หน้าหนาวไฮซีซั่นแบบนี้เชื่อว่าถนนทุกสายก็ต้องมุ่งขึ้นเหนือ ฤดูกาลออกล่าทะเลหมอกกันเป็นแน่ อีกจุดหมายหนึ่งที่อยู่ใน Bucket List ของหลาย ๆ คนคือการได้มา เที่ยวเชียงคาน ที่สายกรีน สาย Eco สไลว์ไลฟ์เป็นต้องเลิฟ
Relate article
จัดมาครบ ทั้งแพลนทริป พิกัดวิวสวย และ วิธีไปเชียงคาน จังหวัดเลย
แค่ 2 วัน 1 คืน ก็ เที่ยวเหนือ สัมผัสอากาศวัฒนธรรมเมืองเลยได้แบบฟิน ๆ
ล่าสุดได้รับรางวัล“แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก”จาก Green Destinations เป็นแห่งแรกในอาเซียน และเป็นแห่งที่ 3 ของเอเชีย เริ่มต้นปีใหม่นี้ ออกเดินทางไปสูดโอโซนกัน แนะนำ ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว คาเฟ่ ตามมาทางนี้เลย
Day 1
บ้านติดดิน
ทริปครั้งนี้เราขับรถถึงเชียงคานช่วงบ่ายแก่ ๆ มีเวลาไม่มากเลยเลือกแวะจุดแรกที่ บ้านติดดิน คาเฟ่ยอดฮิตที่ทุกคนต้องมาเช็กอินให้ได้ จุดเด่นน่าจะเป็นโลเคชั่นที่อยู่ไกลจากตัวเมืองเชียงคานมาสักหน่อย เลยทางเข้าแก่งคุดคู้เล็กน้อย มีการจัดตกแต่งแลนด์สเคปที่สวยงามเป็นระเบียบ ทั้งตัวโครงสร้างอาคารเองก็กลมกลืนกับภูมิทัศน์ธรรมชาติรอบตัว หลายคนเลือกมาสั่งเครื่องดื่ม ทานอาหารมื้อสายกันที่นี้ ดูวิวแม่น้ำโขง ภูเขาที่ปกคลุมด้วยเมฆหมอกไหลเอื่อย ๆ นั่งเพลิน ๆ จนลืมเวลาได้เลย
แถมติดกันยังมีโซนที่พักด้วยนะ เป็นสไตล์กระโจมสามเหลี่ยมน่ารักกะทัดรัด มีพื้นที่สำหรับแคมป์ปิ้ง เดินดูต้นไม้ ดอกไม้สวย ๆ ไม่มีเบื่อ โดยช่วงที่เรามาตรงกับปลายปีที่จัดเทศกาลดนตรี Chiangkhan Festival อีกด้วย แน่นอนว่าคนเยอะ รถแน่น ถึงไม่ได้เข้างานแต่ก็จอยกับบรรยากาศได้เต็มแมกซ์ ได้ยินเสียงเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมล้อไปกับเสียงธรรมชาติได้อย่างสุนทรีย์
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
เดินทางกันไปอีกหน่อยขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาท ทำบุญเสริมมงคลรับปีใหม่ ข้างบนวิวดี ลมโกรก บนเขาเห็นภูเขาสลับซับซ้อนและแม่น้ำโขงไกล ๆ แต่ทางขึ้นค่อนข้างแคบและชัน ใครไม่ชินทางเวลาขับรถอาจจะต้องชะลอความเร็วสังเกตรถที่จะสวนมาให้ดี นอกจากได้ทำบุญไหว้พระเพื่อความสบายใจแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ชอบ นั่นคือการให้อาหาร ผักบุ้ง แครอท เล่นกับน้องกระต่าย น้องเต่า ที่พิเศษของบริเวณนี้คือมีเจ้ากระต่ายเยอะมากมายเป็นฝูง ซ่อนตัวหลบอยู่ตามก้อนหินบ้าง ใต้ต้นไม้บ้าง น่ารัก น่าหยิกไม่เบา นอกจากได้บุญแล้วก็ได้รูปลงโซเชียลนี้แหล่ะ!
