ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวดังที่เป็นที่สนใจของผู้คนคือข่าวการแยกทางของสองดาราซุปเปอร์สตาร์เอเชีย
ซองจุงกิ และซองเฮเคียว กระแสของข่าวที่ออกมา มักพาดหัวข่าวถึงความรู้สึกตกใจ ความรู้สึกช๊อคของผู้คนที่ได้รับข่าวนี้
ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นแฟนละครเกาหลีหรือไม่ก็ตาม
เพราะข่าวความรักของทั้งคู่โด่งดังไปทั่วเอเชีย โดยเฉพาะจดหมายประกาศแต่งงานของซองจุงกิ
ที่มีเนื้อความลึกซึ้ง แสดงถึงพลังของความรักที่มีให้กับผู้หญิงในฝันจนถึงวันที่ได้เธอมาเคียงข้างในชีวิตจริง
ทำให้ทุกคนรู้สึกยินดีและมีความสุขไปร่วมกับเขาและเธอ
แน่นอนว่าเมื่อมีข่าวการหย่าร้างออกมา ก็ย่อมมีคนสนใจเป็นทวีคูณว่า “เพราะอะไร?”
ทุกคำตอบในทุกแหล่งข่าวหลักจะให้เหตุผลเหมือนกันหมดคือ “เพราะเขาสองคนไม่สามารถปรับตัวเข้ากันได้”
การให้ข่าวแบบนี้ในทางเดียวกันทั้งหมด ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับ ซองจุกิ และซองเฮเคียว
ในฐานะของบุคคลสาธารณะของเอเชีย ที่ความจริงคือมนุษย์ธรรมดาที่ยังมีความคิด ความรู้สึก ความเจ็บปวด
และต้องการเวลาในการเยียวยาจิตใจเช่นเดียวกับคนทั่วไป และแน่นอนว่าช่วงเวลาเยียวยานี้ ทั้งสองจำเป็นต้องมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับความรู้สึกของตัวเอง และข้อดีกับคนเสพข่าว ที่ไม่ต้องไปใช้เวลาในการตามอ่านข้อความมากมายที่อาจไม่มีความจริงอะไรอยู่เลย
หมอเองก็เป็นแฟนละครของซองเฮเคียวมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แม้ว่าโตขึ้นจะไม่ได้มีโอกาสติดตามผลงานเช่นเคย
แต่ข่าวนี้ก็ทำให้หมอสนใจไม่น้อยและหวนกลับมาทบทวนว่า
เราได้เรียนรู้อะไรจากความรักของทั้งคู่มากกว่าการหาคำตอบว่าเพราะอะไร เขาทั้งสองจึงเลิกกัน
#รักแค่ไหนก็ต้องปล่อยมือ
จากประสบการณ์ส่วนตัว ประสบการณ์การเป็นนักแต่งเพลง ประสบการณ์การเป็นจิตแพทย์ ได้พบเจอเรื่องราวความรักมากมาย หลายครั้งพบว่าบางคู่รู้สึกว่า ยิ่งรัก ยิ่งต้องเลิก เพื่อรักษาความทรงจำที่ดีที่เคยมีให้กัน
เพราะความแน่ชัดในเป้าหมายของชีวิตที่แตกต่าง คนที่เลิกรากันด้วยเหตุผลนี้มักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาเพราะต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้และเติมเต็มให้กันถึงจุดที่พอดี แต่หากมากไปกว่านี้มักจะไม่พอดี
ข้อนี้ แม้แต่ความรักที่ไม่มีวันเลิกกันได้ อย่างความรักของพ่อ แม่ ลูก
พ่อแม่ไม่มีวันเลิกเป็นพ่อแม่ได้ ไม่มีวันเลิกรักลูกได้ แต่ถึงวันนึงยิ่งรักลูกก็ยิ่งต้องปล่อยให้ลูกเป็นอิสระ
#รัก ไม่ได้เท่ากับการแต่งงาน
ในวัฒนธรรมไทยสมัยก่อน หรือในละครเราจะพบว่า คนสมัยก่อนแต่งงานด้วยความเหมาะสมจากการบังคับของผู้ใหญ่
แม้ไม่ได้รักกัน ยุคสมัยนี้โชคดีตรงที่เรามีอิสระในการเลือกคนที่เราจะแต่งงานด้วยตัวเอง เรามักเลือกจากความรัก ความรักเป็นความรู้สึก ส่วนความเหมาะสมเป็นเหตุและผล และธรรมชาติสร้างอารมณ์ให้อยู่เหนือเหตุผลเสมอ
แต่ความจริงคือเราต้องใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลให้สมดุล การใช้ความรักตัดสินใจแต่งงานเป็นเรื่องง่าย แต่การใช้ความรักเพียงอย่างเดียวในการรักษาชีวิตคู่เป็นเรื่องยาก เพราะความรักไม่มีเงื่อนไขแต่การแต่งงานมักมีเงื่อนไข การแต่งงานนั้นจะยั่งยืนได้จึงต้องอาศัยมากกว่าความรัก
#การแยกทางเป็นคนละเรื่องกับคุณค่าในตัวคน
เวลามีการเลิกราเกิดขึ้น ฝ่ายที่ถูกบอกเลิกมักเกิดคำถามว่า “เราไม่ดีตรงไหน?” “เราผิดอะไร?”
