โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เนื้อเรื่องไทม์ไลน์ Call of Duty: Modern Warfare ฉบับเจาะลึกถึงเครื่อง!

GameFever TH

อัพเดต 18 พ.ย. 2562 เวลา 10.54 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2562 เวลา 17.54 น. • GameFever.co

แม้ว่าตัวเกม Call of Duty: Modern Warfare ฉบับ Reboot 2019 จะวางจำหน่ายไปได้ 2 สัปดาห์แล้วแต่กระแสก็ยังแรงมากทั้งคำชมและคำวิจารณ์โดยเฉพาะในโซนฝั่งตะวันตกที่มีประเด็นกันจนกลายเป็น Drama ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมทางการเมืองเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็ได้ขึ้นแท่นเป็นภาคที่มียอดขายสูงที่สุดในบรรดาซีรี่ส์ Call of Duty ทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว นั้นถือได้ว่า Activision และ Infinity Ward ได้บรรลุเป้าหมายของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อย หลายคนอาจจะทราบเนื้อเรื่องเกมนี้จากทั้งซื้อมาเล่นเองหรือดูเหล่า Youtuber เล่นก็ตาม แต่ก็อาจจะไม่ได้เจาะลึกหรือเรียงลำดับเนื้อหาเสียเท่าไหร่ ที่สำคัญเลยคือใน Call of Duty: Modern Warfaree ภาคนี้หลายคนอาจจะมองว่ารัสเซียเป็นวายร้ายที่น่ากลัวจนรู้สึกว่าเป็นการเอียงข้างไปหน่อย แต่หากวิเคราะห์หรือเล่นเองหลายๆ รอบก็จะพบว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้อ่านคิด ฉะนั้นทาง  GameFever TH จะมาทำเนื้อเรื่องของเกมนี้กัน โดยจะเรียงเป็นไทม์ไลน์พร้อมรายละเอียดการวิเคราะห์ส่วนสำคัญๆ และส่วนที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงให้อ่านกัน เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลย

==================================================

จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากอิทธิพลตะวันออก

หากจะบอกว่าจุดเริ่มต้นทั้งหมดทั้งมวลนั้น อยู่ที่ Urzikstan ในช่วงยุคก่อนปี 90 ซึ่งเริ่มมาจากการที่อิทธิพลของรัสเซียได้แผ่มาถึงที่นี่ ทำให้ประเทศฝ่ายเสรีจึงให้การสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้านของ Urzikstan เพื่อคานอำนาจและไม่ให้อิทธิพลของโซเวียตเข้ามามากกว่านี้ ซึ่ง Omar Sulaman ก็เคยเป็นหนึ่งในผู้ต่อต้านและเป็นคนสำคัญของกลุ่มอีกด้วยและต้องการที่จะขับไล่พวกรัสเซียออกไป ในช่วงแรกๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวลับๆ พยายามขับไล่อิทธิพลรัสเซียที่เริ่มมีบทบาทและกลัวว่าประเทศจะโดนกลืนวัฒนธรรม ก่อนจะเริ่มใช้ความรุนแรงด้วยการติดอาวุธและแสดงการต่อต้านไม่เอาอิทธิพลรัสเซียอย่างชัดเจนด้วยการใช้อาวุธภายในประเทศ จนมาถึงจุดเปลี่ยนที่ Omar Sulaman มีความเห็นต่างแบบสุดโต่งออกจากกลุ่มผู้ต่อต้านคนอื่นๆ เขาต้องการตอบโต้รัสเซียคืนบ้างด้วยการก่อการร้ายในรัสเซีย เป็นครั้งแรกที่กลุ่มต่อต้านได้แอบก่อการร้ายนอกประเทศตัวเอง ซึ่งจะนำมาสู่เหตุการณ์ไทม์ไลน์หลักของเกมนี้

เหตุการณ์ Russia Invasion ในปี ค.ศ 1999

เมื่อกลุ่มผู้ต่อต้านหนักข้อขึ้นทุกวันจนมีเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นในรัสเซีย ซึ่งแทนที่จะทำให้รัสเซียเลิกยุ่งกับประเทศ Urzikstan แต่กลับเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับรัสเซียเพื่อบุกรุกประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบโดยทางรัสเซียก็ได้ส่งนายพล Roman Barkov ( รัสเซีย: Роман Барков ) นายพลผู้ที่มีความสามารถและเด็ดขาดด้านการรบ ออกไปตามล่ากลุ่มต่อต้านชนิดถอนรากถอนโคนเสียให้สิ้นและสร้างสันติภาพให้กับประเทศนี้ โดยหารู้ไหมว่าคำสั่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศรัสเซียมีด่างพลอยและมลทิลมากกว่าความชอบธรรมเสียด้วยซ้ำไป นายพล Barkov นั้นมีอำนาจอย่างมาก ถึงขั้นสามารถออกคำสั่งและบัญชาการได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเบื้องบน จึงมีคำสั่งให้กวาดล้างและจัดการผู้ต้องสงสัยและผู้เกี่ยวข้องทุกคนใน Urzikstan ทำทุกวิถีทางเพื่อลากคอกลุ่มต่อต้านออกมาให้ได้ โดยการบุกรุกประเทศ Urzikstan ครั้งนี้เป็นระดับกองทัพบุกรุกประเทศกันเลยทีเดียว ( ถ้านึกไม่ออกว่ากองทัพ Barkov ระดับ Scale มันใหญ่ขนาดไหน ให้นึกถึงกองทัพสหรัฐฯได้บุกอิรักในปี 2003 )

Farah และ Hadir เหยื่อจากความรุนแรงของสงคราม

Farah Karim ในปี 1999 นั้นเธอยังเป็นเด็กไร้เดียงสา ที่จู่ๆ ก็มีระเบิดจากเครื่องบิน Sukhoi Su-25 Frogfoot จนทำให้เธอที่มากับ Fatima Karim แม่ของเธอถูกซากตึกทับเสียชีวิตทันที ส่วนตัวเองนั้นรอดชีวิตราวกับปาฎิหาริย์ จนมีหน่วยกู้ภัยมาช่วยได้จากเสียงสังกะสีที่เธอเคาะใต้ซากตึก เหตุการณ์นี้ทำให้ Walid Karim ที่ตะโกนหาลูกสาวก็ดีใจที่ลูกสาวรอดแต่เสียใจที่ภรรยาตัวเองตาย ก่อนจะถามหา Hadir Karim น้องชายของเขาซึ่งเขาอยู่ที่บ้าน ก่อนจะไปเจอทหารรัสเซียที่นำโดยกัปตัน Barkov เริ่มทำการเปิดฉากยิงด้วยกระสุนและแก๊ซเคมีจนต้องหนีเข้าบ้าน แต่ไม่วายพวกทหารรัสเซียได้เข้ามาและฆ่า Walid ทำให้สองพี่น้องต้องทำการสังหารคนครั้งแรกเพื่อเอาตัวรอดและหนีออกจากประเทศ