แก่งคุดคู้
ลงมาจากวัดเป็นช่วงพลบค่ำพอดี เลยแวะกันที่อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดเลยกันสักหน่อย เชื่อว่าหลายคนที่มา เที่ยวเชียงคาน ก็อาจจะยังไม่เคยแวะก็เป็นได้ ถือเป็นอีกจุดที่สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้อย่างชัดเจน ยิ่งในหน้าร้อนระดับน้ำลดลง จะเห็นแก่งหินเนินทรายกลางแม่น้ำก็สวยงามไปอีกแบบ ตรงข้ามเป็นเมืองสานะคาม (คนลาวออกเสียง ซะนะคาม) แขวงเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว ซึ่งในอดีตทางประวัติศาสตร์ทั้งสองฝั่งโขงนี้ก็เปรียบเสมือนเมืองเดียวกันมาก่อน ใครที่อยากข้ามไปชมความงามข้ามประเทศก็มีบริการเรือท่องเที่ยวข้ามฟากด้วยนะ
ถ้าอยากอินกับสถานที่มากขึ้นแนะนำอ่านศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องราวที่มาของตำนานพื้นบ้าน ‘จึ่งขึ่ง ดั้งแดง’ นายพรานยักษ์แห่งแก่งคุดคู้ ที่เกี่ยวพันกับสถานที่แห่งนี้ ติดกันก็มีพิพิธภัณฑ์แหล่งศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น วิวจากจุดนี้สามารถเห็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรี เสียงเพลงและแสงสีจากคอนเสิร์ตดังข้ามน้ำมาเลย ริมฝั่งมีร้านอาหารให้นั่งทาน พร้อมชิมเมนูพื้นบ้านอยู่หลายร้าน วัตถุดิบเด็ดก็ต้องปลาและสัตว์น้ำที่ชาวบ้านนั่งเรือจับสด ๆ จากแม่น้ำโขงนี้แหล่ะ ก่อนกลับก็แวะซื้อของฝากกลับบ้านกันหน่อย มะพร้าวแก้วพลาดไม่ได้ มีทั้งแบบหลากสีและสีธรรมชาติ
Chiang Khan 161 Home
ที่พักคืนนี้อยู่ในซอย 12 เดินเพียง 10 ก้าวถึงถนนคนเดินสะดวกสบายมาก คุ้มสุด ๆ สำหรับการไปเป็นแก๊งเพื่อนหรือครอบครัว รอบนี้เรามากัน 10 คน เป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างบนเป็นไม้กำลังปรับปรุง ใช้คำว่าคุ้มเปลืองมากพื้นที่ใช้สอยเยอะจัด จอดรถด้านหน้าได้ 1 คัน ข้าง ๆ ก็มีที่จอดรถให้เช่าเพียง 50 บาทต่อคืน หน้าบ้านจัดเป็นโต๊ะยาว ๆ สำหรับปาร์ตี้หมูกระทะ นั่งดื่มกันได้ยาว ๆ กลางคืนตกแต่งไฟสวยงาม ให้ฟีลแคมป์ปิ้งรอบกองไฟกับเพื่อน Vibe ดีมาก
ด้านในมีส่วนครัวพร้อมอุปกรณ์ไว้ทำกับข้าวครบครัน ที่นอนผ้าห่มหนา ๆ ริมโขงแบบนี้ไม่ต้องกลัวหนาว มุมโปรดของเราคงจะเป็นห้องรับแขกที่มีเบาะนุ่ม ๆ พร้อม TV เครื่องใหญ่ เอาไว้เปิดเพลงฟังเพราะ ร้องคาราโอเกะ หรือดู Netflix มันส์ ๆ ตกแต่งด้วยของใช้เก่า ๆ ยุค 90 ที่เราคิดถึงไว้บนตู้หนังสือไม้ ทำให้หวนคิดถึงวันวาน
