โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เขาวิจัยมาแล้ว... ทำไมเราต้องไปทะเลบ่อยๆ

Health Addict

อัพเดต 28 ม.ค. 2562 เวลา 04.24 น. • เผยแพร่ 28 ม.ค. 2562 เวลา 03.40 น. • Health Addict
“ร่างกายต้องการทะเล” “ช่วงนี้รู้สึกเศร้าๆ สงสัยขาดวิตามิน Sea” เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดไปเอง เพราะมีการวิจัยมาแล้วว่า หาดทราย สายลม แสงแดด และน้ำทะเลสีคราม นั้นดีต่อร่างกายและเยียวยาจิตใจของเราได้จริง

“ร่างกายต้องการทะเล” หรือความรู้สึกขาดวามินซี (Sea) ดูเหมือนจะเป็นประโยคที่ผุดขึ้นมาในหัวทุกทีในช่วงที่เรารู้สึกเครียด
ซึ่งความรู้สึกดีอย่างน่าเหลือเชื่อที่เราได้รับจากการเพียงแค่นอนทอดกายเฉยๆ ริมหาดท่ามกลางแสงแดดอุ่น ฟังเสียงคลื่นที่มีน้ำทะลสีครามเป็นฉากหลัง ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อจิตใจ แต่ยังดีต่อร่างกายของเราอีกด้วยนะ
ผลวิจัยของ ดร.เจ. แอรอน ฮิปป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจากนิวยอร์ก ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม อธิบายว่า“มีการศึกษาหลายชิ้นพิสูจน์ว่าการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างน้ำตกและทะเล ส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าไปยิมหรือเดินเที่ยวชมเมืองซะอีก และคนที่ไปทะเลในวันที่อากาศดี แสงแดดอุ่น คลื่นลมไม่แรง ก็จะรู้สึกได้รับการฟื้นฟูมากกว่าคนไปทะเลในวันที่สภาพอากาศไม่ดีถึง 30%”
“ทั้งแสงแดดและเกลียวคลื่นทำให้ร่างกายของเราผ่อนคลายอย่างแท้จริง ช่วยคลายความเจ็บปวด และขจัดความเครียดในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเพราะเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขและความผ่อนคลายถูกหลั่งออกมาทันทีที่ถึงชายหาด แต่รวมถึงภาพของเกลียวคลื่นและเสียงจากทะเล ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกสงบมากขึ้น”

Photo by Glen Jackson on Unsplash • หาดทราย ฝ่าเท้าของคนเราเป็นจุดศุนย์รวมของเส้นประสาทมากมาย นั่นทำให้การเดินบนผืนทรายนุ่มนิ่มด้วยเท้าเปล่าเปลือยสร้างความรู้สึกดีแถมทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเท้าแข็งแรงขึ้นอีกด้วย เพราะมีการศึกษาแล้วว่าการเดินเท้าเปล่าบนทรายช่วยกระตุ้นเส้นประสาทและใช้พลังงานน้อยกว่าเดินบนพื้นแข็งๆ ราว 1.6 - 2.5 เท่าเลยล่ะ ดร.เธียร์รี เอ็ม. เลจูน แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูจากเบลเยียม ย้ำว่า“กล้ามเนื้อของเราทำงานได้มากขึ้นเมื่อเดินหรือวิ่งบนทราย” การเดินบนพื้นทรายเสมือนการขัดผิว ช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วและกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ การฝังตัวลงในทรายยังเพิ่มระดับการเผาผลาญ โดยสมองจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้สูงขึ้นกว่าปกติด้วย
• แสงแดด คนเมืองร้อนอย่างเราอาจจะเคยชินกับแสงแดดเจิดจ้าและกลัวอันตรายจากแสงแดดมากกว่าที่จะนึกถึงประโยชน์ แต่รู้มั้ยว่าการตากแดดอย่างน้อย 10 นาทีช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีในร่างกาย เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมที่ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ทั้งยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ เช่น หัวใจล้มเหลว โรคหัวใจ โรคสมองและหลอดเลือด ทั้งยังเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันและช่วยให้เกิดการหลั่งเอ็นดอร์ฟินส์ ยาแก้ปวดตามธรรมชาติที่ร่างกายเราสร้างขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าในแสงแดดมีรังสีที่อันตรายต่อผิวทั้งยูวีเอ ยูวีบี และยูวีซี จึงควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง แล้วอย่าลืมแว่นกันแดดทรงเก๋เพื่อปกป้องดวงตาคู่งามของเราด้วยล่ะ

Photo by Shazmyn Ali on Unsplash
• น้ำทะเลสีคราม น้ำทะเลเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ทั้งไอโอดีน โพแทสเซียม และแมกนีเซียมจึงมีคุณสมบัติการล้างพิษและรักษาการติดเชื้อได้ ส่วนความเค็มที่เกิดจากเกลือก็ช่วยทำความสะอาดและรักษาสิว ลดการอักเสบของผิว และลดความมันบนหนังศีรษะได้ นอกจากนี้ สีครามยังช่วยให้ใจเย็นและอารณ์ดีขึ้น ส่วนเสียงคลื่นก็กระตุ้นให้เกิดการหลั่งของเซโรโทนินและโดพามีน การไปทะเลครั้งหนึ่งจึงบำบัดความเศร้าได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ใครที่ชอบว่ายน้ำในทะเลก็จะเกิดประโยชน์ขึ้นไปอีก เพราะเพียงครึ่งชั่วโมงนั้นสามารถเผาผลาญได้กว่า 200 kcal ช่วยคลายเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลต่างๆ ได้ ทั้งยังช่วยลดการเจ็บของข้อต่อ บรรเทาอาการโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย… แต่อย่าลืมว่าน้ำทะเลในปัจจุบันมีการปนเปื้อนสารเคมีซึ่งก็เป็นฝีมือของมนุษย์เราเองนี่แหละ ฉะนั้น เล่นน้ำเสร็จแล้วก็ควรอาบน้ำให้สะอาดอีกรอบจะดีกว่า   เพียงแค่คุณใช้เวลาที่ชายหาด 2-3 ชั่วโมง ให้ธรรมชาติได้บำบัดและเยียวยาร่างกายและจิตใจในตอนกลางวัน หากใครที่มีปัญหานอนไม่หลับจะพบว่าปัญหานั้นจะหายไปด้วย เพราะนอนหลับง่ายขึ้น ดังนั้นถ้ามีเวลาว่าง 1-2 วันแล้วไม่รู้จะไปไหน ก็จัดกระเป๋า เอาชุดว่ายน้ำตัวเก่งติดตัว แล้วมุ่งหน้าไปชายหาดที่ใกล้ที่สุดกันดีกว่า
 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...