แล้ว ถ้าจัดงบประมาณปี 2568 มาอีกสักรอบอาจจะได้มาสัก 5 หมื่น-1 แสนล้านบาท

เงินก้อนใหม่ที่สำคัญสามารถจัดใหม่ได้เลยคือ งบประมาณ ปี 2569 ที่กำลังจะเข้าสู่สภาฯ ตอนนี้กำลังรับฟังความคิดเห็นอยู่ มีกำหนดจะกลับเข้าไปให้ ครม.เห็นชอบ และส่งมาที่สภาฯ สามารถจัดใหม่ได้เลย เตรียมเม็ดเงินสำหรับที่จะใช้ในการพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยหรือชะลอตัวอันเนื่องมาจากสงครามทางการค้า หากจัดใหม่ในได้ 3 แสนล้านบาทก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกู้ จะได้ไม่ถึงอย่างไร เราก็เรียกร้องให้รัฐบาลเอา พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 กลับไปปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจ หากจะต้องเข้าสภาฯ ช้าไปเล็กน้อย 1-2 สัปดาห์ เราคิดว่าสภาฯ ไม่มีปัญหาที่จะใช้เวลาลดลงในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการ

นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่ายากที่จะบอกว่าเงิน 5 แสนล้านบาท จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะยังไม่ระบุรายละเอียดว่าจะใช้ทำอะไร เรามีประสบการณ์มาแล้ว หากเลือกวิธีการกระตุ้นผิดผลจะไม่เกิดต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่น กรณีจากเงินหมื่น ครั้งแรกใช้เม็ดเงิน 1.45 แสนล้านบาท แต่ไม่ทำให้ GDP โตขึ้นอย่างที่รัฐบาลได้เคยสัญญาไว้ วิธีการจึงสำคัญมากว่า 5 แสนล้านบาทจะเอาไปกระตุ้นด้วยวิธีการใด ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้

รัฐบาลบอกอีกว่าอยากจะกระตุ้นให้กลับไปเป็นตามเป้าคือ 3% ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก จากที่ IMF ประเมิน ต้องใช้เม็ดเงินมากกว่า 5 แสนล้านบาทแน่ แต่ถ้าประคองให้อยู่ในระดับ 2% นิด ๆ เงิน 5 แสนล้านบาทคงทำได้แน่นอน

เราไม่สามารถเชื่อใจรัฐบาลได้ว่า จะกู้แล้วไม่เอามาแจกเหมือนเดิม ต้องใช้พลังจากฝั่งประชาชนและฝ่ายค้านที่จะกระตุ้นเตือนรัฐบาลว่า ก่อนที่จะคิดเรื่องกู้ หรือขยายเพดานหนี้สาธารณะ ช่วยประกาศให้ชัดเจนกับพวกเราก่อนว่า ตอนนี้รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเรื่องใด หากจะเอาไปเยียวยาจะเยียวยาด้วยวิธีการใดเรื่องใด หากกระตุ้นเศรษฐกิจจะกระตุ้นเรื่องการบริโภคหรือการลงทุนด้วยวิธีการใด เราเชียร์เต็มที่หากรัฐบาลอยากได้งบประมาณไปใช้ในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องทำแบบนี้เท่านั้น เราถึงจะไว้วางใจให้กู้เงินเพิ่ม หรือขยายเพดานหนี้สาธารณะ