รู้หรือไม่ว่า นอกจากวัดจุฬามณีแล้ว วัดอื่นๆ ใน จ.สมุทรสงคราม ยังมี “ท้าวเวสสุวรรณ” อีกกว่า 10 แห่ง ซึ่งวันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปชี้จุดกันค่ะ ไหนๆ ไปแล้วก็จัดให้ครบไปเลย
“ท้าวเวสสุวรรณ” เป็นเจ้าแห่งยักษ์ อสูร ภูติ ปีศาจ ป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายมาสร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์ คอยดูแลและคุ้มครองโลกมนุษย์ให้ปลอดภัย และยังเชื่อว่าท่านเป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย โชคดี และยังคอยช่วยเหลือเทพองค์อื่นๆ ในการทำภารกิจต่างๆ ให้ลุล่วงสำเร็จอีกด้วย คนจึงหลั่งไหลไปสักการะ “ท้าวเวสสุวรรณ” กันไม่ขาดสายโดยเฉพาะที่วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม แต่นอกจากที่วัดจุฬามณีแล้ว รู้หรือไม่ว่าใน จ.สมุทรสงคราม ยังมี “ท้าวเวสสุวรรณ” อีกกว่า 10 แห่ง ซึ่งวันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปชี้จุดไหว้กันค่ะ ไหนๆ ไปแล้วก็จัดให้ครบไปเลย
2.วัดศรัทธาธรรม
องค์“ท้าวเวสสุวรรณ” สีเขียวนวล (กำลังจะดำเนินการลงรักปิดทองทั้งองค์ ต้องรีบมาไหว้ให้มีภาพประวัติศาสตร์) มีให้เขียนแผ่นทองแดงฝากดวงใต้ฐานองค์ปู่ เข้าหน้าซุ้มประตูวัดอยู่ขวามือ
วัดอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ การเดินทางสะดวก มีการก่อสร้างที่สวยงาม แรกที่เห็นโดดเด่นแต่ไกลคือหอระฆัง หอกลอง ซึ่งครั้งแรกที่เห็นนึกว่าเป็นยอดเจดีย์ รูปทรงสถาปัตยกรรมคล้ายชาวมอญ จึงแวะเข้าไปชม ปรากฏว่าเป็นหอระฆัง ซึ่งต้องขอชมผู้ที่สร้างหอระฆังนี้ แปลกไม่เหมือนวัดใดที่เคยผ่านมา วัดนี้อยู่ติดริมคลองแพรกลึก ก่อนถึงสามแยกถนนสาย 2003 ทางที่จะไปวัดบางจะเกร็ง
3.วัดศรีศรัทธาธรรม
“ท้าวเวสสุวรรณ” องค์ใหญ่ 2 องค์ ถ้าไหว้ในเต้นท์จะเห็นแค่เท้า แต่ถ้าออกมาไหว้นอกรั้วจะได้เห็นทั้งองค์
4.วัดสวนแก้วอุทยาน
“ท้าวเวสสุวรรณ” หล่อโลหะ มี 2 องค์ หน้าเทพ และ หน้ายักษ์ ไปช่วงกลางวัน ได้ไหว้พี่ไข่เด็กวัดสวนแก้วอีกด้วย ถ้าสะพานสร้างเสร็จ จะได้ข้ามฝั่งไปวัดนางตะเคียน ใกล้กันแค่นิดเดียว
5.วัดนางตะเคียน
"ท้าวเวสสุวรรณ" อายุกว่า 400 ปี องค์แรกของจังหวัดสมุทรสงคราม ปฐมบทแห่งเมืองยักษ์ พร้อมคู่บารมีคือยักษ์แม่ใหญ่ (พระนางสุพรรณอัปสร) รูปปั้นนางยักษ์อายุกว่า 100 ปี มีตำนานเล่าขานว่า เดิมทีตั้งอยู่ริมน้ำ กาลเวลาผ่านไป สายน้ำกัดเชาะตลิ่งฝัง แม่ใหญ่จึงทลายจมลงไปในน้ำ และไม่มีใครคิดที่จะงมขึ้นมา จนกระทั่งประมาณปลายปี พ.