ระหว่างสองพี่น้องหลบหนีออกจากพื้นที่ ที่เต้มไปด้วยแก๊ซพิษ จะรู้ได้เลยว่าคำสั่งให้ทหารรัสเซียสังหารผู้ต้องสงสัยหรือสั่งเก็บกวาดไม่เว้นแม้เด็กหรือคนเจ็บ ล้วนเป็นคำสั่งโดยตรงจากนายพล Barkov ทั้งสิ้นโดยที่ทางการรัสเซียไม่รู้เรื่องราวการสังหารหมู่ครั้งนี้ เพราะสั่งแค่ไปตามล่ากลุ่มต่อต้าน ไม่ใช่การสังหารคนไม่มีทางสู้ แต่ด้วยอำนาจและบารมีของนายพล Barkov นั้นสูงมากทำให้ทหารรัสเซียไม่กล้าขัดคำสั่ง

ในช่วงที่หนีออกจากพื้นที่แก๊ซได้ก็หมายจะขโมยรถบรรทุกของพวกรัสเซียออกไป แต่ติดที่ว่ามีทหารเฝ้าอยู่สองคน Farah เลยอาสาที่จะสังหารทิ้ง เมื่อทางสะดวกพวกเขาทั้งสองจึงเตรียมขึ้นรถหนีไปด้วยกัน แต่ทว่าสุดท้ายก็ถูกนายพล Barkov จับตัวไว้และเริ่มสนใจตัว Farah ขึ้นมาจากวีรกรรมของเธอก่อนจะจับโยนเข้าสถานกักกันค่าย Tobrak

เหตุการณ์ Tobrak Prison Break ในปี 2009

ณ ค่ายกักกัน Tobrak ประเทศ Urzikstan ซึ่ง Farah, Hadir รวมถึงเด็กและผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยถูกจับเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ถูกจับอยู่ในที่แห่งนี้ ทุกคนจะถูกโกนผม ถูกซ้อมและทรมานด้วยฝีมือของ Barkov แน่นอนว่า Farah จะไม่ทนอีกต่อไปเริ่มรวมตัวตั้งกลุ่มหมายจะแหกคุกพร้อมกับส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังภายนอก ซึ่งผ่านไปสิบวันก็ยังไม่มีการตอบกลับ แต่แผนการแหกคุกก็รั่วไหลไปถึงหูนายพล Barkov จึงได้ถูกทรมานและซ้อมเพื่อเค้นข้อมูลออกมาโดยมีเพื่อนร่วมคุกของเธอเป็นตัวประกัน หากผู้เล่นสามารถประคองสติตอนจับทรมานเอาน้ำกรอกปากและตอบคำถามของ Barkov ที่ต้องการได้ถูกต้อง เพื่อนร่วมคุกก็แต่ก็แลกกับการคายข้อมูลว่าตัวเองคือ Commander Karim หรือผู้ที่จะเริ่มรวมตัวต่อต้านรัสเซียในคุก แต่หากเราโดนทรมานจนหมดสติหรือไม่คายข้อมูล เพื่อนเราก็จะตาย

และการกระทำของนายพล Barkov ในช่วงที่เราเกือบถูกฆ่าเพราะการบีบคอ Barkov ก็ได้กล่าวประโยคที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องรัสเซียจากผู้ก่อการร้าย นั้นหมายความว่า เขาเป็นพวก Ultranationalism หรือพวกคลั่งชาติแบบสุดโต่ง และอีกประการหนึ่งเลยก็คือเขาเป็นสหายกับ Zakaev ด้วย แน่นอนว่าภาคนี้ Zakaev ถูกกล่าวเพียงแค่สัญลักษณ์ของกลุ่มในด่านแรกและพูดถึงชื่อในช่วงฉากจบของเกมแต่ไม่ปรากฎตัวให้เห็น

หลังจากรอดจากการโดนบีบคอเพราะมีกองกำลังปริศนาจู่โจมค่าย ทำให้เธอรอดออกมาได้แล้วใช้ช่วงนี้แหกคุกไปพร้อมกับนักโทษคนอื่นๆ และพลาดท่าเกือบจะโดนยิงแล้ว แต่ก็มีหน่วยรบพิเศษ Special Air Service หรือหน่วย S.A.S ของอังกฤษที่นำโดย John Price มาช่วยได้ทันเวลาซึ่งเขามียศเพียงแค่ร้อยโทในขณะนั้น แน่นอนว่าข้อความที่พวก Farah ได้ส่งออกไปยังภายนอกได้ถึงอังกฤษและอังกฤษก็ได้ส่งหน่วย S.A.S มาช่วยเป็นกลุ่มแรก พร้อมกับช่วย Hadir และนักโทษในนี้ทั้งหมดออกมาโดยได้นำทรัพยากรและยุทโธปกรณ์ไปด้วย โดยตอนนี้ Farah ได้พันธมิตรเป็นอังกฤษคอยหนุนหลังเป็นที่เรียบร้อย โดย Farah จะได้การสนับสนุนในการขับไล่รัสเซียโดยที่อังกฤษก็จะได้ Urzikstan เสมือนเป็นรัฐกันชนไว้คานอำนาจด้วย

Farah กับการรวมตัวกลุ่มต่อต้านอีกครั้งในปี 2010

หลังจากในปี 1999 เหล่ากลุ่มผู้ต่อต้านได้ถูกทหารรัสเซียถล่มและหลบหนีหัวซุกหัวซุน จนตอนนี้ในปี 2010 ทุกคนก็พร้อมใจให้ Farah Karim เป็นผู้บัญชาการเหล่ากลุ่มต่อต้านภายใต้ชื่อ Urzikstan Liberation Force หรือ ULF เนื่องด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและวีรกรรมของเธอแล้ว แม้จะเป็นผู้หญิงแต่ทุกคนก็พร้อมที่จะสู้เพื่ออุดมการณ์เดียวกันนั้นคือขับไล่รัสเซียและคืนอิสรภาพให้กับประเทศ อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งและเข้มงวดในการรบมากๆ และจุดนี้นี่เองทำให้เหล่าฝ่ายต่อต้านเก่าๆ ได้หันมาร่วมกับ Farah แต่ทว่าบางส่วนก็ติดตาม Omar Sulaman