ถนนคนเดิน
ค่ำแล้วก็ถึงเวลาออกเดินเล่นหาของกินกัน ถนนสายวัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิต ของที่นี่ยาวมาก เดินไปกลับก็ถือว่าได้คาร์ดิโอไปในตัว ที่พักเราถือว่าอยู่บริเวณกลางซอย ติดกับร้านอาหารเฮือนหลวงพระบาง ถ้าใครอยากเริ่มเดินจากต้นซอยก็ต้องเลี้ยวขวาไปเริ่มจากบริเวณลานพญานาค ที่นั่งชิลล์ริมโขงซึ่งใช้จัดกิจจกรรมต่าง ๆ อย่างงานไหลเรือไฟออกพรรษา นอกจากผ้าซิ่น เสื้อผ้ามัดย้อมแล้ว ของกินก็มากมายจนเลือกชิมไม่ถูก ไล่ตั้งแต่ของหวาน ข้าวเกรียบว่าว ข้าวปุกงา ไอศกรีมในลูกแคนตาลูป ปาท่องโก๋ยัดไส้ มะพร้าวแก้วแบบนิ่มที่ผัดในกระทะร้อน ๆ กุ้งตัวเล็กตัวใหญ่เสียบไม้จากน้ำโขง ปูนาย่าง ดักแด้ แต่ที่เราเลิฟมากก็ส้มตำนี้แหล่ะอร่อยทุกร้าน ปิดจ็อบวันนี้กับแจ่วฮ้อนร้อน ๆ ในบรรยากาศหนาว ๆ พร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ ก่อนเข้านอน
Day 2
ตักบาตรข้าวเหนียว
รู้ว่าขี้เกียจและกำลังทะเลาะตบตีกับหมอน ผ้าห่มอยู่ใช่ไหมล่ะ! ฝืนตื่นเช้ากันหน่อยสัก 05.30 น. จะได้มีเวลาไปเที่ยวได้หลายจุด วันที่เราไปโชคดีตรงกับวันพระ จึงมีพระสงฆ์ออกมาเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืดก่อนสว่าง ใครที่เคยไปเที่ยวหลวงพระบางก็คงจะให้อารมณ์เดียวกัน ภาพที่พระจากหลายวัดเดินเป็นขบวนยาวเหยียดมารับบาตรจากญาติโยม นี้ถือว่าเป็นโมเมนต์ยามเช้าที่พิเศษมาก ๆ หาดูไม่ได้จากที่ไหน รับพร รับพลังงานดี ๆ ก่อนไปลุยเที่ยวกันต่อ
ดูหมอกที่ภูทอก
หรือถ้าใครพอมีเวลาก็ขับรถไปประมาณ 15 นาที ก็สามารถขึ้นไปรับไอหมอกบนยอดเขาภูทอกได้นะ จอดรถด้านล่าง ซื้อบัตรเสร็จก็รอขึ้นรถท้ายกระบะ จุดนี้แหล่ะที่จะได้ฟีลแอดเวนเจอร์หน่อย เพราะถนนที่ขึ้นภูค่อนข้างหวาดเสียว ทั้งโค้งและชันรถสวนกันลำบากต้องเป็นคนขับที่ชำนาญมากจริง ๆ ทัศนียภาพด้านบนถือว่าคุ้มค่าแก่การตื่นเช้าที่สุด วินาทีที่แสงสีส้มค่อย ๆ โผล่ขึ้นหลังทิวเขา เผยให้เห็นสายหมอกหนา ๆ อยู่เบื้องหน้า อาจจะเผลออุทานเลยว่า นี้มันสวรรค์ชัด ๆ
พอฟ้าเริ่มเปิดสว่างขึ้นก็ทำให้เห็นวิวแบบพาโนราม่า 360 องศา ภูเขาลูกใหญ่ บ้านเรือนผู้คน และแม่น้ำโขงอยู่ไม่ไกล เริ่มหิวแล้วก็ถึงเวลานั่งรถลงมาข้างล่าง มีตลาดเล็ก ๆ ขายของที่ระลึกของกินอาหารเช้าเพียบ ทั้งข้าวจี่ทาไข่ ข้าวหลาม หมูปิ้ง ไส้กรอกย่าง กาแฟ เครื่องดื่มร้อน ๆ ขาดไม่ได้ก็ต้องเมนูข้าวเปียกเส้น ข้าวต้ม ไข่กระทะ อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าหนา ๆ หมวกและผ้าพันคอไปด้วยล่ะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา แต่ถ้าใครลืมหาซื้อจากร้านค้าได้เลย