ศ 2551 มีข่าวว่าชาวบ้านคนหนึ่งฝันไปว่ามียักษ์ตนหนึ่งจมอยู่ในน้ำริมคลองวัดนางตะเคียนมานานหลายสิบปีแล้วและนอนหนาวอยู่ในน้ำด้วย ภายหลังได้นำความฝันไปพูดคุยและปรึกษากับผู้รู้หลายๆ คน ชาวบ้านแถวนั้นให้ทำบายศรีและทำพิธีบวงสรวงขึ้นก็ปรากฏว่าเรือเครนสามารถยกท่อนหินนั้นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย จึงได้นำประดิษฐานในพื้นที่ปัจจุบัน ความศักดิ์สิทธิ์หรืออิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่องลือไปไกลทำให้มีคนเดินทางมาเพื่อกราบไหว้ขอพรกันมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของโชคลาภ
6.วัดอินทาราม
“ท้าวเวสสุวรรณ” เนื้อปูนปั้น หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ภายในบรรจุผงเนื้อสมเด็จวัดระฆัง ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มาเต็ม ภายในวัดสวยงาม มีสิ่งที่อยู่คู่วัด ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนวัดอินทาราม ได้แก่
- ปิดทองหลวงพ่อโต ซำปอกง อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ชมโบสถ์มหาอุตม์
- สำหรับคนดวงตก แนะให้ มา ลอดใต้โบสถ์ (โบสถ์หินอ่อนทั้งหลัง) เสริมดวง สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง โดยใต้โบสถ์กราบขอพรหลวงพ่อรวยและชมพระอริยสงฆ์ 1,250 องค์ ที่เดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม
- โบสถ์หินอ่อนด้านใน ที่มีช่องให้ลอดเสริมมงคล
7.วัดบางเกาะเทพศักดิ์
“ท้าวเวสสุวรรณ” มีทั้งภาคหินญาณและมหาญาณ ร่างยักษ์ 2 องค์ วรรณะเขียวและแดง และร่างเทพไฉ่ซิงเอี้ย ประทับนั่ง คู่กับพระคลังในพระคลังมหาสมบัติ ประดิษฐานหน้าซุ้มประตูทางเข้าวัด
วัดบางเกาะเทพศักดิ์ เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2300 ภายในวัดสวย มีหลายจุดน่าสนใจ อาทิ
- พระอุโบสถ พระเสมาคู่
- ศาลหลังพระอุโบสถ เป็นทหารพระเจ้าตากสินผู้ช่วยออกรบกอบกู้เอกราช
- ริมน้ำมีศาลาพระโพธิสัตว์กวนอิม อากาศเย็นสบาย
- ริมน้ำมีศาลาท่านปู่ท่านย่าพญานาคองค์ศรีสุทโธและท่านย่าศรีปทุมมา
- ก่อนริมน้ำมีศาลเทพแห่งความสำเร็จพระพิฆเนศ
- หน้าพระอุโบสถมีศาลเทพทันใจ
8.วัดประทุมคณาวาส
“ท้าวเวสสุวรรณ” องค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง องค์ท้าวเวสสุวรรณปาง 3 ขา รองเท้าไม่ใส่ ฟัน 8 ซี่ สีเขียวกากี โดยมีมือ 2 ข้างสอดประสานกลุ่มด้านกระบองเอาไว้ด้วยความหนักแน่น (ต่างจากที่อื่นที่มือจับด้ามกระบองเอาไว้) ปาง 3 ขานี้นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ว่าท่านเหยียบไปได้ทั้งสามโลกแล้วยังเป็นปริศนาธรรมแขวงเล่นอันหมายถึงหลักไตรลักษณ์ทั้งสามประการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ทั้งนี้ท้าวเวสสุวรรณปางสามขาแห่งวัดปทุมคณาวาสและเปิดให้ขอพรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
