Audi Thailand จัดของหนัก นำเข้า New RS3 Sportback รุ่นปรับโฉม 2025 รถ High Performance เทคโนโลยีสนามแข่งจาก Audi Sport เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 5,699,000 บาท แต่ถ้าอยากสุด หมกของโมเต็มร่างในราคา 6,299,000 บาท เพื่อสร้างความแตกต่างที่มาพร้อมความดุดันเต็มขั้ว
Audi Sport ยกระดับสถานะของรถบ้านคันเล็กให้กลายเป็นรถแฮตช์แบ็กสุดฮอตที่มีอารมณ์ใกล้เคียงรถซูปเปอร์คาร์ เมื่อเปิดตัว RS3 รุ่นแรกในปี 2011 Audi Sport ลดเวลาอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงลงเหลือต่ำกว่า 5 วินาที จากนั้น สงครามแรงม้าระหว่างแบรนด์รถสี่ห่วงและผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันแบรนด์อื่น ก็ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น รถคู่แข่งอย่าง BMW M135i และ Mercedes-AMG A45 4Matic + บีบให้แบรนด์รถยนต์จากเมืองอิงโกลสตัดท์ทำงานหนักขึ้น ทีมวิศวกรต้องรีดพละกำลังจากเครื่องยนต์ 5 สูบแถวเรียงให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อการต่อสู้ในตลาดรถเล็กสมรรถนะสูง ปี 2021 Audi เปิดตัว RS3 รุ่นที่สาม ซึ่งมีประสิทธิภาพมากพอที่จะเทียบชั้นกับรถซูเปอร์คาร์บางรุ่นได้เลย
Audi RS3 Sportback ปี 2025 กระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมสีดำ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Audi Sport quattro S1 ซึ่งคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันไต่เขา Pikes’ Peak ในปี 1987 สำหรับรูปลักษณ์ของRS3 รุ่นปรับโฉมคือ ไฟหน้าใหม่ LED แบบเมทริกซ์ พร้อมโปรแกรมการปรับตั้ง 3 รูปแบบที่ผู้ขับเลือกได้ Audi RS 3 Sportback รุ่นปรับโฉม ปี 2025 มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น 5 ประตู ภายนอกปรับปรุงรูปลักษณ์ด้านหน้าด้านหลังใหม่นิดเดียว แทบไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากรุ่นปี 2021 มากนัก ของแหล่มๆที่จัดมาให้ก็คือ ล้ออัลลอยด์ขอบ 19 นิ้ว (ออปชันเสริมล้อ 20 นิ้ว ลายใหม่ ยางแบบสปอร์ตกึ่งสลิกสำหรับสายแรงที่ต้องการใช้ RS 3 บนสนามแข่ง) กันชนหน้า-หลัง ออกแบบใหม่ การตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำที่ลดลง แผ่นดิฟฟิวเซอร์ที่ใช้งานได้จริง ติดตั้งไว้ที่ด้านล่างของกันชน ผสานเข้ากับท่อไอเสียคู่ ขนาดใหญ่
ภายใน ใช้หนังกลับ Alcantara เพื่อไม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนบนกระจกหน้ารถ เบาะนั่งสปอร์ตคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมที่รองศีรษะในตัวที่ช่วยพยุงให้อยู่กับที่ในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง (ออปชันเสริม) หน้าจอ Audi Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว รันด้วยซอฟต์แวร์อัปเดตใหม่ล่าสุด จอแสดงผลแบบใหม่ควบรวมการปรับตั้งและแสดงข้อมูลสำคัญในการขับเคลื่อน ไฟเปลี่ยนเกียร์ของโหมดแมนนวล ปุ่มควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยม ปุ่มสีแดง 2 ปุ่มที่ใช้เปิดโหมด Preformance หรือ RS individual
RS 3 Sportback เป็นรถเล็กที่มีสมรรถนะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มคอมแพกต์คาร์ประสิทธิภาพสูงของ Audi Sport เพื่อถ่ายทอดความแรงจากสนามแข่งสู่ท้องถนน เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ 2.5 ลิตร ในตำนาน มีลำดับจุดระเบิด 1-2-4-5-3 ที่สร้างชื่อเสียงในวงการ Motor Sport มายาวนานจนได้รับรางวัล International Engine of the Year Award 9 ปี ติดต่อกัน เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ แถวเรียง ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ปรับเปลี่ยนกำลังได้อย่างชาญฉลาดทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า หรือปรับเปลี่ยนเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อตามสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม ช่วงล่างแบบ RS Sport และท่อไอเสีย RS Sport ส่งเสียงสไตล์มอเตอร์สปอร์ตที่เร้าใจ ท่อระบายไอเสียมีปุ่ม เปิด-ปิด เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชนหรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อความเร้าใจในสนามแข่ง
