โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

บ่นทึก : #หลังเดาะDiary เมื่อแมวอ้วนพาแม่ผจญภัยไปในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชมสุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ - แมวอ้วนตัวนั้นที่เจอนั่นเจอนี่

LINE TODAY SHOWCASE

เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2564 เวลา 07.59 น. • แมวอ้วนตัวนั้นที่เจอนั่นเจอนี่

บ่นทึก : #หลังเดาะDiary ภาคทัศนศึกษา เมื่อแมวอ้วนพาแม่ผจญภัยไปในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

บุกทะลุเวลาสุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ เต้ เต้ เต้ (ให้เสียงโดยชมรมสมาคมพันธัมม๊ายยยย)

สวัสดี มิตรรักแฟนเพลงผู้อ่านทุกท่าน กับชื่อตอนยาวเหยียดอะไรก็ไม่รู้เช่นเคย

วันนี้ หลังจากผลัดวัน ไม่ตื่น หนีฝน และอื่น ๆ

ตามมาตั้งแต่ข่าวแว่วมา ว่าจะมาเปิดงานนะ ว่าจะมาจัดแสดงนะ

คุยกันตั้งแต่วันแรกๆเลยว่า จะไปตั้งแต่วันที่เปิด

เวลาล่วงมาเกือบสิบวัน บวกกับ ข่าวที่ว่า

คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เลยปะ ตื่นเช้ากัน

แต่ได้ออกจากบ้านเที่ยงนะจ๊ะ

รถไม่ติดเท่าไหร่ แต่ท้องยังว่างอยู่นิดหน่อย

เอาวะ สู้ ไปแบบท้องว่างๆนี่แหละ

นิทรรศการนี้ ตามจริงแล้วจัดแสดงอยู่ที่ซีอานประเทศจีน นี่เค้าก็อุตสาห์หอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาเลย จะได้ไม่ต้องนั่งเครื่องไปถึงจีน

นิทรรศการพิเศษ “จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา”

จัดขึ้นในระหว่าง วันที่ 15 ก.ย.-15 ธ.ค. 2562 เวลา 09.00 น. - 16.00 น.

 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร

การเดินทางสะดวก แต่ไม่แนะนำให้เอารถมาเพราะไม่มีที่จอด

เมื่อเดินเข้ามา จะมีเจ้าหน้าที่ให้เข้าแถว

และก็ถามว่า แมวอ้วนเป็นนักศึกษารึเปล่า เอ้อ แปลว่าหน้าตายังพอได้อยู่นะ

แต่ลืมเอาบัตรนิสิตมา เลยเสียเงินค่าเข้าชมตามระเบียบ

ราคาแพงมาก แพงจนงง 30 บาทรักษาทุกโรค

ส่วนแม่เปี่ยม ได้สิทธิวัยรุ่น 60+ อาวุโสโอเคมากๆ เข้าฟรีครับผม

ก็มานั่งรอด้านหน้า รอไม่นาน ก็มีการบรีฟกฏการเข้าชมเล็กน้อย

ว่าด้วยเรื่องกระเป๋าและการถ่ายภาพ

ซึ่ง เราเห็นด้วยกับอาจารย์ ติโรธตรงที่ ขอคำนิยามของคำว่า

“กระเป๋าเล็ก” ที่ห้ามเอาเข้าหน่อย เพราะว่า คำว่าเล็กของแต่ละคนไม่เท่ากันจ้ะแม่

นี่เอากระเป๋ามาแบบเล็กสุด และลำบากมาก เพราะต้องอุ้มน้องมิ้งไปเที่ยวด้วย

ไหนจะเสื้อหนาวอีก ทุลักทุเลมากก จะถ่ายรูปทีนึงก็กองของไว้หลุมนึง อะไรก็ไม่รู้

คนไม่เยอะมาก ด้วยความว่ามาก่อนเที่ยงด้วย แต่ก็โชคร้ายนิดหน่อยตรงที่มีกลุ่มเด็กมัธยมมาพอดี

 โวยวายมาก แถมมีแขวะฉันอีก ว่าด้วยการเอามิ้งมาถ่ายรูปบอก “อ๋อ ติ่งเกาหลี” เสียดายคิดไม่ทัน น่าจะตอบไปว่า

“ถูกต้องค่า” งี้ ช้าไป แมวอ้วนช้าไปมาก

นอกจากเรื่องกระเป๋า ก็มีเรื่องของน้ำ และ การถ่ายรูปที่ไม่ให้เอากล้องใหญ่ กับกล้องวีดีโอเข้า

กับเวลาที่ค่อนข้างจำกัด

คือห้องละ 15 นาทีโดยประมาณ

แบ่งการแสดงออกเป็นทั้งหมดสี่ห้อง

ห้องที่หนึ่งคือ ว่าด้วยเรื่องความเป็นมา ประวัติคร่าวๆ เครื่องที่ขุดได้ การเปรียบเทียบระยะเวลากับช่วงประวัติศาสตร์โลก

และประวัติศาสตร์ไทย หม้อไห หัวหอกธนู อาวุธต่างๆ มีการจำลองกองทัพและพื้นที่สุสาน ว่าด้วยเรื่องก่อนการรวมชาติ

และพัฒนาการในการนำสำริดมาใช้สร้างสิ่งต่างๆ

ห้องที่สองคือ การเล่าประวัติของท่านจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวมเอาแผ่นดินจีนเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกัน

ประวัติของพระองค์น่าสนใจมากๆ และ เป็นผู้ที่ทำให้จีนเป็นปึกแผ่นเดียวกัน ปฏิรูประบบการปกครอง กำหนดมาตรฐานชั่ง ตวง วัด

ระบบเงินตรา ภาษาเขียน และยังเป็นผู้ริเริ่มการสร้างกำแพงเมืองจีนอีกด้วย เป็นคุณูปการอย่างยิ่งของประเทศจีน

 ทำให้จีนกลายเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญของโลกในเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบัน

มาถึงห้องที่สาม ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของการจัดนิทรรศการครั้งนี้ ก็คือตัวทหารดินเผา

ตัวจริงจำนวน 4 ตัวบวกม้าหนึ่งตัว และการจำลองรถม้าพระที่นั่งของจิ๋นซีฮ่องเต้

การขุด ว่าเจอได้อย่างไร สถานที่ๆพบเจอ ประวัติคร่าวๆ และ(ที่ดูจากทีวีมานะ)

บอกว่า นี่ยังเป็นแค่ส่วนน้อยมากนะที่ขุดเจอและเปิดให้เข้าชม ความจริงอาจจะมีมากกว่านี้เยอะเลยก็ได้

แต่ด้วยวิทยาการการดูแลรักษายังไม่ดีพอ เลยขอเก็บเอาไว้ก่อน

อะ กลับมาที่รถม้าซึ่งถือเป็นไฮไลท์มากๆ การให้ข้อมูลต่างๆก็ละเอียดที่สุด ขอชื่นชมมา ณ ที่นี้

ห้องที่สี่คือว่าด้วยเส้นทางสายไหม ราชวงศ์ฮั่น (ทุกครั้งที่กล่าวถึงฮั่น เราจะอ้างอิงกะแม่ว่า อ๋อ สมัยมู่หลานใช่ไหม)

การปกครองหลังจากที่รวมแผ่นดินได้แล้ว วิทยการต่างๆ เครื่องมือ เครื่องปั้น อาวุธ เครื่องดนตรีต่างๆ ข้อมูลอัดแน่นแบบยอมแล้วว

