*“เรามีความสุขเมื่อความต้องการและความปรารถนาถูกเติมเต็ม *
*เราจะมีความสำเร็จที่ยั่งยืนได้เมื่อเรากระทำสิ่งที่มีความหมายในปัจจุบัน *
*และเป็นประโยชน์ต่ออนาคต” *
*Cr. พ่อ *
คุณเกิดมามีพ่อกี่คนคะ ฉันมีพ่อสองคน คนแรกคือคนให้กำเนิด ให้ฉันมีร่างกายมีลมหายใจ
แต่น่าเสียดายที่ท่านจากไปเร็ว เกินกว่าจะได้เติมกำลังใจและกำลังความคิดให้ฉัน และมองเห็นฉันในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่
แม้ชีวิตวัยเด็กของฉันจะยากลำบาก แต่ฉันก็ยังโชคดีที่ได้ทำงานที่ดีและมั่นคง นั่นคือการเป็นหมอผ่าตัดหัวใจ
อาชีพที่ทำให้ฉันได้เจอผู้คนที่หัวใจพังทลาย และได้เจอพ่อคนที่สองของฉัน ส่วนสิ่งที่ยังไม่มั่นคงก็คงเป็นจิตใจของฉันเอง
คนไข้ของฉันมี 2 ประเภท ประเภทแรกคือคนที่ร่ำรวยมหาศาล ภาพภายนอกดูประสบความสำเร็จแต่เขากลับไม่มีความสุข เพราะลืมไปแล้วว่านอกจากเวลาหาเงินเขาใช้ชีวิตกับการทำอะไรได้อีก
เวลากลับมาที่บ้านบางคนใช้คำว่า “สถานที่ของความโดดเดี่ยว” เพราะบ้านนั้นใหญ่โตจนไม่รู้ว่าใครอยู่ตรงไหน และเหงาเงียบเพราะไม่มีใครคุยกัน เมื่อถึงวิกฤตชีวิตที่ไม่ใช่เรื่องเงิน หัวใจจึงพร้อมจะหยุดเต้นในทันที
ประเภทที่สองคือ ดูมีความสุขแต่ขาดความมั่นคง ภาพภายนอกดูสโลไลฟ์ ทำงานเพื่อผู้อื่นมากมายแต่ยังมีปัญหาการเงิน หนี้สิน ลูกก็ต้องเรียน พ่อแม่ก็ต้องเลี้ยง แต่ก็ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตกับการทำงานเพื่อหาเงิน
เมื่อถึงวิกฤตรุนแรงเรื่องเงิน หัวใจจึงพร้อมจะหยุดเต้นในทันทีเช่นกัน
*แล้วความสมดุลระหว่างความสุขและความสำเร็จมันอยู่ตรงไหน? *
*แล้วเราจะเริ่มต้นทำสิ่งนั้นได้อย่างไร? *
คำถามที่เกิดขึ้นในใจฉันอยู่เสมอ เพราะฉันเองก็ยังแก้ไขตัวเองไม่ได้ในบางเวลา
ในวันที่ฝนตกปรอยๆ ฉันนั่งจิบกาแฟที่ริมระเบียงมองดูแปลงผักที่พ่อคนที่สองของฉันท่านชวนปลูกเมื่ออาทิตย์ก่อน
ท่านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ ท่านใช้ชีวิตเรียบง่าย มีเวลาให้กับความรักความสัมพันธ์อย่างเหมาะสม เชื่อมโยงผู้คนให้ทำประโยชน์ และร่ำรวยอย่างมีความสุข
น่าแปลกใจ ในชั่วขณะที่ฉันกำลังระลึกถึงเรื่องนี้ พ่อก็เดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมกับจิบชาแก้วโปรดของท่าน
“พ่อคะ พ่อเริ่มต้นการหาจุดสมดุลของตัวเองยังไงเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จและมีความสุขอย่างทุกวันนี้?”