คำถามนี้เราไม่อาจหาคำตอบที่จริงได้ นอกจากรับรู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ใจคนย่อมเปลี่ยนแปลง
แต่คุณค่าของเราไม่มีใครพรากมันไปจากเราได้นอกจากความคิดที่เรามีต่อตัวเราเอง
#การฟ้องหย่าไม่ได้แปลว่าจบด้วยความขัดแย้งเสมอไป
การฟ้องหย่าของซองจุงกิ ทำให้เราได้มีความรู้ใหม่ว่า การหย่าของประเทศเกาหลีมีขั้นตอนทางกฎหมายมากมาย ไม่เหมือนกับประเทศไทย และการฟ้องหย่าต้องเกิดจากการยินยอมพร้อมใจของทั้งคู่เท่านั้นไม่ได้เป็นเพราะความบาดหมาง ดังนั้นการที่คนสองคนยุติบทบาทการเป็นสามีภรรยา ไม่ได้หมายความว่าต้องมีทัศนคติเชิงลบต่อกันเท่านั้น
ไม่เหมือนมุมมองของประเทศไทย ที่คำว่า ”ฟ้องหย่า” คือการที่คนสองคนตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันไม่ได้ จนกลายเป็นความบาดหมางที่ไม่อาจหันหน้ามาคุยกัน จึงต้องใช้กฎหมายเป็นตัวกลาง
#ทำอย่างไรกับความรักที่อยู่ตรงหน้า
ตราบใดที่ธรรมชาติคือการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราควรทำคือทำทุกวันให้ดีที่สุด เหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
เพราะไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่เสียใจ และไม่ต้องสงสัยว่า “ฉันทำดีต่อเธอพอหรือยัง?”
#อย่าปล่อยชีวิตให้ถึงวันที่รักเท่าไรก็ยังไม่พอ
ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วสำหรับความสัมพันธ์ แต่อีกฝ่ายยังคงโหยหาความรักจากคนอื่น
ให้กลับมาถามตัวเองเสมอว่า “เราดีไม่พอ หรือเค้าไม่รู้จักพอ?” ถ้าเราเลือกที่จะรอ ก็ควรรออย่างมีจุดหมาย
ถึงตอนนี้ ไม่ว่าทั้งซองจุงกิ และซองเฮเคียวจะเลิกรากันด้วยสาเหตุอะไร ไม่สำคัญเท่าเราได้เรียนรู้อะไรจากความรักของสองคนนี้
You Are Not Alone
เพลงนี้ดีต่อใจ ความทรงจำ (original version)
วิ่งนี้ดีต่อใจ Happy DIY
----------------------------------------------------------------------------
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
IG : https://www.instagram.com/earnpiyada/
----------------------------------------------------------------------------
Website : http://www.earnpiyada.com/
ความเห็น 7
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ เลิกรักเลิกทุกข์ หยุดรักหมดทุกข์
03 ก.ค. 2562 เวลา 14.16 น.
อยู่เป็นโสดไป สมัยนี้แม่งมีแต่พวกหลอกแดก ไม่มีหลอกความรงความรักห่าเหว เพ้อ เวิ่นเว้อกันทั้งนั้น อยู่กับความเป็นจริง ทำงาน เก็บตังค์ ค้นคว้า ก่อร่าง สร้างฐานะ มีลูกน้อง มีบริวาร เลี้ยงแมว อยากมีความรักไว้ค่อยไปหาตอนแกนู้น มึงจะมาเอาอะไรกับผู้หญิงสมัยนี้ ไว้เหลือๆแล้วค่อยจัด ผู้หญิงมันไม่ปล่อยให้ตัวเองดูแก่หรอก ยิ่งได้วัย 35 - 45 แบบหุ่นยังดีอยู่นะ แล้วยังโสด ไม่เคยมีแฟน กับผู้ชายวัย 50+ เห็นอายุแบบนั้นกูเห็นล้างหน้าไก่มาหลายคนแล้ว วัยนุ่มวัยสาว 20 30 มันแค่น้ำจิ้ม ของจริงเขาจัดเมื่อพร้อมจริงๆ🍆💦
04 ก.ค. 2562 เวลา 01.29 น.
Lady Cat
คุณพยามจะสื่อแต่วนจนไม่เข้าใจคำตอบ
03 ก.ค. 2562 เวลา 15.52 น.
Tickety-Boo!!!🐈
หลักคำสอนของศาสนาพุทธ..ทุกอย่างในโลกล้วนอนิจจัง.
อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง. เป็นอยู่และก็ดับไป.
ดังเช่น..ความรัก. ไม่ว่าจุดจบของความรักจะเป็นเช่นไร? ความรักย่อมสวยงามในใจเสมอ.
เพราะ..ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน💞
03 ก.ค. 2562 เวลา 19.00 น.
ถ้าคนเรามีเหตุผลและความเข้าใจในกันและกันแล้ว ทุกอย่างย่อมที่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี.
05 ก.ค. 2562 เวลา 02.15 น.
ดูทั้งหมด