อิ่มแล้วก็ถึงเวลากลับมาที่พัก อาบน้ำ เก็บของ เตรียมเช็กเอ้าท์ พอมีเวลาว่างสักนิด ถ้าใครยังไม่เหนื่อยก็สามารถไปเดินเล่นหรือปั่นจักรยานริมโขง หาซื้อของฝากก่อนได้นะ ให้ความรู้สึกคนละอารมณ์กับถนนคนเดินตอนกลางคืนที่คนเยอะแลดูวุ่นวาย แต่ตอนกลางวันกลับเงียบสงบ แถมใกล้ ๆ ยังมีวัดเก่าแก่หลายวัดให้ได้แวะชมความงามตลอดเส้นทาง
สกายวอล์คภูคกงิ้ว
บ่ายนี้เพิ่มความตื่นเต้นกันหน่อยสำหรับคนที่กลัวความสูง รับรองต้องมีขาสั่นกันบ้างแหล่ะ จอดรถ ซื้อตั๋ว พร้อมรับรองเท้ากันลื่น ต่อคิวขึ้นรถกระบะไปไม่ไกลก็จะได้เจอกับองค์พระยืนขนาดใหญ่ ที่หันหน้าไปทางฝั่ง สสป. ลาว สร้างความโดเด่นให้กับ Sky Walk แห่งนี้ ด้านซ้ายมือยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สี คือแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ได้รูปรัว ๆ จนเลือกลงสตอรี่ไม่ถูกเลย
ปางช้างเผือกเชียงคาน
ลงรถมาด้านล่างยังมีจุดให้แวะอีก สำหรับคนที่รักสัตว์มีฟาร์มเล็ก ๆ รูปปั้นน่ารัก ๆ สำหรับถ่ายรูป ไฮไลท์คงจะเป็นการแสดงช้างแสนรู้ ให้อาหาร ป้อนนม น้องช้าง ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก หรือขี่ช้างเข้าป่าก็เป็นประสบการณ์ เที่ยวเชียงคาน ในอีกแบบที่สดใหม่ได้เหมือนกัน
ตาแวว คาเฟ่
ปิดทริปนี้ก่อนกลับขอแวะมาเติมพลังก่อนล่ะกัน คาเฟ่ที่วิวหลักล้านและใช้คำว่าสวยได้เปลืองมากอีกที่หนึ่งในเชียงคาน บรรยากาศสบาย ๆ ใต้ต้นไม้ มีที่นั่งริมโขง นอนดูสายน้ำไหลเอื่อย ๆ ถ้าพกเสื่อมาด้วยก็คงงีบหลับได้เหมือนกัน ที่นี่มีบริการที่พักด้วยนะ จะแวะมาทานข้าว ทานของหวาน จิบเครื่องดื่ม หรือนอนสักคืน รับรองว่าต้องประทับใจ จนอยากกลับมาอีกแน่ ทำให้รู้เลยว่า เชียงคาน ยังมีหลายจุด Unseen ที่ยังซ่อนให้เราค้นหาอีกมาก ไว้รอบหน้าเราจะพาไปตะลุยและรีวิวมาฝากกันอีกนะ หรือปีใหม่นี้ใครมีทริปความประทับใจที่ไหน แวะมาแชร์โมเมนต์ดี ๆ กันได้เลย
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia
Main, Hero and Featured images: by theimaxzakung via Instagram
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.