กลุ่ม Al-Qatala ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2013

เกิดมาจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งมีนามว่ากลุ่มอัล กาตาล่า (อาหรับ: القتلة) เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายและพวกหัวรุ่นแรงที่จัดอยู่ในขนาดองค์ใหญ่ระดับสากล มีทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์และอาวุธหนักสารพัด มีอุดมการณ์เหมือนกับ ULF คือต้องการขับไล่รัสเซียออกจากประเทศ แต่จุดแตกต่างอยู่ที่การมีแนวคิดที่สุดโต่งโดยต้องการกำจัดอิทธิพลค่านิยมฝรั่งให้ออกไปจากดินแดนตะวันออกกลาง ด้วยการสร้างความหวาดกลัวให้กับพวกชาวตะวันตกทั้งหลายไปหลายๆ ประเทศทั้งยุโรป  แอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง และรัสเซีย รวมไปถึงทำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหาผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่รับเชื่อให้เข้ามาสวามิภักตน กลุ่ม Al-Qatala ถูกก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า Omar Sulaman ผู้มีฉายาว่า " The Wolf " มีมือขวาเป็น Jamal Rahar ฉายา " The Butcher " ซึ่งถูกก่อตั้งในประเทศ Urzikstan ในปี 2013 โดยใช้คำพูดปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อ เน้นการล้างแค้นที่พวกชาวตะวันตกเคยทอดทิ้งให้เราหนีหัวซุกหัวซุนในปี 1999 ( ทางประเทศตะวันตกก็เริ่มลอยแพเพราะการกระทำของ Omar ที่ไปก่อการร้ายในรัสเซีย ) ใช้จุดนี้เป็นแรงผลักดันให้เขากลายเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคนี้

หน่วย FSB เริ่มได้กลิ่นปลาเน่าที่ทำให้รัสเซียดูแย่

หลังจากเหตุการณ์ Tobrak Prison Break ทางหน่วยสืบราชการลับรัสเซียหรือ Federal Security Service หรือ FSB ( รัสเซีย: Федеральная Служба Безопасности; ФСБ ) พวกเขาได้จับตามองนายพล Barkov อยู่ซึ่งรู้ว่านายพลคนนี้ทำให้ประเทศรัสเซียมีแต่ปัญหา และกำลังหาหลักฐานเพื่อปลดเขาออก แต่เพราะหลักฐานและพยานที่มีนั้นอ่อนเกินไปบวกกับอำนาจที่ล้นฟ้าเลยยังทำไม่ได้ในขณะนี้ โดยเฉพาะ Nikolai ซึ่งเขาจับตามองนายพล Barkov เป็นพิเศษและพยายามลากให้ลงจากอำนาจให้ได้สักวันหนึ่ง

Fog of War กับรถขนแก๊ซแห่งความฉิบหาย

24 ตุลาคม 2019 เวลาตีห้าครึ่ง เราจะสวมบทบาทเป็น Alex รหัสเรียกขาน Echo 3-1 ซึ่งเขาเคยเป็น Delta Force มาก่อน ปัจจุบันเขาเป็น CIA ซึ่งเขาทำงานกองปฏิบัติการกิจการพิเศษ หรือ Special Activities Division ( SAD ) เสมือนเป็นหน่วยรบให้กับ CIA โดยตรง ทำงานร่วมกับเหล่ากรมปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธิน Marine Raiders Regiment ภายใต้การควบคุมของกองบัญชาการพิเศษกองทัพสหรัฐฯ Marine Corps Forces Special Operations Command ( MARSOC ) โดยได้รับภารกิจให้ทำงานร่วมกันในเมือง Verdansk ประเทศ Kastovia ( ซึ่งจริงๆ คือรัสเซียในคราบชื่อสมมุติ ) โดยมีการพบคลังเก็บอาวุธเคมีที่เป็นแก๊ซพิษของนายพล Barkov ภารกิจคือ ขโมยถังแก๊ซในโรงเก็บที่มีทหารรับจ้างของนายพล Barkov เฝ้าอยู่แล้วเผ่นออกจากพื้นที่และพยายามเลี่ยงการยิงกับทหารรัสเซียเพราะอาจจะเกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศได้ โดยเริ่มเปิดฉากให้เครื่องบินทิ้งระเบิดฟอสฟอรัสขาวเพื่อเผาพื้นที่ เคลียร์ทหารรับจ้างเพื่อให้ Alex และเหล่า Marine Raiders ทำงานได้สะดวกขึ้น

แต่ระหว่างที่ไปถึงรถขนถังแก๊ซ ก็ได้ปะทะกับ Spetsnaz ของนายพล Barkov ที่จ้างมาเข้า และได้พบกับสัญลักษณ์กลุ่มของพวก Zakaev อยู่ในลังไม้ในโกดังด้วย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่า Barkov กับ Zakaev มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน ก่อนทีมทั้งหมดจะไปถึงรถขนถังแก๊ซเตรียมเคลื่อนย้ายและหลบหนี

แต่ทว่าก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายเข้ามาโจมตีเราและ Marine Raiders ส่งผลทำให้ทีมทั้งหมดเสียชีวิตและถูกชิงรถขนแก๊ซไป ยกเว้น Alex ที่รอดชีวิตเพราะพวกมันคิดว่ายิงทหารรัสเซียแต่ยิงผิดตัวเลยต้องรีบหนีเพราะอาจจะมีปัญหากับพวกเขา ทำให้ Alex ที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บต้องรีบหนีออกจากพื้นที่โดยทิ้งศพทหารพวกเดียวกันไว้ข้างหลัง

แน่นอนว่าพวกรัสเซียได้เห็นศพเหล่า Marine Raiders และมีการตายของ Spetsnaz และสภาพคลังเก็บของในนั้นทำให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเรื่องแดงขึ้นมา ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น แต่ประเด็นสำคัญเลยคือทุกคนต่างคิดว่า กลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายที่ขโมยแก๊ซไปต้องเป็นฝีมือผู้ก่อการร้าย Al-Qatala แน่นอน งานนี้ Kate Laswell เจ้าหน้าที่ CIA ระดับสูงต้องแก้ปัญหาและต้องแบกรับความรับผิดชอบที่พาคนของนายพล Lyons ไปตายมากมายด้วย

เมื่อ Kate Laswell มีปัญหาแบบนี้จึงต้องเรียกนายทหารฝีมือดีเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Captain John Price ของเรานั้นเอง

เหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่สี่แยก Piccadilly

24 ชั่วโมงผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ Fog of War ในวันที่ 25 ตุลาคม 2019 เวลาหกโมงเย็น สิบเอก Kyle Garrick สังกัดหน่วยรบพิเศษ S.A.S อดีตเคยเป็นนายตำรวจฝีมือดี ก่อนจะมาเข้ากองทัพอังกฤษเพื่อร่วมกับหน่วยรบพิเศษนี้ ได้พยายามแกะรอยและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม Al-Qatala มาตลอดว่าพวกมันมีเครือข่ายและคนของพวกมันซ่องสุมใน London เขาพยายามขอการอนุมัติในการเข้าจัดการผู้ก่อการร้ายแต่ก็ถูกปฏิเสธตลอดเพราะหลักฐานอ่อนเกินไป จนวันนี้ซึ่งเขาคาดว่าจะเป็นวันที่ผู้ก่อการร้ายจะทำการก่อวินาศกรรมบวกกับข้อมูลเรื่องการขโมยแก๊ซจากพวกนี้ด้วยทำให้เขาตัดสินใจนำทีมตำรวจนอกเครื่องแบบ นั่งรถจับตาดูการเคลื่อนไหวภายในเมืองหลวงและก็ได้พบกับรถตู้สีขาวพร้อมกลุ่มติดอาวุธ จึงทำการลงไปแสดงตัวเพื่อจับกุม

แต่จู่ๆ รถตู้สีขาวก็วิ่งออกไปและเกิดระเบิด นี่คือจุดเริ่มต้นของการก่อวินาศกรรมของพวก Al-Qatala และแรงระเบิดนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ Brook ล้มลงและถูกพวกผู้ก่อการร้ายยิงซ้ำเสียชีวิตทันที ส่วน Kyle และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามเรามาทั้งสองคนที่เหลือและเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็ทำการยิงตอบโต้ผู้ก่อการร้ายที่เริ่มสาดกระสุนใส่ประชาชนที่ผ่านทางไปมา

หลังจากนั้นก็มีการรายงานว่าพวกผู้ก่อการร้ายผูกระเบิดไว้กับตัวประกัน ทำให้ Kyle เข้าไปในอาคารเพื่อช่วยเหลือจนเกือบพลาดท่าให้กับศัตรูที่จะเอามีดมาเสียบ แต่ Captain Price ได้เข้ามาช่วยได้ทันพอดี ก่อนจะขึ้นไปชั้นสองเพื่อปลดชนวนระเบิดให้กับตัวประกันให้ แต่ทว่าเวลาระเบิดจะทำงานในอีก 6 วินาที Price เลยตัดสินใจโยนตัวประกันลงจากชั้นสองให้ระเบิดตายคนเดียวเพื่อช่วยชีวิตตัวประกันที่เหลือทั้งหมด

หลังจากควบคุมเหตุการณ์ได้แล้ว Kyle แสดงอาการหัวร้อนและคับแค้นใจมากเพราะเขาอุตสาห์แกะรอยพวกมันเป็นอาทิตย์แล้วว่าพวกมันจงใจมาก่อวินาศกรรมที่อังกฤษ รวมถึงมีข้อมูลพวก Al-Qatala คนอื่นๆ ที่กบด่านในเมืองนี้อีกแต่กลับไม่มีใครสนใจ นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม Captain Price ถึงต้องการเขามาร่วมทำงานด้วยกันเพื่อสาวตัวถึง Omar Saluman ให้ได้นั้นเอง

ร่วมมือกับพันธมิตรเก่า เพื่อตามหาคนขโมยแก๊ซ

หลังจากที่ Alex หายดีแล้วก็เดินทางไป Urzikstan เพื่อมาหากลุ่มผู้ต่อต้านที่นำโดย Farah Karim และมี Hadir Karim เป็นมือขวาและเป็นน้องชายแท้ๆ ของเธอ โดย Alex ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือว่าใครเป็นคนขโมยแก๊ซและต้องการจับตัวการมาให้ได้ ซึ่งเธอยืนยันว่ากลุ่มของเธอไม่มีวันใช้ของสกปรกแบบนั้นแน่นอน นอกเสียจากพวก Al-Qatala ที่นำโดย Omar Saluman แน่นอน โดยเธอจะยอมช่วย Alex ในการตามหาผู้นำกลุ่มแต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือ สหรัฐฯ จะต้องสนับสนุนการต่อสู้ของพวกเธอเพื่อแลกกับการช่วยตามหาตัวการ ซึ่งทั้งสองคนก็ตกลง และกลุ่มของ Farah ก็ได้สหรัฐฯ มาเป็น Backup ให้อีกประเทศ

26 ตุลาคม 2019 เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง งานแรกที่ Alex ต้องทำเพื่อพิสูจน์ว่าเขาจะอยู่ข้าง Farah เลยก็คือการก่อวินาศกรรมยานพาหนะของพวกรัสเซียในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งทหารรัสเซียได้ควบคุมอยู่ แผนการก็คือจะใช้ระเบิด C4 ทำการระเบิดเฮลิคอปเตอร์เพื่อดึงดูดความสนใจจากฐานทัพอากาศของพวกนายพล Barkov ให้แห่มาที่แห่งนี้ หลังจากนั้นก็จะใช้กองกำลังเข้าไปยึดฐานทัพนี้ให้ได้

การวางระเบิดเพื่อล่อเสือออกจากถ้ำนั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามแต่ทว่า Farah ก็เกือบจะถูกยิงทหารรัสเซียพบตัวเข้าแต่ทั้งเธอและ Alex ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดก่อนจะกลับไปสมทบกับ Hadir เพื่อดำเนินแผนการต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม Farah ได้เสียคนของเธอไปอยู่เหมือนกัน

Proxy War สงครามตัวแทนเพื่ออิสรภาพ

Alex และ Farah ก็ได้มาสมทบมาถึงอาคารบัญชาการชั่วคราวใกล้กับฐานทัพอากาศของนายพล Barkov หลังจากที่ล่อกองกำลังหลักออกจากพื้นที่ได้แล้ว หลังจากนี้คือการโถมกำลังบุกเข้าไปโดยมีการสนับสนุนทางอากาศของสหรัฐฯ ให้การช่วยเหลืออย่างลับๆ ซึ่งจะทำให้ศึกครั้งนี้พวก Farah จะได้ชัยไปอีกหนึ่งก้าว

ในวันเดียวกัน เวลาหนึ่งทุ่ม Alex จะต้องเข้าร่วมกับทหารฝ่ายต่อต้านหรือ Urzik Militia ในการยึดฐานครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์และสร้างความเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ จะเข้าข้าง และฝ่ายต่อต้านก็จะเป็นกองกำลังกันชนคานอำนาจรัสเซีย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับสงครามตัวแทนนัก

แต่ทว่าการสนับสนุนทางอากาศนั้นจะต้องใช้เวลากว่าจะมาถึง ซึ่ง Hadir บอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะเราก็มีเครื่องบินเหมือนกัน นั้นคือเครื่องบินโดรนติดระเบิด C4 จะระเบิดเมื่อพุ่งชน ซึ่งผู้เล่นสามารถเรียกใช้งานได้ทันทีเมื่อเครื่องบินโดรนพร้อมปล่อยจากที่มั่น

สงครามตัวแทนได้เริ่มขึ้นแล้ว…

การบุกยึดฐานทัพอากาศนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก โชคดีที่ เฮลิคอปเตอร์ Apache ได้เข้ามาช่วยเหลือในจังหวะที่ลำบากพอดี ทำให้พลิกสถานะการณ์กลับมาได้รับชัยชนะ นอกจากได้ทรัพยากรแล้วก็ยังเป็นการตัดเส้นทางการขนส่งของพวก Barkov ไปในตัวด้วย

ได้เวลาเก็บกวาดบ้านกันแล้ว

วันที่ 27 ตุลาคม 2019 เวลาตีหนึ่ง ณ เมือง Camden ประเทศอังกฤษ หลังจากได้ข้อมูลแหล่งกบด่านเหล่าพวก Al-Qatala ที่แฝงตัวมาในนี้แล้ว หน่วย S.A.S ก็ได้ส่งทีมเข้าไปจัดการพื้นที่ดังกล่าวโดยเป็นอาร์พาร์ตเมนต์หลังหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งกบด่านของพวกมัน

หลังจากเคลียร์อาร์พาร์ตเมนต์เรียบร้อยแล้วเราก็ได้แหล่งที่อยู่ล่าสุดของ Omar Saluman ฉายา The Wolf ผู้นำของ Al-Qatala โดยแกะรอยจากแลบท็อปก็พบว่าพวกมันอยู่ที่โรงพยาบาล Rammaza ในเมือง Rammaza ประเทศ Urzikstan ซึ่งทั้งสองก็ได้ทำการเดินทางไปที่ประเทศนั้นทันที

ได้เวลาออกล่าหมาป่า

28 ตุลาคม 2019 เวลาหกโมงครึ่ง หลังจากได้ข้อมูลที่อยู่ล่าสุดของ Omar กลุ่มของ Farah ก็ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของมันโดยตลอดหากมันเปลี่ยนสถานที่ โดยให้กองกำลังนาวิกโยธินฯสหรัฐ ทำการปิดล้อมเส้นทางในละแวกไว้ จากนั้นก็มีการสนทนาเล็กๆ น้อยๆ และทำให้รู้ว่า Farah จะไม่มีวันให้อภัยหากคนของเธอใช้แก๊ซพวกนั้นเพื่อจัดการศัตรู ส่วน Alex ก็ได้เผยว่า ทั้งชีวิตเขารับแต่คำสั่ง สั่งไปไหนก็ไปที่นั้น เขาไม่เคยคิดเรื่องการทำตามใจอยู่ในหัวเลยสักนิด

จากนั้นภาพก็ตัดมาที่เหล่าทหาร Demon Dogs ซึ่งเป็นทีมทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างหนักหน่วง นำโดยสิบเอก Griggs ซึ่งงานนี้ Alex จะต้องลงมือร่วมกับพวกเขา ส่วนกลุ่มของ Farah ต้องแยกทางออกไปเพราะพวกนาวิกโยธินไม่อนุญาตให้เข้าเขตพื้นที่นี้ ภารกิจคือบุกโรงพยาบาล Rammaza และจับตัว Omar มาให้ได้

ระหว่างฝ่าดงศัตรู ก็มีทหารบางส่วนขาดการติดต่อไป ก็พบว่าพวกเขาถูกจับในห้องเด็กพร้อมกับ Omar หัวหน้าของพวก Al-Qatala ก็อยู่ในนี้ด้วย จึงได้เข้าอ้อมหลังทำการจับกุมและช่วยทหารที่โดนจับได้โดยไม่มีใครตาย และนำตัวหัวหน้าของพวกมันไปสถานทูตเพื่อรอเฮลิคอปเตอร์บินมารับตัวไปสำเร็จโทษในฐานะผู้ก่อการร้ายสากล

วิกฤตการสถานทูต โศกนาฏกรรมสุดหดหู่

ณ สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศ Urzikstan กลุ่ม Al-Qatala ได้ขนคนเข้ามาหน้าประตูสถานทูตและเตรียมพังเข้าไป นำโดย Jamal Rahar หรือ The Butcher มือขวาของ Omar ซึ่งระหว่างนี้เฮลิคอปเตอร์จะมารับตัวภายใน 3 นาทีซึ่งระหว่างนี้พวก Al-Qatala ก็ได้บุกสถานทูตเป็นที่เรียบร้อย

28 ตุลาคม 2019 เวลาสามทุ่ม ณ สถานทูตสหรัฐฯประจำ Urzikstan ในเมือง Sakhra เมื่อทีมหน่วย S.A.S ของ Captain Price ได้มาถึงหน้าสถานทูตผ่านทางเฮลิคอปเตอร์โดยมาพร้อมกับสิบเอก Kyle Garrick เพื่อมารับตัว The Wolf ไปรับโทษแต่เครื่องยังไม่ทันจอดก็ถูกยิงสอยจนร่วง โชคดีที่ทั้งคู่โรยตัวบนเชือกได้ทันก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะตกลงพื้น ทำให้หล่นลงมาอยู่ที่ดาดฟ้า และต้องเดินทางต่อจนไปถึงห้องกล้องวงจรปิดของสถานทูตชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบกับ Farah, Hadir และ Alex

นี่คือฉากที่ชวนหดหู่อีกฉากหนึ่งเพราะเราจะได้เห็น The Butcher ทำการสังหารพ่อและเด็กต่อหน้าต่อตาเราเพื่อบังคับให้เราเปิดประตู ซึ่งหากคิดจะเปิดก็จะเจอพวกมันรุนยิงจนตาย ฉะนั้นไม่เปิดให้พวกมันดีกว่า

หลังจากถึงจุดนัดพบแล้วแต่ประตูโรงรถไม่สามารถเปิดได้เพราะต้องใช้คีย์การ์ดของท่านทูตเท่านั้น แต่ท่านทูตถูกฆ่าตายเสียก่อน โชคดีเลขาแอบใตโต๊ะอยู่ Kyle จึงนำทางให้เธอเอาคีย์การ์ดมาให้พวกเขาได้สำเร็จ

หลังจากนั้นทั้งหมดก็หนีมาที่บ้านท่านทูตฯเพื่อรอเฮลิคอปเตอร์มารับ ก็ต้องต้านทานพวก Al-Qatala ที่จะมาชิงตัว Omar แต่ทว่าการสนับสนุนทางอากาศมีแค่โดรนยิงมิสไซล์ที่เชื้อเพลิงเหลือจำกัดเท่านั้นเพราะ Laswell ไม่อยากเสี่ยงเสียเฮลิคอปเตอร์ไปอีกลำ แม้ว่าเราจะสามารถต้านทานและไล่พวกมันกลับไปได้ แต่ Omar ก็หลบหนีไปได้ด้วยพวกสมุนระเบิดกำแพงพาหนีในห้องนิรภาพแล้วพาออกไปตอนชุลมุนนั้นเอง

Tariq Almawt ถนนแห่งความตาย

เช้าวันต่อมา วันที่ 29 ตุลาคม 2019 หลังจากเหตุการณ์ชิงตัว Omar ไป กองกำลังทหารและกองกำลังต่อต้านก็ได้ช่วยปิดล้อมค้นหาตัวหัวหน้าเพื่อบีบเส้นทางให้พวกมันขึ้นเขาซึ่งเป็นถนนสายเดียว โดยถนนนี้มีชื่อว่า Tariq Almawt หรือถนนแห่งความตาย โดย Alex, Farah และ Hadir จะดักรอจากที่สูงเพื่อลอบโจมตีหากมันเดินทางผ่านถนนเส้นนี้

Hadir ได้มอบปืนไรเฟิลซุมยิงที่ใช้กระสุนขนาด .338 Lapua Magnum เพื่อใช้ลอบโจมตีโดยจะมีการซ้อมยิงเล็กน้อยก่อนพวกมันจะเดินทางเข้ามาตามแผนที่คาดการณ์ไว้

ระหว่างดักรอก็มีคนของ Al-Qatala เดินทางผ่านมาจริงๆ แต่ไม่มีวี่แววของตัวหัวหน้าเลยและเกิดการปะทะขึ้น ทั้งกองกำลัง,ปืนครกและมือสไนเปอร์ จนกระทั่งมีเครื่องบิน MiG ( แต่ที่จริงมันคือ Su-25 ) เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรมใส่ Al-Qatala และมาพร้อมกับทหารรัสเซียของนายพล Barkov ได้เข้ามาในถนนแห่งนี้เพื่อออกตามล่า Farah ในรถหุ้มเกราะหลายคัน จน Hadir ต้องงัดไพ่ตายออกมาเพื่อต้านทหารรัสเซียด้วยการใช้แก๊ซที่เคยขโมยมาใน Chapter ที่ 1 ใส่คันรถและระเบิดให้ทหารรัสเซียตายมากที่สุด แต่การกระทำแบบนี้ก็ทำให้คนของ Farah ตายเพราะแก๊ซพิษนี้ด้วยมากมายเช่นกัน

โชคดีที่ Alex รอดชีวิตมาได้เพราะ Hadir เอาหน้ากากมาให้พร้อมกับ Farah และเขารับสารภาพว่า ในวันนั้นเขาเป็นคนขโมยรถขนแก๊ซพิษนั้น แต่เขาทำเพื่อกลุ่มต่อต้านและเพื่อพี่สาวเพียงแค่เขาไม่สนวิธีการว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม ก่อนที่เขาจะจากไป ส่วนเหตุผลที่ทำไมพวก The Wolf ไม่มายังเส้นทางนี้เพราะพวกทหารของ Barkov ได้มายังถนนแห่งความตายทำให้ไหวตัวทันนั้นเอง

บุกรังหมาป่าผู้ชะตาขาด

หลังจากที่ Alex และ Farah ได้สติคืนมาเพราะผลจากแก๊ซพิษทำให้เธอเดือดและโกรธแค้นมากที่ Hadir ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อรบด้วยวิธีสกปรกแบบนี้ แต่ Alex พยายามทำให้เธอใจเย็นเพราะเขาให้เห็นผลว่า หากเขาคิดจะฆ่าทุกคนจริงๆ เขาทำไปตั้งแต่แรกแล้วแต่เขาเลือกที่จะไม่ทำจนมันจวนตัว แต่ก็ยิ่งทำให้ Farah ตัดสินใจว่าจะต้องลากคอน้องชายตัวเองมาให้ได้ ภารกิจจากนี้จะเป็นการตามล่า Omar, Hadir และ Jamal หลังจาก Laswell ได้นำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและวิทยุแกะรอยที่ติดบนรถได้นำพาความจริงที่ว่า Hadir ต้องการร่วมมือกับ Al-Qatala มานานแล้วแต่ไม่ใช่เพื่อต้องการจะก่อการร้ายแต่เขาต้องการกำลังคนมากกว่านี้ โดยเขาไม่สนว่าพวกนี้จะดีหรือเลว ขอให้ขับไล่รัสเซียจากดินแดนนี้ก็พอ และทั้งสามคนก็มาที่หุบเขา Aqrus ซึ่งคาดกันว่าเป็นฐานใหญ่ของพวก Al-Qatala ที่หลบซ่อนมานาน แถมแก๊ซที่ Hadir ขโมยมาทั้งหมด ครึ่งหนึ่งได้แบ่งให้กับกลุ่ม Al-Qatala เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดจึงออกปฏิบัติการณ์ถล่มรังหมาป่าทันที

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2019 วันเดียวกันเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ทีมปฏิบัติการได้แบ่งออกเป็นสองทีมคือ ทีมของ Alex, Farah และทีมของ Captain Price, Kyle โดยงานนี้ Kyle และทีมจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่และซอกตึกต่างๆ เพื่อหาหลุมของหมาป่าและก็ได้พบเข้าในที่สุดจากข้อมูลของชาวบ้านว่ามีหลุมหมาป่าอยู่ที่โรงน้ำชา

หลังจากที่เจอหลุมหมาป่าแล้ว Alex และ Farah ก็ได้ลงไปในหลุมแต่เกิดการระเบิดขึ้นทำให้ทั้งสองตกมายังข้างล่างและการสื่อสารไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งสองคนต้องบุกลุยรังหมาป่าตามหาตัว Omar และ Hadir เพียงลำพัง

ระหว่างที่เราบุกเข้ารังหมาป่านั้น Hadir จะส่งเสียงร้องออกมา พยายามห้ามเราอย่ามาที่นี่มันอันตรายเกินไป และพยายามพูดให้ Farah เข้าใจว่าที่ทำไปเพื่อพี่สาวและเพื่อกลุ่มแต่เธอก็ไม่ฟังและต้องการจะจับตัว Hadir ให้ได้ ทำให้เขาตะคอกใส่และจะพิสูจน์ว่าแม้จะไม่สนวิธีการแต่ก็อยู่ข้างที่ถูกเสมอไม่เปลี่ยนแปลงก่อนจากไป

พอใกล้จะถึงรังหมาป่า Alex ก็ตกลงมาข้างล่างเพราะพื้นไม้พุจนต้องแยกทางกับ Farah แล้วหาทางขึ้นไปยังห้องหมาป่าอีกทีหนึ่ง ( ภาพนี้คือโดนเศษไม้ทับอยู่ )

เมื่อเราบุกมาถึงห้องหมาป่า ก็เห็น Omar เอาระเบิดผูกติดกับตัวเองหวังจะบึ้มไปพร้อมกัน ทำให้ Farah ( หรือเราเอง ) ต้องยิง Omar เพื่อฆ่าทิ้ง แถมต้องมาปลดสายชนวนกับเวลาไม่ถึง 20 วินาที แต่สุดท้ายก็ปลดชนวนได้สำเร็จ ภารกิจลุล่วง แม้จะไม่ได้ตัว Jamal และ Hadir อย่างน้อยหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มก่อการร้ายได้ตายลงแล้ว ตอนนี้สถานะการณ์ทางการเมืองระหว่างอเมริกาและรัสเซียนั้นตึงเครียด ไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนคลายลง อีกทั้งหลังจากเหตุการณ์ที่ Hadir ใช้แก๊ซพิษทำให้อเมริกาถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรของกลุ่ม Farah และเปลี่ยนสถานะให้กลายเป็นพวกหัวรุนแรงทันที สร้างความไม่พอใจแก่ Alex มาก แต่เขาก็เลือกทำในสิ่งที่ใจต้องการคือเลือกที่จะขัดคำสั่งและยืนยันต่อสู้เคียงข้างกับ Farah ก่อนจะจากไปและตัดความสัมพันธ์ทั้งอเมริกาและอังกฤษ ยกเว้น Alex ที่เขาพิสูจน์ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังอยู่ข้าง Farah

ทาง Laswell ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าแก๊ซพิษเหล่านี้ได้ถูก Jamal หรือ The Butcher ขนไปยังรัสเซียเพื่อก่อการร้าย แต่แน่นอนว่ามันก็จะส่งผลไปถึงนายพล Barkov ด้วย ซึ่งมันก็จะมีอยู่สองทางเลือกคือ หนึ่งปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายใช้แก๊ซพิษ ผู้บริสุทธิ์ในรัสเซียก็จะต้องตาย หลักฐานที่ชาวตะวันตกเคยสนับสนุนกลุ่มคนพวกนี้ก่อการก่อการร้ายจะถูกเปิดเผย แต่แลกกับการที่ว่ารัสเซียจะมีหลักฐานมากพอที่จะสามารถเล่นงานนายพล Barkov ได้ และอีกข้อคือ การเตือนรัสเซียให้ระวัง คนบริสุทธิ์จะไม่ต้องตายแต่หลักฐานที่จะมัดตัว Barkov ก็จะหลุดลอยไป ชาว Urzikstan ก็จะยังคงทุกข์ทรมานต่อ ทำให้ Captain Price เลือกหนทางที่สามคือ ลักลอบเข้ารัสเซียแล้วหยุด Jamal ด้วยตัวเอง โดยพา Kyle Garrick ไปยังเมือง St. Pertersburg ประเทศรัสเซีย ในวันที่ 31 ตุลาคม 2019 เวลาห้าโมงเย็น

แม้ว่าจะไปด้วยกันสองคนแต่โชคดีที่มีสหายเก่าอย่าง Nikolai ซึ่งทำงานใน FSB หรือหน่วยสืบราชการลับของรัสเซียที่อำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลจนสามารถจับกุม Jamal ได้สำเร็จ แต่เกือบจะปะทะกับตำรวจท้องถิ่นเพราะเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดในตอนแรก

ทีนี้เราก็ทำการสอบสวนและซ้อมสวน Jamal ให้บอกที่ซ่อนแก๊ซพิษซึ่งเขาก็ไม่ยอมบอกจนต้องเอาลูกเมียของเขามาขู่ ซึ่งหากเราเข้าร่วมการสอบสวน เราสามารถเลือกที่จะยิง Jamal เพื่อฆ่าหรือไว้ชีวิตก็ได้ หรือหากไม่เข้าร่วมสอบสวน Captain Price จะเป็นคนจัดการเองซึ่ง Jamal จะไม่โดนฆ่าแต่หน้าจะอ่วมเลือดแทน ไม่ว่าจะทางไหนสุดท้ายก็ได้ที่ซ่อนแก๊ซพิษและกองไว้ในห้องให้ตำรวจมาจับกุมตัวไป เท่านี้ รัสเซียก็ไม่มีคนตายจากแก๊ซพิษ อีกทั้งยังได้ตัวแก๊ซพิษที่เป็นหลักฐานเชื่อมไปถึงตัวนายพล Barkov ได้ด้วย แต่หลักฐานแค่นี้ยังไม่เพียงพอเพราะขาดแหล่งที่มาในการผลิตแก๊ซ เราต้องบุกถึงบ้านพักหลังใหญ่ของ Barkov เพื่อหาหลักฐาน เพียงแต่ว่า Hadir ก็หมายจะเอาชีวิต Barkov ด้วยเช่นกัน

Going Dark บุกคฤหาส์น Barkov

1 พฤศจิกายน 2019 เวลา 5 ทุ่ม ณ คฤหาส์น Barkov เมือง Baurci ใน Moldova งานนี้หน่วย Captain Price และ Kyle Garrick ได้ โดยมีเหตุผลสำคัญคือ รีบไปยังคฤหาส์นให้ไวที่สุดก่อน Hadir กับพรรคพวก Al-Qatala จะไปฆ่าเขาก่อนที่จะได้ตัว หากเขาฆ่า Barkov ตายก่อน มันจะกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ทันที เพราะ Barkov นั้นมีอำนาจที่ใหญ่และหลายฝ่ายยังไม่รู้ด้านมืดของเขาเพราะหลักฐานยังไม่มัดตัวหนาพอ และเมื่อทั้งคู่ถึงที่หมายก็พบว่า พวกศัตรูยังคนลาดตระเวณและค้นหา Barkov นั้นหมายความว่าพวกมันยังไม่เจอตัวท่านนายพล เรายังมีโอกาสที่จะพบตัวก่อน แต่ถ้าหากไม่อยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็ต้องมีหลักฐานชิ้นสำคัญ

หลังจากลอบเล้นเข้าไปในอาคาร ลอบยังศัตรู Al-Qatala ก็ขึ้นมาห้องทำงานของนายพล Barkov ได้จนกระทั่งได้เจอกับ Hadir ที่เขาได้ข้อมูลโรงงานที่ผลิตแก๊ซซึ่งเป็นโรงงานของ Barkov เอง เขาบอกว่าเขากำลังจะไปถล่มโรงงานและฆ่ามันเพราะมันไม่อยู่ที่นี่ แต่คุยกันได้ไม่นาน ทหารของ Barkov ก็เข้ามาจู่โจมจนทำให้ทั้งสามต้องหลบหนีเข้าไปในอุโมงใต้ดิน โชคดีที่ได้ทั้งข้อมูลและได้ตัว Hadir

หลังจากจับกุมตัว Hadir ได้ Laswell ก็ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์แล้วมาบอกว่า ทางรัสเซียต้องการตัว Hadir เพื่อแลกเปลี่ยนนักโทษกัน และจะเป็นการลดความตึงเครียดกับข้อพิพาทในคราวก่อนด้วย เพราะ Hadir เป็นพยานสำคัญในการเอาผิด Barkov นั้นเอง ซึ่ง Captain Price ยอมให้ตัว Hadir กับเธอแต่ข้อมูลโรงงานของ Barkov นั้นเขาจะไม่ให้เพื่อที่จะใช้เจรจากับกลุ่มของ Farah อีกครั้ง

ชีวิตเลือกที่จะสละได้เพื่อให้โลกสะอาดขึ้น

หลังจากนั้น Captain Price และ Kyle ก็เดินทางมา Urzikstan เพื่อเจรจากับ Farah อีกครั้ง คราวนี้เธอต้อนรับไม่ค่อยเป็นมิตรนัก แต่ด้วยหลักฐานข้อมูลโรงงานของ Barkov รวมถึงบุคลากรทั้งหมด ทำให้เราสามารถจัดการกับ Barkov ได้ขั้นเด็ดขาดโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาอะไรอีกแล้ว ตอนแรก Farah ลังเลที่จะช่วยเพราะที่ตั้งโรงงานแก๊ซอยู่ทีท่จอร์เจีย ซึ่ง Captain Price ก็ตอบแบบกวนๆ ว่า ยังไงคนก็โทษผู้ก่อการร้ายอยู่แล้ว เธอเลยยินดีจะตกลงช่วยเหลือภารกิจระดับ Black Ops นี้ด้วยการส่งคนของเธอไปร่วมรบด้วย และจะเป็นภารกิจสุดท้ายของภาคนี้ด้วย