9.วัดปากสมุทร
“ท้าวเวสสุวรรณ” สร้างขวัญกำลังใจให้ชาวประมงทั้งปวง
วัดปากสมุทร เป็นวัดเก่าแก่อีกวันหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากอ่าวแม่น้ำแม่กลองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบสักการะบูชาหลายอย่าง เช่น หลวงพ่อดำพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ และรูปปั้น “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์ใหญ่ ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวประมงทั้งปวง
10.วัดประชาโฆษิตาราม
“ท้าวเวสสุวรรณ” ประดิษฐานหน้าซุ้มวัดเก่า หน้าหลวงพ่อคลี่องค์ใหญ่
วัดวัดประชาโฆษิตาราม เป็นเก่าแก่ที่บรรยากาศดีมาก ร่มรื่น สงบ มีสถาปัตยากรรมที่ดูขลังอลังการ แถมได้กราบสรีระสังขารไม่เน่าไม่เปื่อย หลวงพ่อคลี่ เป็นพระที่ พระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เคยมากราบไหว้
11.วัดลาดเป้ง
“ท้าวเวสสุวรรณ” ประดิษฐานตรงซุ้มศาลาเรือนยอดตรง 4 แยกพอดี อยู่ริมถนนหน้าวัด ความพิเศษของท้าวเวสสุวรรณที่นี่คือ พระอาจารย์อิฏฐ์ แห่งวัดจุฬามณีเป็นผู้สร้างถวาย
12.วัดบางใหญ่
“ท้าวเวสสุวรรณ” ประดิษฐานอยู่หน้าวิหารเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก ภายในวัดมีพระอุโบสถหลังเก่าอายุราว 300 ปี หรือสมัยปลายอยุธยา ปัจจุบันขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปกรแล้ว นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อ อ.รื่น นิลแนบแก้ว ที่ตั้งอยู่ในวิหาร ท่านเป็นฆาวาสยุคสมัยสงครามโลกครังที่ 2 ที่เก่งกล้าและมีวิชาอามคมทางด้านการสักยันต์ มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย
13.วัดบางแคใหญ่
“ท้าวเวสสุวรรณ” ที่นี่มียอดเศียรเป็นพญานาค สร้างมาไม่น้อยกว่า 25 ปีแล้ว
วัดบางแคใหญ่ เป็นวัดสมัยอยุธยา รอบโบสถ์เป็นระเบียงคต มีพระพุทธรูป บางองค์เก่าแก่ศิลปะอู่ทอง (ก่อนยุคอยุธยา) ด้านในวัดมีหอไตรฯเก่า (ตอนนี้กรมศิลป์ฯสั่งปิดไม่ให้ขึ้นชมแล้ว) และมีกุฏิสงฆ์ไม้สัก มีภาพวาดจิตรกรรมสีฝุ่นสมัย ร.2 เดิมๆ ไม่เคยผ่านการซ่อมแซม เป็นเรื่องสงคราม 9 ทัพ และความเป็นอยู่่ของคนไทยในภาคกลาง จิตรกรรมที่นี่ได้รับการตีพิมพ์ในแสตมป์ชุดภาพจิตรกรรมฝาผนังล้ำค่าของไทย 2563 ด้วย
14.วัดคลองขุดเล็ก
“ท้าวเวสสุวรรณ” 3 องค์ สร้างจากทองเหลือง จัดตำแหน่งประดิษฐานได้งดงามลงตัว หล่อขึ้นจากวัดจุฬามณีโดยหลวงพ่ออิฏฐ์เช่นกัน จึงไม่เเปลกใจเลยที่มีผู้ศรัทธามากราบไหว้ไม่ขาดสาย ถึงแม้วัดจะตั้งอยู่นอกตัวเมืองสมุทรสงครามก็ตาม
15.วัดแม่น้ำ
ที่มาข้อมูล-ภาพจากเฟซบุ๊ก : โรตารีสมุทรสงคราม-Rotary Samutsongkhram