พ่อหันมายิ้มด้วยความชอบใจ ประหนึ่งว่าฉันรอให้เธอถามคำถามนี้มานานแล้วนะ
“ พ่อก็เริ่มจากการเจอปัญหา แล้วถามคำถามตัวเองง่าย ๆ ทุกวัน 4 คำถาม
นั่นคือ *อะไรคือสิ่งที่ฉันควรทำมากขึ้น ทำน้อยลง เริ่มทำ หรือเลิกทำ “ *
*1. ฉันควรทำอะไรมากขึ้น? *
สิ่งที่ควรทำมากขึ้น ข้อสังเกตคือ เป็นสิ่งที่ทำแล้วดีต่อชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เช่น ตื่นเช้าขึ้นเพื่อมาออกกำลังกาย ( เพราะการออกกำลังกายนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรง กระตุ้นสมองให้สดชื่น การตื่นเช้ายังจะช่วยลดปัญหาการไปทำงานสายเพราะตื่นสายด้วย) , สื่อสารให้มากขึ้น , ใส่ใจคนที่มีความหมายกับชีวิตมากขึ้น , ปฏิเสธงานที่ไม่ได้มีความหมายกับชีวิตให้มากขึ้น เป็นต้น
*2. ฉันควรทำอะไรน้อยลง? *
ข้อสังเกตคือ เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่ได้ให้ผลดีต่อชีวิต เช่น การเล่นโซเชียลมีเดีย ( เพราะนอกจากทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน ยังทำให้เราพูดคุยกับคนที่เรารักน้อยลง), สนใจคนที่ไม่ควรสนใจให้น้อยลง , อยู่ใกล้คนที่มีปัญหากับทุกอย่างบนโลกให้น้อยลง , ออกปาร์ตี้เพียงเพื่อความเมาหรือความสนุกน้อยลง ,ตอบตกลงเพียงเพื่อรักษาน้ำใจหรือหน้าตาให้น้อยลง เป็นต้น
*3. อะไรที่ฉันควรทำแต่ยังไม่ได้เริ่มทำ? *
ข้อสังเกตคือ สิ่งที่จะทำนั้นเป็นการก้าวข้ามความคุ้นเคยและต้องใช้การมีวินัยและความมุ่งมั่นมหาศาล แต่จำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เพื่ออนาคตที่แสนวิเศษเช่น การมีวินัยในการอ่านและหาความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
อย่างเราทำธุรกิจ ความรู้เรื่องการเงิน การลงทุน การตลาดก็ต้องเริ่มเรียนรู้ แม้จะเคยรู้สึกว่าเป็นยาขมก็ตาม , เริ่มทำงานที่อยากทำและเรามีความรู้เรื่องนั้น เป็นต้น
*4. อะไรที่ฉันควรเลิกทำโดยสิ้นเชิง? *
*ข้อสังเกตคือ เป็นกิจกรรมที่เลิกทำแล้วได้เวลาชีวิตกลับมา * เช่น การเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง เลิกเป็นคนขี้เกรงใจจนหลายครั้งที่ตัวเองต้องเดือดร้อน เลิกเอาแต่บ่นคนอื่นโดยที่เราไม่ลงมือทำ เป็นต้น
เมื่อเรารู้ว่าอะไรที่ควรทำน้อยลง อะไรที่ควรเลิกทำโดยสิ้งเชิง สิ่งที่ลูกจะได้รับทันทีคือ “เวลา”
*แล้วเอาเวลานั้นมาทำสิ่งที่ลูกควรทำมากขึ้น การเริ่มต้นทำในสิ่งที่ควรทำและมีความหมายกับชีวิต *
โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจย่อมอยู่ไม่ไกล เพิ่มเติมคือความสุขที่ได้จากการรักษาความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและความภาคภูมิใจในตัวเอง
อย่าเพิ่งเชื่อพ่อนะลูก ลูกต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวลูกเอง
ดริปการแฟดูแลใจ ฉบับกัลยาณมิตร
www.earnpiyada.com
----------------------------------------------------------------------------
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา :https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
ความเห็น 5
Keng
ยอดเยี่ยมครับ ถามตัวเอง 4คำถาม.... ^_^
25 ธ.ค. 2562 เวลา 12.45 น.
P’ BOb
มีเงินพอใช้จ่าย หนี้จำเป็นต้องมีเพราะต้องซื้อต้องลงทุนทั้งบ้านรถ ความสุขคือการดำรงจิตให้มั่นคง แม้มีปัญหาและอุปสรรค คิดว่าไม่มีอะไรแน่นอน เดี๋ยวก็ผ่านไป
29 ก.ค. 2562 เวลา 04.16 น.
คิดว่าความสุขและความสำเร็จที่แท้จริงย่อมที่จะเกิดขึ้นมาได้ก็ด้วยเพราะในการตัดสินใจกับในสิ่งที่ถูกต้องด้วยตัวของเราเอง.
24 ก.ค. 2562 เวลา 13.58 น.
sirikorn
อ่านแล้วใช่, แต่ต้อมีโชคช่วยมีเงินใช้,
24 ก.ค. 2562 เวลา 12.48 น.
หนึ่ง
อยู่บ้านเล่น แต่มือถือแทบไม่ค่อยคุยกันคงต้องหันมาคุยกันให้มากขึ้น ดีต่อใจครับคุณหมอ
24 ก.ค. 2562 เวลา 11.07 น.
ดูทั้งหมด