แต่ละห้องก็คือ ข้อมูลเยอะมาก ยอมใจคน research ข้อมูลมาก

แต่ตัวหนังสือเยอะมาก และคนเยอะมาก ก็เลยได้อ่านแค่ผ่านๆ

อย่างห้องที่เป็นไฮไลท์ที่ มีรถม้าจำลอง

แอร์เย็น เพราะต้องรักษาอุณหภูมิก็จริง ก็เข้าใจอยู่นะ

แค่ว่า มันถ่ายรูปยากมาก

หรือไม่แน่ ก็คืออยากให้ชมด้วยตา มากกว่าที่จะถ่ายรูป

แต่ เซลฟี่กล้องหน้าดันชัด ก็งงๆนะ

ก็เป็นอันจบ นิทรรศการไม่ใหญ่มาก แต่คนอ่ะเยอะมากกก

อะไรที่ห้ามก็ทำหมด

กระจกไม่ให้จับ เพราะมันจะร้อง ก็จับ

เส้นแดงขีดไม่ให้ล้ำ ก็จะเข้าไปดูใกล้ๆ

ถ่ายรูปอยู่ก็เดินผ่าน

ห้ามวิดีโอ ก็บอกว่า ถ่ายบูมเมอแรง

ไอใส่หัว

และ ไม่มีมารยาท

มีกลุ่มพระเดินผ่าน น้องผู้หญิงเดินตัดหน้าพระเฉยเลย

งงมาก เหมือนไม่สนใจอะไร นอกจากให้ได้รูปไปลงเฟซ

น้องผู้ชายก็นะ อะไรก็ไม่รู้ อาจารย์ก็ไม่ห้ามค่ะ

พี่ละเพลียจริงๆ

จบช่วงแมวอ้วนชวนบ่น ไปต่อค่ะ

ด้านการอำนวยความสะดวกแก่ เด็ก สตรี คนชรา ผู้พิการ

ก็..จะบอกว่า ดีในระดับนึงนะ รถเข็นเข้าได้ ทางเดินกว้าง มีทางลาดให้รถเข็น

ส่วนเด็ก ที่เห็นคือพ่อแม่อยากมาละอุ้มมา น้องก็จะกลัวๆหน่อย เพราะแสงมันน้อย

หุ่นก็แอบน่ากลัวนะ..ห้องน้ำโอเค (ค่ะ เราไปถึงจุดที่รีวิวห้องน้ำกันแล้ววว)

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลได้แน่นมากด้วย อย่างเช่นตอนนั้นเราเห็น ที่ข้างๆ ตัวม้า มีรูขนาดใหญ่อยู่

เราก็เลยถามแม่ว่า ทำไมต้องมีรู แม่บอกแม่ก็ไม่รู้ และก็เดากันไปต่างๆ นาๆ จนเลยตัดสินใจถามพี่เจ้าหน้าที่ว่า

ทำไมม้าถึงมีรูตรงกลางคะ พี่เค้าบอกว่า เอาไว้เวลาอบ..หรือว่าเวลาถ่วงเรือเป็นอับเฉาเนี่ย ไม่แน่ใจ ก็..อะไรประมาณนี้แหละ

ตอนจะออก มีให้ซื้อหุ่นดินเผาจำลองกลับบ้านไปตั้งไว้ประดับสวนด้วย แม่หันมาถาม เอามั๊ย เราบอก ไม่เป็นไร เกรงใจ แต๊งกิ้วววว

นิทรรศการดีๆ มีมาให้ชมอยู่ยาวถึงสามเดือน แอร์เย็นฉ่ำ ข้อมูลอัดแน่น

ราคาตั๋วถูกและถือเป็นความรู้ที่น่าสนใจมากๆ อยากจะชวนมาดูกันเยอะๆ ค่ะ

ขอจบในส่วนของนิทรรศการไว้ก่อน ตอนหน้าจะมาว่าด้วยเรื่องตัวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติล้วนๆ ว่า

สามสิบบาทของท่านที่จ่ายมา คุ้มค่ามากกว่าราคาบัตรมากเพียงไร

แมวอ้วนตัวนั้นที่หน้าใส พี่เค้าเลยคิดว่ายังเรียนอยู่ จะบู๊ล้างผลาญกับกลุ่มเด็กเรียน สวัสดีค่ะ

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0