Audi Sport สร้างเพลาลูกเบี้ยวแบบปรับได้ในฝาสูบ ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผัน นอกจากนี้ยังปรับแต่งการทำงานของปั๊มน้ำในระบบหล่อเย็นใหม่หมด ระบบวาล์วยกของ Audi (AVS) จะแปรผันตามจังหวะของวาล์วทางออก ด้วยวิธีดังกล่าวที่ช่วยลดการสูญเสียของห้องเผาไหม้ และช่วยให้ก๊าซไอเสียไหลเข้าสู่เทอร์โบชาร์จเจอร์ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอบเครื่องที่ต่ำลง ผลลัพธ์ที่ได้คือการตอบสนองแบบไดนามิกและแรงบิดที่เพิ่มขึ้น ด้วยมาตรการที่ซับซ้อน ช่วยลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ในขณะที่เพิ่มกำลังมากกว่าเดิม กระบอกสูบถูกเคลือบด้วยพลาสมา ตลับลูกปืนหลักของเพลาข้อเหวี่ยงมีขนาดเล็กกว่าหกมิลลิเมตร (0.2 นิ้ว) เพลาข้อเหวี่ยงเป็นแบบเจาะกลวง มีน้ำหนักที่เบากว่าหนึ่งกิโลกรัม (2.2 ปอนด์) ในขณะที่ลูกสูบอะลูมิเนียมมีช่องสำหรับระบายความร้อนด้วยน้ำมันในตัวของมันเอง
กระบอกสูบทั้ง 5 ตำแหน่ง ให้ความเพลิดเพลินทางอารมณ์แทบจะไม่แตกต่างไปจาก Quattro S1 ในอดีต Audi Sport ปรับแต่งไดนามิกสำหรับการขับของ RS3 Sportback รุ่นปรับโฉม แรงบิดของเครื่องยนต์ห้าสูบ 2.5 TFSI ที่ 500 นิวตันเมตร อยู่ระหว่าง 2,250 ถึง 5,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ซึ่งเริ่มต้นที่ความเร็วการหมุนในรอบต่ำ และเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ถูกระบุไว้ในเอกสาร นั่นคือสิ่งที่คนขับสามารถสัมผัสได้โดยตรง สามารถเร่งความเร็วจากช่วงรอบต่ำได้เร็วกว่าเดิม กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ที่ 294 กิโลวัตต์ (400 แรงม้า) ที่ 5,600 รอบต่อนาที และพุ่งไปถึง 7,000 รอบต่อนาที อย่างง่ายดาย
ระบบควบคุมการออกตัว ทำให้ RS3 Sportback เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที สามารถเพิ่มความเร็วสูงสุด ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จาก 250 กม./ชม. (155 ไมล์ต่อชั่วโมง) เป็น 280 กม./ชม. (174 ไมล์ต่อชั่วโมง) ด้วยแพ็กเกจเสริม Dynamic แม้จะทำได้ถึง 290 กม./ชม. (180 ไมล์ต่อชั่วโมง) การเร่งความเร็วและความเร็วสูงสุดของ Audi RS 3 จึงเป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถสปอร์ตแฮตช์แบ็กขนาดกะทัดรัด
โหมด RS Performance ซึ่งออกแบบมาสำหรับใช้ในสนามแข่ง และโหมด RS Torque Rear ซึ่งเรียกว่า 'โหมดดริฟต์' ซึ่งจะถูกใช้ในแอปพลิเคชันตัวควบคุมแรงบิดล้อหลัง” ทั้งสองโหมดเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับโหมดไดนามิก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบออฟไลน์ การตอบสนองของคันเร่งนั้นตรงไปตรงมา และมีการเปลี่ยนโหลดที่โดดเด่นมาก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ขับจะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงที่ช้ามากในสไตล์ขับแบบลากรอบ เช่นเดียวกับการควบคุมที่เหมาะสมของ linear accelerator ที่ปลายโค้ง
RS Torque Rear ตัวแยกแรงบิดซึ่งติดตั้งอยู่ใน Audi RS เป็นครั้งแรก ทำให้เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ โดยใส่แรงบิดไปทางด้านหลัง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ล้อด้านนอกของโค้ง ทำให้สามารถควบคุมการดริฟต์บนถนนได้ ตรงกันข้ามกับสิ่งนี้ ตัวแยกแรงบิดที่ตัดการส่งกำลังของล้อหน้าออกทั้งหมด ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างเป็นกลางที่สุดในโหมด RS Performance โดยมีอาการโอเวอร์สเตียร์ที่น้อยหรือมาก เกิดจากการควบคุมคันเร่งและทิศทางการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับโดยตรง
RS Torque Splitter หนึ่งเดียวใน RS 3 Sportback ระบบขับเคลื่อนจะกระจายแรงบิดไปยังล้อหลังแต่ละข้างอย่างอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความเสถียรของรถ โดยเฉพาะในขณะขับขี่แบบสปอร์ต ระบบ RS Torque Rear ที่สามารถส่งแรงบิดไปยังล้อหลังหนึ่งข้างด้วยกำลังสูงสุดถึง 1,750 นิวตันเมตร ซึ่งจะทำให้รถยนต์สามารถดริฟท์ให้ท้ายปัดได้ ระบบ Torque Splitter เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทำให้ RS 3 Sportback ทั้งแรง ทั้งเฉียบคมและควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
RS3 เป็นรถ Audi Sport คันแรกที่ติดตั้งระบบ 'RS Torque Splitter' แบบใหม่ ซึ่งกระจายแรงบิดในการขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ในลักษณะที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระเต็มที่ ระบบ torque vectoring system ควบคุมด้วยไฟฟ้า electronically controlled ใช้คลัตช์ดิสก์หลายตัวที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์บนเพลาขับแต่ละชุด (หน้า-หลัง) ระบบดังกล่าวจะรับหน้าที่ในระหว่างการขับเข้าโค้งอย่างรวดเร็วของผู้ขับ แรงบิดจะเพิ่มไปยังล้อหลังด้านนอก พร้อมกับการรับน้ำหนักล้อที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้อาการอันเดอร์สเตียร์ลดลง ระบบยังเปิดใช้งานโหมดดริฟต์ ด้วยโหมดการขับขี่ 'Torque Rear' และระบบ quattro AWD ช่วยให้สามารถกระจายแรงบิดไปที่ด้านหลัง ซึ่งจะส่งแรงบิดทั้งหมด 500 นิวตันเมตร ไปที่ล้อคู่หลังได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม โดยส่งไปยังล้อด้านนอกของโค้ง
โช้คอัพไฮดรอลิกควบคุมระบบวาว์ลภายในด้วยไฟฟ้า บวกกับสิ่งที่ Audi เรียกว่า RS torque splitter เพื่อกระจายแรงบิดสูงสุดระหว่างล้อหลังทั้งสอง ท่อร่วมไอเสีย RS เป็นอุปกรณ์เสริม มาตรฐานสำหรับบางรุ่น - และ mVDC ใหม่ (ตัวควบคุมไดนามิกของรถยนต์) ซึ่งจะช่วยให้การควบรวมระบบแชสซีดีขึ้น/เร็วขึ้น พร้อมระบบไฟอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูง จากกำลังการส่องสว่างด้วยหลอด LED พร้อมซอฟต์แวร์ที่จะยก ลดไฟสูง หรือสาดไฟไปในบริเวณที่มืดมิด สัญลักษณ์ RS3 บ่งบอกว่านี่เป็นรถเล็กอีกรุ่นต่อจาก TT RS ที่วางเครื่องยนต์ 5 สูบเทอร์โบ ตำนานขุมกำลังกับรางวัล Engine of The Year ถึง 9 ปีติดต่อกัน นั่นมันสุดมากสำหรับเครื่องยนต์ที่มีพัฒนาการยาวนานกว่า 40 ปี
Audi RS 3 Sportback มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ
Mythos black, metallic
Progressive red metallic
Kyalami green solid
Python yellow, metallic
Ascari blue, metallic
(สีพิเศษเพิ่มเติมจากราคามาตรฐาน 100,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียบร้อยแล้ว)
สามารถปรับแต่งเสริมความสปอร์ตแบบจัดเต็มกับแพ็คเกจชุดตกแต่งลายคาร์บอน สี Matt black รอบคัน ในราคา 500,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เช่น ช่อง Air inlet ด้านหน้า ขอบ Diffuser ด้านท้าย กระจกมองข้าง Spoiler หลังคา ขอบสเกิร์ตด้านข้างและกระจังหน้าสี Matt black
สัมผัสสมรรถของ Audi RS 3 Sportback รถยนต์คอมแพกต์รุ่นสุดยอด (ขับมันหยด) หนึ่งเดียวของ Audi Sport ราคาเริ่มต้น 5,699,000 บาท
ราคาพร้อมสีพิเศษ Ascari blue, metallic 5,799,000 บาท
ราคาพร้อมแพ็คเกจชุดตกแต่งคาร์บอน 6,199,000 บาท
ราคาพร้อมสีพิเศษและแพ็คเกจชุดตกแต่งคาร์บอน 6,299,000 บาท.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มาแล้ว หนูเล็กเด็กสายโหด Audi RS3 Sportback รุ่นปรับโฉม 2025
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- นิสสัน ยืนยันเดินหน้าลงทุนในไทย เพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน ลุยตลาดรถไฮบริด
- มอเตอร์สี่ตัว BMW M3 ELECTRIC คาด ม้าไม่ทะลุ 1,000 ตัว!
- BMW M แจง ยังไม่มีแผนเลิกผลิตเครื่องยนต์สันดาปของรถ M
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath