หลายปีนี้มีคนขอให้ผมช่วยตั้งชื่อลูกหลาน ก็คิดชื่อไปไม่น้อย แต่เมื่อไรก็ตามที่ใครขอให้ตั้งชื่อมงคล ผมปฏิเสธ บอกว่าพวกเขาควรไปหาหมอดู เพราะการที่ผมตั้งชื่อให้ ก็ไม่เป็นมงคลในตัวมันเองแล้ว มิเพียงผมไม่เชื่อเรื่องนี้เลยแม้แต่นิด ยังต่อต้านด้วย
ให้คนไม่เชื่อเรื่องชื่อมงคลตั้งชื่อมงคล ก็น่าจะไม่ค่อยมงคลแต่แรกแล้ว!
การตั้งชื่อมงคลไม่ใช่เรื่องผิด ใครๆ ก็อยากได้ชื่อดี มีความหมายดี แต่หากหมกมุ่นถึงขนาดคิดว่าชื่อเป็นต้นเหตุของความเจริญหรือความวิบัติของชีวิต ก็เข้าข่ายงมงาย
ถ้าเป็นชาวพุทธ ก็สวนทางกับหลักพุทธโดยสิ้นเชิง
ในบรรดาความเชื่ออำนาจเหนือธรรมชาติทั้งหลาย ชื่อมงคลน่าจะเป็นเรื่องที่ไร้ตรรกะที่สุด เพราะแม้หลักฐานขัดแย้งตำตา ผู้คนก็เลือกจะเชื่อ
กติกาง่ายๆ ของนามมงคลคือ ไม่ตั้งชื่อด้วยอักษรกาลกิณี โดยเฉพาะอักษรแรก
กาลกิณีแปลว่าเสนียด จัญไร อัปมงคล
กติกาของความเชื่อนี้คือ หากชื่อนำด้วยอักษรกาลกิณีหรือมีอักษรกาลกิณีในชื่อ จะเป็นอัปมงคล ส่งผลให้ชีวิตตกต่ำ ไม่ประสบความสำเร็จ ทุกข์ยาก
อักษรกาลกิณีของคนเกิดวันต่างๆ มีดังนี้
เกิดวันอาทิตย์ : ศ ษ ส ห ฬ อ
เกิดวันจันทร์ : สระ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
เกิดวันอังคาร : ก ข ค ฆ ง
เกิดวันพุธกลางวัน : จ ฉ ช ฌ ญ
เกิดวันพุธกลางคืน (ราหู) : บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
เกิดวันพฤหัสบดี : ด ต ถ ท ธ น
เกิดวันศุกร์ : ย ร ล ว
เกิดวันเสาร์ : ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
ที่น่าคิดก็คือ ถ้าอักษร ก เป็นมงคลต่อชีวิตสำหรับคนเกิดบางวัน ทำไมเสียเวลาตั้งชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร ก ให้วุ่นวาย ทำไมไม่ตั้งชื่อว่า ‘กกกกกกกกกกกกก’ จะได้มงคลยิ่งขึ้นไปอีก
คนชื่อ ‘กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก’ ก็ย่อมโชคดีกว่าคนชื่อ ‘กกก’ หลายเท่า
…………..
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทยเมื่อปี พ.ศ. 1826 โดยทรงดัดแปลงอักษรขอมหวัดและอักษรไทยเดิม ซึ่งดัดแปลงมาจากอักษรมอญ ทรงออกแบบสระและวรรณยุกต์ เพื่อแทนเสียงต่างๆ ได้ทุกคำ ให้สระและพยัญชนะอยู่ในบรรทัดเดียวกัน เรียกอักษรใหม่นี้ว่า ลายสือไทย
สมมุติว่าในช่วงนั้นอิทธิพลจีนยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้ พ่อขุนรามคำแหงฯก็อาจทรงใช้อักษรจีนเป็นต้นแบบในการดัดแปลง อักษรไทยวันนี้ก็คงมีโครงสร้างแบบจีน หรือหากช่วงนั้นชาวกรีกมา และได้รับอิทธิพลจากละติน ภาษาไทยตอนนี้ก็ต่างออกไป อาจมีหน้าตาคล้าย A B C ความมงคลของอักษร ก ข ค ก็ไม่ดำรงอยู่ ทันใดนั้นอักษรกาลกิณีของไทยก็ไม่ดำรงอยู่ในโลก อำนาจแห่งอักษรแบบ ก ข ค ง จู่ๆ หายไปได้อย่างไร? คำสาปแช่งว่า “ถ้าใช้อักษรกาลกิณี ชีวิตจะแย่” มาจากไหน? ใช้หลักอะไร?
ผมไม่รู้ว่าแฟชั่นตั้งชื่อด้วยอักษรมงคลของเราอิงกับชื่อวันนั้นเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไร จำได้ว่าตอนเด็ก เราไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้ เกิดมาตัวดำก็ตั้งชื่อว่า ดำ เกิดมาตัวแดงก็ตั้งชื่อว่า แดง
ปัญหาของคนไทยคือ เราโดนสองเด้ง เพราะเราผูกสิ่งที่เรียกว่า ‘อักษรมงคล’ เข้ากับวันมงคล
เมื่อนำสิ่งสมมุติของวันมารวมกับสิ่งสมมุติเรื่องอักษรไทย แล้วตั้งเป็นหลักว่า อักษรนี้เป็นมงคลกับคนเกิดวันจันทร์ อักษรนั้นเป็นมงคลกับคนเกิดวันอังคาร ฯลฯ จึงเท่ากับเหลวไหลซ้ำสอง
อักษรไทยไม่ได้งอกมาจากดิน ไม่ได้เกิดบนท้องฟ้า เราประดิษฐ์มันขึ้นมาเอง
มีสิ่งประดิษฐ์อะไรในโลกที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตเราได้?
…………..
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับอักษรมงคล-กาลกิณี
ก่อนหน้าที่อักษรไทยถือกำเนิดในปี พ.ศ. 1826 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำงานแผนกภาษาไทยอยู่ที่ไหน? เพิ่งเกิดมาในวันที่พ่อขุนรามฯ ทรงประดิษฐ์อักษรหรือ? ตอนที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม สั่งลบอักษรไทยออกไปเกือบครึ่ง อำนาจศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน? ทำไมอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทำอะไรจอมพล ป. ไม่ได้? ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่คัดค้านหรือลงโทษ? อักษร ข ขวด ค คน (ขออภัยที่ต้องใช้อักษร ข กับ ค เพราะแม้แต่ในคีย์บอร์ดก็ไม่มี) เลิกใช้ไปแล้ว เป็นผลงานของอำนาจศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?
แปลว่าอำนาจศักดิ์สิทธิ์นั้นเกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ ประดิษฐ์ภาษาใหม่ขึ้นมาเมื่อไร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จัดสรรเทวดามาดูแลภาษาใหม่นั้นๆ หรือ?
สมมุติว่าเราเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำไมเราจึงทำงานให้เฉพาะภาษาไทย ทำไมไม่รวมอีกเกือบเจ็ดพันภาษาทั่วโลก? ทำไมต้องรอให้ภาษาไทยเกิดขึ้นในโลกจึงเร่ิมปฏิบัติการอักษรมงคล? เมืองไทยมีอะไรดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้แต่คนไทย?
หากอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทำงานกับอักษรไทย ได้ทำงานกับภาษาอื่นหรือไม่ ภาษาจีน อินเดีย อังกฤษ เยอรมัน ฯลฯ
อำนาจศักดิ์สิทธิ์รวมภาษาคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่? ภาษา BASIC, ภาษา C, ภาษา COBOL, ภาษา FORTRAN, ภาษา Pascal ฯลฯ
รวมภาษามือด้วยหรือไม่? หากขยับมือขยับเท้าผิดจังหวะ ชีวิตจะแย่ลงหรือไม่?
วันหนึ่งเมื่อชาวโลกย้ายไปตั้งถิ่นฐานในดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ มีโอกาสสูงมากที่ระบบประเทศจะหายไปจากโลก เราจะแบ่งเพียงชาวโลก ชาวอังคาร ชาวยูโรปา ชาวไทตัน เวลานั้นประเทศไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ฯลฯ จะหายไปจากโลก อาจรวมทั้งภาษาด้วย ถึงเวลานั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำงานแผนกภาษาไทยก็หมดหน้าที่เช่นนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง มนุษย์ก็มีอำนาจเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?
เทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำงานเป็นประเทศหรือไม่? ก่อนที่โลกจะแบ่งเป็นประเทศเป็นภาษา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้อยู่ที่ไหน หรือเพิ่งปรากฏตัวในนาทีที่มีการแบ่งประเทศและประดิษฐ์ภาษาขึ้นมา?
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำงานอย่างไรในกรณีภาษาซึ่งอักษรเดียวกันออกเสียงต่างกันมากมายตามภาษาท้องถิ่น เช่น ภาษาจีน
ในกรณีที่ภาษาสาบสูญไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะหายไปด้วยหรือไม่?
เราดูอักษรหรือความหมาย? ถ้าชื่อความหมายดีมาก แต่อักษรไม่ได้อยู่ในตารางมงคล ชื่อนั้นก็ส่งผลร้ายเลยหรือ? ถ้าชื่อนั้นใช้อักษรกาลกิณี แต่ความหมายมงคล จะยังมีความมงคลไหม เช่น ชื่อ เลิศ ประเสริฐ มงคล ที่ไม่ตรงกับวันเกิดมงคลของเจ้าของชื่อ คำว่า เลิศ ประเสริฐ มงคล ก็จะเป็นอัปมงคลเช่นนั้นหรือ?
ทำนองเดียวกัน หากคนเกิดวันพุธ อักษร บ เป็นมงคล ตั้งชื่อว่า บัดซบ ชีวิตยังเป็นมงคลหรือไม่? หรือเกิดวันอังคาร ช เป็นมงคล ตั้งชื่อตัวเองว่า ชั่วช้า ก็ยังเป็นมงคลหรือ?
อักษรกาลกิณีรวมนามสกุลไหม? ถ้าไม่รวม ทำไมจึงไม่รวม ในเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของชื่อ? ถ้ารวมแปลว่าทุกคนที่ใช้นามสกุลนั้นจะดีหรือแย่เหมือนกัน ถ้านามสกุลไม่มงคล แต่ชื่อเป็นมงคล จะหักลบกันได้หรือไม่? สมัยก่อนที่เมืองไทยใช้นามสกุล อำนาจศักดิ์สิทธิ์ไม่ทำงาน?
สัตว์ที่เกิดในเมืองไทยอยู่ในอำนาจศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยไหม? ในเมื่อเราตั้งชื่อสัตว์ด้วย
คนชื่อ John (จอห์น) เกิดวันพุธ อักษร จ เข้าข่ายกาลกิณี แต่ถ้าแปลว่า ยอห์น ก็จะมงคลขึ้นมาทันที ทั้งที่เป็นชื่อเดิม?
คนชื่อ Jose ถ้าเกิดวันพุธ ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงเป็นอักษร จ แต่ไม่มีผล เพราะในกรณีนี้ J ออกเสียงเป็น ฮ Jose ออกเสียง โฮเซ หรือยังเป็นกาลกิณี?
คนอินเดียชื่อ Singh (สิงห์) เกิดวันอาทิตย์ อักษร ศ ษ ส เป็นกาลกิณี ก็ต้องสะกดเป็น ซิงห์ ห้ามสะกด สิงห์ ศิงห์ ษิงห์ เช่นนั้นหรือ? หรือว่าคนอินเดียไม่ตกในอำนาจเหนือธรรมชาติชนิดนี้? หรืออำนาจเหนือธรรมชาติก็แบ่งสัญชาติ? ความมงคลและกาลกิณีของอักษรไทยทำงานเฉพาะคนถือสัญชาติไทยเท่านั้น? หรือคนชื่อ Singh (สิงห์-ซิงห์) อยู่อินเดียไม่เป็นไร แต่จะเกิดปัญหาทันทีที่เดินทางเข้าประเทศไทยเท่านั้น?
ทำนองเดียวกัน คนไทยที่ใช้อักษรกาลกิณี แต่หากสะกดเป็นภาษาอังกฤษแล้วไม่กาลกิณี จะยึดอันไหน หรือว่าหารสอง หรือว่าอย่างไร? เช่น ธานี (Tanee) เกิดวันพฤหัส ใช้ ธ ก็เป็นอักษรกาลกิณี แต่สมมุติว่า ธานี สะกดว่า Thanee หรือ Dhanee มันจะลดความไม่มงคลลงครึ่งหนึ่งไหม ในเมื่อตัว ห (h) เป็นอักษรมงคล?
คนที่ใช้ชื่ออักษรควบกล้ำทำงานอย่างไร คนชื่อ ปลอด ถ้า ป เป็นมงคล ล ไม่มงคล แปลว่าความมงคลลดลง 50 เปอร์เซ็นต์หรือไม่? ในเมื่อออกเสียงว่า ปลอด ไม่ใช่ ปอด ดังนั้น ล ก็ต้องนำมาคิดด้วย?
ถ้าคนชื่อหวายเกิดวันศุกร์ ตัว ว ซึ่งเป็นกาลกิณีก็ไม่ออกฤทธิ์เพราะมี ห (ไม่กาลกิณี) นำหรือ?
คนชื่อหวาย เสียงออก ว เป็นหลัก อักษร ห เป็นแค่ตัวกำหนดระดับเสียงหรือวรรณยุกต์ ทำงานอย่างไร? หารสอง?
จะเห็นว่าการกำหนดว่าอักษรใดเป็นมงคล หรือเป็นกาลกิณีไม่ได้ตั้งบนธรรมชาติหรือหลักทางวิทยาศาสตร์ใดๆ เป็นเพียงความเชื่อลอยๆ เป็นการมั่วโดยไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
…………..
ภาษาเปลี่ยนแปลงได้ วิวัฒนาการได้ เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารกัน เป็นรหัสสมมุติที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อสื่อสาร ภาษาไม่ได้เกิดมากับโลก ภาษาไม่ใช้กฎธรรมชาติ การยึดโยงเอาว่ามันสามารถนำความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้จึงเป็นการหลอกตัวเองเท่านั้น เพราะคิดเองเออเอง มันไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีหลักการอะไรทั้งสิ้น นึกให้มันเป็นอย่างไรก็เป็นได้
คำตอบก็คือมีใครบางคนคิดเกมอักษรมงคลขึ้นมาแก้กลุ้ม กำหนดให้ ก มงคล, ข ไม่มงคล, ค มงคล, ง ไม่มงคล ฯลฯ แล้วก็มีคนยินดีโอบรับความเชื่อนี้
การกำหนดว่าคนเกิดวันไหนต้องใช้อักษรอะไรก็ไม่ต่างจากการใช้ยานพาหนะ เพราะเป็นเรื่องของเครื่องมือเหมือนกัน ไม่ต่างจากการโยงยี่ห้อรถยนต์เข้ากับวันเกิด เช่น เกิดวันจันทร์ต้องใช้รถโตโยตา เกิดวันอังคารต้องใช้นิสสัน เกิดวันพุธใช้เบนซ์ ฯลฯ
ที่น่าขันก็คือ แต่ถ้าใช้อักษรมงคล เราก็บอกว่าเป็นเพราะใช้ชื่อตรงตำรา ถ้าชื่อคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตใช้อักษรกาลกิณี เรายกประโยชน์ให้กรรมดีในชาติก่อน เป็นคำอธิบายที่ง่ายดี
หากใช้มันเพื่อสิริมงคล สบายใจก็ไม่เป็นไร เช่น คนจีนนิยมใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของความมงคล ดูสดใส แต่หากคลั่งไคล้ความเป็นมงคลของมัน ก็เท่ากับตกเป็นทาสของความเขลา
ถ้าจะเปลี่ยนชื่อด้วยเหตุผลเดียวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่นคือเบื่อชื่อเก่า ชอบชื่อใหม่มากกว่า หรือเปลี่ยนหนีเจ้าหนี้ ก็เป็นเรื่องที่สมควร แต่หากเปลี่ยนเพราะเชื่อว่าชื่อใหม่จะทำให้รวยขึ้น อย่างนี้ก็คือความมืดบอดทางปัญญา
…………..
บางทีบทพิสูจน์ที่ง่ายที่สุดว่าอักษรมงคล-กาลกิณีจริงหรือเหลวไหลคือดูตัวอย่างจริง ทั้งคนที่ประสบความตกต่ำสุดขีด ชีวิตพินาศฉิบหาย กับคนที่ประสบความเจริญ มีชื่อเสียง ผู้คนยกย่อง
พระนางมารี อังตัวเนตต์ ประสูติในวันอาทิตย์ อักษร ม เป็นมงคล แต่ไม่อาจช่วยเปลี่ยนจุดจบโศกนาฏกรรมของพระองค์ได้เลย
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เกิดวันเสาร์ ชื่อใช้อักษร อ ซึ่งจัดว่าเป็นมงคล แต่สิ่งที่เขาทำตรงกันข้ามกับความเป็นมงคล และเป็นผู้ที่ถูกสาปแช่งมากที่สุดคนหนึ่งในโลก
ประธานาธิบดี นิโคไล เชาเชสกู เกิดวันเสาร์ ชื่อของเขาเป็นอักษรมงคลแท้ๆ เขาถูกยิงเป้าข้อหาเป็นเผด็จการที่กดขี่ประชาชน
ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เกิดวันอังคาร ชื่อของเขาเป็นอักษรมงคล เขาตายขณะลี้ภัยในต่างประเทศ เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกคนในประเทศสาปแช่ง ฯลฯ
ในฝั่งตรงกันข้าม ธอมัน เอดิสัน เกิดวันพฤหัส อักษร ธ เป็นกาลกิณี แต่เขาทำคุณประโยชน์ให้ชาวโลกมหาศาล ชื่อของเขาจารึกในประวัติศาสตร์ไปอีกนาน
นิโคลา เทสลา เกิดวันพฤหัส ชื่อของเขาเป็นกาลกิณี แต่ผลงานของเขาเลื่องชื่อเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกเหลือคณานับ
แต่บางทีอักษรกาลกิณีอาจเป็นจริงกับผมก็ได้!
ผมเกิดวันที่ 23 มีนาคม 2499 วันศุกร์ อักษร ว คือกาลกิณี
ไม่เพียงเท่านั้น ทุกอักษรกาลกิณีประจำวันเกิด ย ร ล ว อยู่ในชื่อนามสกุลผมครบถ้วน
มิน่าเล่าผมจึงยังไม่รวยสักที
…………..
วินทร์ เลียววาริณ
ความเห็น 26
BEST
คนเรานั้นไม่ว่าชื่อจะขึ้นต้นด้วยตัวอ้ษรใดก็ตาม สำคัญที่สุดนั่นก็คือแบบอย่างที่ดี และการชี้นำให้ถูกทางรับรองได้ดีทุกคน.
01 เม.ย. 2562 เวลา 12.44 น.
smile:)
BEST
ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้มงคลที่สุดแล้ว หน้าตาที่มีมาแต่กำเนิดมงคลที่สุดแล้ว เห็นไปเปลี่ยนชื่อไปทำหน้า ร่างกาย ไม่เห็นใครจะรุ่งเรือง
02 เม.ย. 2562 เวลา 00.00 น.
T😊R🌸
BEST
ชื่อดีก็เป็นศรีแก่ตัว แล้วถ้าประพฤติดีประพฤติชอบด้วยก็ยิ่งจะเป็นมงคลกับชีวิตและครอบครัว
01 เม.ย. 2562 เวลา 11.54 น.
สมบูรณ์ พุทธิเสน
เอ้า ....!!!!,ฮาาาาาาาาาาาา
01 เม.ย. 2562 เวลา 12.04 น.
Pao
หนังไทย 2499 อันธพาลครองเมืองดังจะตาย ยุคนั้นผมจ้างมาฉาย แม่ค้าขายของไม่ได้เลยครับ ผมเองก็ไม่เชื่อครับเรื่องนี้ ขอบคุณอาจารย์ครับ
01 เม.ย. 2562 เวลา 11.59 น.
ดูทั้งหมด