3 พฤศจิกายน 2019 เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง ณเมือง Borjomo ประเทศจอร์เจีย ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งโรงงานผลิตแก๊ซพิษของนายพล Barkov ช่วงแรกเราจะได้เล่นเป็น Alex ทำงานร่วมกับหน่วย S.A.S สองคน พร้อมกับกลุ่มต่อต้านของ Farah และอาวุธหนักรวมถึงการสนับสนุนทางอากาศเป็นกองกำลังผสมไม่ต้องกลัวว่าเรามาบุกรุกประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องเพราะนี่คือสงครามที่จะปกปิดตัวตนแม้กระทั่งในหน้าประวัติศาสตร์ โดยแผนการนี้จะให้ Nikolai ลักลอบปลอมตัวเป็นบุคลากรในโรงงานและเตรียมระเบิดและชนวนระเบิดไว้เพื่อใช้ระเบิดเตาเผาและท่อส่งแก๊ซ โดย Nikolai จะเตรียมระเบิดให้ข้างในเมื่อเราบุกมาถึงหน้าเตาพลังงานได้ ซึ่งคราวนี้ถึงคราวชะตาขาดของ Barkov เพราะเขาได้อยู่ที่นี่ด้วย

หลังจากที่พวกของ Alex บุกมาถึงเขตเตาเผาได้ Farah ก็ถามว่าทำไมเขาทำงานให้รีสเซียถึงมาช่วยพวกเราล่ะ ซึ่ง Nikolai ก็เฉลยมาว่า Barkov นั้นสร้างความเน่าเฟะไว้ให้กับรัสเซียมานานพอแล้ว และตอนนี้หลักฐานก็มัดอย่างแน่นหนา เขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไว้แน่นอน และที่ผ่านมาที่รัสเซียได้กระทำอย่างโหดเหี้ยมต่อชาว Urzikstan นั้นก็ล้วนมาจากฝีมือ Barkov ทั้งสิ้น โดยคราวนั้นรัสเซียไม่รู้เรื่องข่าวความโหดร้ายของนายพลท่านนี้เลย

แต่ปัญหาก็ตามมาอีกครั้งเมื่อ Alex ถูกทหารของ Barkov สวมชุด Juggernaut ( ชุดเกราะหนักและปืนกล Minigun ) ทำให้ตัวจุดชนวนพัง ซึ่งเขาต้องสู้กับมันพักใหญ่กว่าจะชนะได้ ( เหมือนลาสบอสของเกมเลยแฮะ ) กว่าจะมาบอก Farah ซึ่งก็ทำให้เธอตกใจเหมือนกัน และหากไม่มีตัวจุดชนวน ระเบิดก็ไม่ทำงานเว้นแต่จุดชนวนด้วยมือ ซึ่ง Alex ยอมสละชีวิตเพื่อไปจุดชนวนด้วยมือเอง และเขาก็บอกให้ Farah ไปคิดบัญชีกับ Barkov ซะก่อนที่เขาจะหนีไปได้

ตัดมาที่ทางฝั่ง Captain Prince และ Kyle กันบ้าง ซึ่งพวกเขาก็เจอกับทหารของ Barkov ยิงกดดันอย่างหนัก แต่ก็ไม่คณามือทั้งสองคนนี้ จนสามารถบุกถึงโซนท่อส่งแก๊ซและติดตั้งระเบิดได้สำเร็จ

ตัดภาพมาที่ Farah ได้ลักลอบแอบขึ้นบนเฮลิคอปเตอร์ของ Barkov ที่กำลังจะหนีก่อนจะกระหน่ำแทงจนเกือบสิ้นใจ ซึ่งตอนจบนี้เราสามารถเลือกประโยคส่งท้ายก่อนถีบส่ง Barkov ให้ตกเฮลิคอปเตอร์ได้อย่างหล่อๆ หลังจากทุกอย่างจบลงก็เหลือเพียงการจุดระเบิดเพื่อทำลายโรงงานแก๊ซพิษ Alex ได้ทำการจุดชนวนด้วยมือและระเบิดไปพร้อมกับโรงงาน…Alex ถูกระบุว่าเสียชีวิตในหน้าที่แต่หลังจากการระเบิดก็ไม่มีใครพบศพของเขา จึงถูกตั้งอยู่ในสถานะ M.K.I.A หรือ Missing Killed in Action

ซึ่งแท้จริงแล้ว คนขับเฮลิคอปเตอร์นั้นก็เป็น Nikolai เองที่แอบขึ้นมาและอำนวยความสะดวกให้ Farah ล้างแค้น ซึ่งการฆ่า Barkov ตอนนี้ก็ไม่เป็นเหตุชนวนให้เกิดสงครามโลกอีกต่อไปเพราะทางรัสเซียได้ประกาศถอดยศเป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่รัสเซียยังไม่รู้ก็คือ เขาตายไปแล้วนั้นเอง หลังจากนั้น Nikolai ก็อาสาขับเฮลิคอปเตอร์พา Farah ไปส่งที่ Urzikstan บ้านของเธอ และหลังจากนั้นรัสเซียก็ไม่รุกราน Urzikstan อีกเลย ความสงบสุขและอิสรภาพก็กลับคืนในประเทศอีกครั้ง….แต่ก็ไม่นานนักหรอก

การกลับมาอีกครั้งของสหายเก่า

หลังจากเรื่องราวของ Barkov จบลง แต่ทว่ากลุ่มหัวรุนแรงก็ยังไม่หมดสิ้น Al-Qatala ยังไม่ตายไป มีคนสานต่อโดย Khaled Al-Asad ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มแทน Omar Saluman และกลุ่มคลั่งชาติอย่าง Zakaev ที่ยังลอยนวลอยู่หลังจากที่ Captain Price เคยลอบสังหารเขาครั้งหนึ่งแต่ไม่ตาย แถมได้ข่าวว่า ได้ลูกชาย Viktor เป็นผู้สืบทอดกลุ่มคลั่งชาตินี้อีก ทำให้ Price ตัดสินใจจัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษหรือ Task Force ในนาม Task Force 141 ซึ่งจะได้ Kyle "Gaz" Garrick, John "Soap" MacTavish และ Simon "Ghost" Riley เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย…ซึ่งแน่นอนว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามกันได้ใน Call of Duty: Modern Warfare ภาค 2 แน่นอน!

==================================================

ก็จบลงไปแล้วสำหรับไทม์ไลน์แบบเนื้อๆ เน้นๆ ของเกม Call of Duty: Modern Warfare ที่จริงเนื้อเรื่องมีต่อในโหมด Co-op แต่คิดว่าบทความนี้ยาวเกินไปจึงขอเฉพาะส่วนที่เป็น Single Player ก่อน หากมีโอกาสจะทำเนื้อเรื่องในโหมด Co-op ให้อ่านกันอีกที แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

         

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0